ตลาด‘กองทุนรวม’วูบ15% เงินไหลออกเฉียด‘4แสนล.'

ตลาด‘กองทุนรวม’วูบ15% เงินไหลออกเฉียด‘4แสนล.'

“มอร์นิ่งสตาร์” เผยไตรมาสแรกปีนี้  เงินไหลออกตลาดกองทุนรวม 3.9 แสนล้านบาท  ฉุดสินทรัพย์สุทธิเหลือ 4.6 ล้านล้านบาท หรือลดลง 15.3%   ชี้กองตราสารหนี้เงินออกมากสุดเป็นประวัติการณ์ 4.5แสนล้านบาท   ขณะที่“กองทุนรวมทองคำ"ให้ผลตอบแทนสูงสุด 9.2%

นางสาวชญานี จึงมานนท์ นักวิเคราะห์กองทุน ประจำประเทศไทย บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ซ(ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมกองทุนรวมไทยไตรมาสแรกปี2563 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (AUM) อยู่ที่ 4.6 ล้านล้านบาท ลดลง 15.3% จากสิ้นปี 2562 มีเงินไหลออกสุทธิ 3.9 แสนล้านบาท โดยเงินไหลออกจากกองทุนรวมตราสารหนี้สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 4.5 แสนล้านบาท กลุ่มตราสารทุนมีเงินไหลออกสุทธิ 2.4 หมื่นล้านบาท เช่นเดียวกับกลุ่มกองทุนผสม และกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์เงินไหลออกสุทธิเช่นกัน  มีเพียงกลุ่มตราสารตลาดเงินที่มีเงินไหลเข้าสุทธิ 1 แสนล้านบาท

สำหรับAUM กองทุนรวมไทย (ไม่รวมกองทุนปิด, ETF, REIT, Infrastructure fund) อยู่ที่ 3.6 ล้านล้านบาท ลดลง 17.1% จากสิ้นปี2562  แยกเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ ลดลง 23.2%, กองทุนตราสารทุนลดลง 25.1% และกองทุนผสมลดลง 14.9% มีเพียงกองทุนตราสารตลาดเงินที่มีมูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 18.2%

ทั้งนี้  ตลาดกองทุนรวม ได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัยลบ ทั้งเศรษฐกิจชะลอ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตลาดหุ้นไทยค่อย ๆ ปรับตัวลงในช่วงเดือนม.ค-ก.พ.และลงรุนแรงในเดือนมี.ค. ที่ผ่านมานี้ อีกทั้งตลาดตราสารหนี้ประสบกับภาวะสภาพคล่องที่ไม่ปกติ มีการไถ่ถอนหน่วยลงทุนรายวันเป็นมูลค่าสูง เป็นเหตุให้ธนาคารแห่งประเทศไทย  (ธปท.)ออกมาตรการดูแล

ด้านภาพรวมผลตอบแทนกองทุนสินทรัพย์เสี่บงส่วนใหญ่ยังไม่ดีนัก มีเพียงกลุ่มกองทุนตราสารหนี้ที่เป็นบวก ขณะที่กองทุนรวมทองคำให้ผลตอบแทนสูงสุด 9.2% และต่ำสุดเป็นกองทุนน้ำมันที่ติดลบมากถึง 52.1% ตามทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก

ส่วนกองทุนหุ้นไทยได้รับผลกระทบที่ชัดเจนตามตลาดหุ้นที่ปรับตัวลงโดยมีมูลค่าทรัพย์สินลดลง 26-29%  มีเงินไหลออกสุทธิ 7.8 พันล้านบาท ประกอบกับมีเงินไหลออกจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว( LTF ) ต่ำกว่าในอดีต 

     ทั้งนี้ ช่วงไตรมาสแรกปีนี้ มีเพียงกลุ่มกองทุนจำนวน 13 กลุ่มที่มีเงินไหลเข้าสุทธิ โดยส่วนใหญ่เป็นเงินไหลเข้าในระดับพันล้านบาท และมีเพียงกลุ่ม Money Market, Moderate Allocation และ Property Indirect ที่เป็นการลงทุนในประเทศ ส่วนกลุ่มตารการเงิน หรือ Money Market ที่มีเงินไหลเข้าสูงสุด  อาจเกิดจากการสับเปลี่ยนจากterm fund หรือการขายหน่วยลงทุนกองทุนประเภทอื่นเพื่อลดความเสี่ยงจากสถานการณ์ปัจจุบัน

สำหรับกลุ่มกองทุน Short Term Bond เป็นกลุ่มที่มีเงินไหลออกสุทธิสูงสุด 2.5 แสนล้านบาท  จากไถ่ถอนหน่วยลงทุนของกองทุนจาก บลจ. ทหารไทยซึ่งเป็นเหตุให้มีการปิดกองทุน  4กองทุน เป็นกลุ่ม Short Term Bond 3 กองทุน มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวมกันกว่า 1.8 แสนล้านบาท ขณะที่กองทุนจาก บลจ. อื่นในกลุ่มนี้ที่ได้รับผลกระทบเช่นกันทำให้ในเดือนมี.ค.มีมูลค่าเงินไหลออกสุทธิรวม 3.1 แสนล้านบาท อีกหนึ่งกองทุนบลจ.ทหารไทยที่ปิดเป็นกลุ่ม Mid/Long Term Bond มีมูลค่าทรัพย์สินที่ 6.4 หมื่นล้านบาท จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้มูลค่าเงินไหลออกสุทธิของกลุ่มกองทุนนี้ค่อนข้างสูง