TOP นำทีมหุ้นโรงกลั่นพุ่ง รับอานิสงส์โอเปกปรับลดกำลังผลิต

TOP นำทีมหุ้นโรงกลั่นพุ่ง รับอานิสงส์โอเปกปรับลดกำลังผลิต

ราคาหุ้นกลุ่มโรงกลั่นมีแรงซื้อเข้ามากันคึกคัก ขานรับอานิสงส์ที่ประชุมกลุ่มโอเปกพลัสมีมติปรับลดกำลังผลิตน้ำมันลง ดันราคาหุ้น TOP นำทีมพุ่งแรง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้พบความเคลื่อนไหวราคาหุ้นกลุ่มโรงกลั่นมีแรงซื้อเข้ามากันคึกคัก หลังที่ประชุมกลุ่มโอเปกพลัสมีมติปรับลดกำลังผลิตน้ำมันลง โดยหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นนำโดย บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ดีดตัวขึ้น 5.71% มาอยู่ที่ระดับ 37.00 บาท หรือเพิ่มขึ้น 2.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 350 ล้านบาท, บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ดีดตัวขึ้น 3.24% มาอยู่ที่ระดับ 19.10 บาท หรือเพิ่มขึ้น 0.60 บาท มูลค่าการซื้อขาย 10.96 ล้านบาท, และบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC ดีดตัวขึ้น 4.72% มาอยู่ที่ระดับ 4.88 บาท หรือเพิ่มขึ้น 0.22 บาท มูลค่าการซื้อขาย 49.83 ล้านบาท และอาทิ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC ดีดตัวขึ้น 2.46% มาอยู่ที่ระดับ 2.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น 0.06 บาท มูลค่าการซื้อขาย 34.78 ล้านบาท

ขณะที่ด้านบล.กรุงศรี ระบุว่าราคาน้ำมันดิบ WTI ยังเคลื่อนไหวผันผวนในทิศทางลงแม้ช่วยแรกจะปรับตัวขึ้นประมาณ 1.8$/bbl รับข่าว OPEC+ ปรับลดกำลังการผลิต 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่ถัดมาราคาน้ำมันดิบก็ปรับตัวลงและปิดตลาดในแดนลบ หลังจากที่ โกลแมน แซคส์ ออกมาคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงอีกในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้าจากตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบที่จะพุ่งขึ้นหลังดีมานด์ชะลอตัวซึ่งเป็นผลกระทบจากมาตรการ lockdown และ กลุ่ม OPEC+ ลดกำลังการผลิตน้อยเกินไป ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดตลาดลดลงไป 35 เซนต์ (-1.5%) ปิดที่ระดับ 22.4 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เราคงมุมมองเดิมคาดระยะสั้นราคาน้ำมันดิบจะ Sideway ในกรอบ 23-26$/bbl เพื่อรอความชัดเจนจากการปรับลดกำลังการผลิตของประเทศนอก OPEC+