ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกเร่งตัวขึ้น

ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกเร่งตัวขึ้น

การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ที่ยังคงเพิ่มขึ้นนั้นจะกดดันต่อทิศทางการลงทุน

ตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์

SET วันก่อนปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,228 จุด (+17.55 จุด) หรือ +1.45% ด้วย Volume ซื้อขาย 5.4 หมื่นล้านบาท โดยแม้ว่าจะมีแรงขายในกลุ่มน้ำมันและปิโตรฯกดดันดัชนีเนื่องจากผิดหวังกลุ่มโอเปกพลัสลดกำลังการผลิตน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตามดัชนีสามารถปิดแดนบวกได้จากแรงซื้อในกลุ่มที่ Valuation ยังน่าสนใจ เช่น FIN PROP และ COMM รวมถึงแรงหนุนจากการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ  อย่างไรก็ตามนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,191 ล้านบาท  และขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 17 ล้านบาท รวมถึง Net Long TFEX 3,722 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

เรามีมุมมองเป็นกลาง-ลบคาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,215 – 1,240 จุด (อิงการอ่อนตัวก่อนสลับรีบาวด์) โดยแม้ว่าภาวะตลาดจะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นหลังโอเปกพลัสบรรลุข้อตกลงลดการผลิตลง 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน ประกอบกับรัฐบาลต่างๆทั่วโลกเร่งออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจทั้งลดดอกเบี้ย ปล่อยซอฟท์โลน แจกเงิน เพื่อช่วยเหลือประชาชนและธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ Covid-19 อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ที่ยังคงเพิ่มขึ้นนั้นจะกดดันต่อทิศทางการลงทุนซึ่งล่าสุดยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกพุ่งขึ้นเป็น 1.77 ล้านราย และยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 1.08 ราย โดยเฉพาะในสหรัฐกลายเป็นประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากที่สุดส่งผลให้ปธน.ทรัมป์ยังไม่เปิดเศรษฐกิจสหรัฐจนกว่าจะแน่ใจว่าประชาชนรอดพ้นจากไวรัสดังกล่าวซึ่งสถานการณ์นี้เป็นลบต่อภาพเศรษฐกิจทั่วโลกรวมถึงทิศทางการลงทุน

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 ค่อนข้างน้อย ICT (ADVANC, INTUCH, DTAC) และกลุ่มอาหาร (CPF)
  • กลุ่มหุ้น Defensive ที่มีรายได้สม่ำเสมอ GPSC, BGRIM, GULF
  • กลุ่มหุ้น Dividend yield สูง (TTW, BCPG)

หุ้นแนะนำวันนี้

  • IVL (ปิด 24.8 ซื้อ/เป้า 38) คาดกำไรสุทธิ 1Q20 โดดเด่นสุดหากเทียบกับผลประกอบการของกลุ่มปิโตรฯและกลุ่มโรงกลั่นซึ่งคาดว่า 1Q20 จะมีผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันดิบจำนวนมาก เบื้องต้นเราคาดว่า IVL จะพลิกมีกำไรสุทธิ 1.9 พันล้านบาทใน 1Q20 เทียบกับขาดทุนสุทธิ 1.5 พันล้านบาทใน 4Q19 ได้แรงหนุนจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น และ PTA – PET Spread สูงขึ้นโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย
  • BCPG (ปิด 14.3 ซื้อ/เป้า 19.8) เป็นหุ้น Defensive ที่ Valuation ไม่แพงซื้อขายบน PE ต่ำเพียง 10 เท่าจ่ายปันผลสม่ำเสมอให้ Dividend yield ประมาณ 5-6% ต่อปี เทียบกับ PE เฉลี่ยของกลุ่มที่ 20-30 เท่าและ Dividend yield ประมาณ 2% นอกจากนี้ BCPG ยังมี Growth story จากจำนวน MW ที่เพิ่มขึ้น จากโครงการโรงไฟฟ้า Nam San 3A และ 3B ในเวียดนาม, โรงไฟฟ้าพลังงานลม Swan กำลังการผลิต 270MW ในลาว และโรงไฟฟ้า solar สี่แห่ง 75MW ในญี่ปุ่น

