เปิดคำวินิจฉัย 'กกต.' เดินหน้าฟ้องอาญา 'ธนาธร' ถือหุ้นสื่อผิดกฎหมาย

เปิดคำวินิจฉัย 'กกต.' เดินหน้าฟ้องอาญา 'ธนาธร' ถือหุ้นสื่อผิดกฎหมาย

เดินหน้าฟ้องอาญา "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ถือหุ้นสื่อ ผิดกฎหมายเลือกตั้ง เผยคำวินิจฉัย กกต. ส่วนปมถือหุ้น 13 บริษัทในเครือไทยซัมมิท ยังต้องรอลุ้นคำวินิจฉัยศาล รธน.

เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต. ที่ 46/2563 เรื่องการเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งก่อนและหลังประกาศผลการเลือกตั้ง กกต.ได้รับคำร้องว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ ได้กระทำการอันฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 98(3) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2560 มาตรา 151 ประกอบมาตรา 42(3)

กรณีนายธนาธรเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ โดยรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ได้รับเลือกตั้ง หรือทำหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อของตนเองเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ

โดย กกต.ได้พิจารณารายงานการไต่สวนตลอดจนพยานหลักฐานต่างๆที่เกี่ยวข้องประกอบกันแล้ว ได้ความว่า ในประเด็นที่ 1 และ 2 นายธนาธรถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในบริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด และประเด็นที่ 3 นายธนาธรถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นใน 13 บริษัท ในเครือไทยซัมมิท

ประกอบด้วย บริษัทไทยซัมมิท โอโตโมทีฟ จำกัด, บริษัทไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด, บริษัทไทยซัมมิท พลาสเทค จำกัด, บริษัทจึงพัฒนาโฮลดิ้ง จำกัด, บริษัทไทยซัมมิท เชป คอร์ป จำกัด, บริษัทไทยซัมมิท ฮาร์เนส จำกัด(มหาชน), บริษัทไทยซัมมิท บ้านโพธิ์ จำกัด, บริษัทไทยซัมมิท โกลด์ เพรส จำกัด, บริษัทไทยซัมมิท โอโตเพรส จำกัด, บริษัทไทยซัมมิท พีเค ระยอง โอโคพาร์ท อินดัสตรี จำกัด, บริษัทไทยซัมมิท พีเค คอร์ปอเรชั่น จำกัด, บริษัทไทยซัมมิท พีเคเค จำกัด และบริษัทไทยซัมมิท พีเคเค เอนจิเนียริง จำกัด จึงเป็นลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.

ขณะที่การไต่สวนศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีคำวินิจฉัยว่านายธนาธรเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ซึ่งประกอบกิจการสื่อมวลชนอยู่ในวันที่ 6 ก.พ.2562 ซึ่งเป็นวันที่พรรคอนาคตใหม่ยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ มีผลให้สมาชิกภาพ ส.ส.ของนายธนาธรสิ้นสุดลงนั้น

ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่านายธนาธรรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ได้สมัครรับเลือกตั้งหรือทำหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อของตนเองเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ

อันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2560 มาตรา 151 ประกอบมาตรา 42(3) ตามคำร้อง จึงสั่งให้ยุติการไต่สวนและให้ดำเนินคดีอาญาแก่นายธนาธร พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2560 มาตรา 151 ประกอบมาตรา 42(3) ในประเด็นที่ 1 ส่วนประเด็นที่ 2 และ 3 ให้รอผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวข้องก่อน