บทวิเคราะห์วันนี้

ERW (ปิด 2.9 ซื้อ/เป้าใหม่ 4.0 เดิม 4.7)

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (+/-) กลุ่ม OPEC+ มีมติลดกำลังการผลิต 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่ประเทศนอกกลุ่ม OPEC+ ยังไร้ข้อสรุป: หลังจากที่กลุ่ม OPEC+ มีการประชุมยืดเยื้อตลอดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดสามารถบรรลุข้อตกลงในการลดกำลังการผลิตเบื้องต้นแล้ว โดย OPEC+ จะลดกำลังการผลิตลงประมาณ 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่ 1 พ.ค. – 30 มิ.ย. และจะลดลงเป็น 8 ล้านบาร์เรลต่อวันตั้งแต่ ก.ค.- ธ.ค. 2020 ส่วนปีหน้าจะลดลงเป็น 6 ล้านบาร์เรลต่อวัน เรามีมุมมองเป็นกลางกับปัจจัยนี้ เนื่องจากตลาดรับรู้ไปก่อนแล้ว แต่สิ่งที่ตลาดคาดหวังคือการลดกำลังการผลิตของกลุ่มนอก OPEC+ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน โดยเฉพาะสหรัฐ, แคนาดา, บราซิล และนอร์เวย์ (คาดหวังกลุ่มนี้จะลดกำลังการผลิต 5 ล้านบาร์เรลต่อวัน)  ปัจจัยนี้จะยังกดดัน Upside ของตลาดและคาดว่าจะทำให้ราคาน้ำมันดิบ WTI เคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway ในกรอบ 23-26$/bbl จนกว่าจะมีความชัดเจนจากประเทศนอกกลุ่ม OPEC+
  • (-) สหรัฐประกาศภัยพิบัติทั่วประเทศหลังมีจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก: สหรัฐประกาศให้รัฐทั้ง 50 รัฐ อยู่ในภาวะภัยพิบัติ หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากไวรัส Covid-19 มากเป็นอันดับ 1 ของโลก โดยล่าสุด (12 เม.ย.2020) สหรัฐมีจำนวนผู้ติดเชื้อรวม 560,000 ราย มากกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศจีนซึ่งเป็นจุดกำเนิดของการระบาดเกือบ 7 เท่าตัว (จีนมีผู้ติดเชื้อ 82,000 ราย และสหรัฐมีจำนวนผู้เสียชีวิตรวม 22,000 ราย ซึ่งเป็นจำนวนผู้เสียชีวิตมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก แซงหน้าอิตาลีที่เดิมมีจำนวนผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 19,800 คน ประเด็นนี้อาจจะสร้างความผิดหวังให้กับตลาดเนื่องจากเดิม ทรัมป์ เคยระบุว่าจะยกเลิกมาตรการ Lockdown ในช่วงวันอิสเตอร์แต่จะสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ยังไม่ลดลงเชื่อว่าการยกเลิกมาตรการดังกล่าวน่าจะถูกขยายออกไป
  • (+) ไทย - จำนวนผู้ติดเชื้อ Covid-19 รายใหม่เพิ่มขึ้น 33 ราย ต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือน: สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส Covid- 19 ในไทยมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ล่าสุด (12 เม.ย.) ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเพียง 33 ราย นับเป็นตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่น้อยที่สุดในรอบกว่า  1 เดือน ส่งผลให้ปัจจุบันไทยมีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 2,551 ราย ส่วนด้านจำนวนผู้เสียชีวิต ไทยยังมีผู้เสียชีวิตจากไวรัส Covid-19 ต่อเนื่องทุกวันแต่จำนวนค่อนข้างทรงตัวที่ระดับ 1-3 รายต่อวัน โดยวานนี้ (12 เม.ย.) มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 3 ราย ส่งผลให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตรวมเพิ่มขึ้นเป็น 38 ราย แม้จำนวนผู้ติดเชื้อในไทยจะลดลงแต่จำนวนผู้ติดเชื้อในต่างประเทศยังเพิ่มขึ้นทำให้การระบาดของ Covid-19 จะยังเป็นปัจจัยลบกดดันตลาดต่อเนื่องอีกในสัปดาห์นี้