ขึ้นขายทำกำไร

ขึ้นขายทำกำไร

สัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวขึ้นกว่า 89 จุด หรือ +7.8% จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกที่เริ่มทีแนวโน้มดีขึ้น

หลังจากตัวเลขผู้ป่วยใหม่เริ่มชะลอตัวลง รวมทั้งยอดผู้ป่วยใหม่ภายในประเทศเริ่มเพิ่มขึ้นในระดับน้อยกว่า 100 คนต่อวัน ขณะที่วันศุกร์ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,228.03 จุด (+17.55 จุด) Volume 5.4 หมื่นลบ. ต่างชาติ -1,190.92 ลบ. TFEX Net +3,722 สัญญา ตราสารหนี้ -17 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+/- ตลาดเงิน-หุ้น-น้ำมัน-ทองคำนิวยอร์กปิดทำการวันศุกร์ที่ 10 เม.ย. เนื่องในวัน Good Friday

+/-ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกทะลุ 1.8 ล้านราย ยอดผู้เสียชีวิต 1.14 แสนราย สหรัฐติดเชื้อมากที่สุดในโลก 5.5 แสนราย รองลงมาคือสเปนและอิตาลี สหรัฐมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลกแซงหน้าอิตาลี จีนเผยผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 99 ราย พุ่งกว่าสองเท่าเกือบทั้งหมดมาจากตปท. สำหรับประเทศไทยในสัปดาห์ที่ผ่านมา ศบค.รายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่แต่ละวันต่ำกว่า 100 ราย เป็นสัญญาณที่ดี

+/-โอเปกพลัสบรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายปรับลดกำลังการผลิต 9.7 ล้านบาร์เรล/วันมีผล 1 พ.ค.ถึงสิ้นเดือนมิ.ย. ซึ่งลดจากข้อสรุปวันแรกที่จะลด 10 ล้านบาร์เรล/วัน เม็กซิโกยอมปรับลดกำลังการผลิต 100,000 บาร์เรล/วันจากเดิมปฏิเสธทำตาม 

-ทองคำปรับตัวขึ้นหลัง EU ไฟเขียวงบประมาณบรรเทาผลกระทบโควิด-19 วงเงิน 5 แสนล้านยูโร

-สถาบันวิจัยคาดเศรษฐกิจสหรัฐปีนี้หดตัว 8% ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาด GDP สหรัฐ Q2/63 หดตัว 26.5% อัตราว่างงานพุ่ง 12% จากพิษโควิด-19

-IMF คาดว่าการระบาดของโควิด-19 จะทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่เลวร้ายที่สุดเทียบเท่ากับวิกฤตเศรษฐกิจในช่วงปี 1930

+สำนักงบประมาณรายงานผลการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 62 ไปพลางก่อน จัดสรรแล้ว 1.32 ล้านล้านบาท คิดเป็น 96% ของแผนการใช้จ่าย

-ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตร่วง 29.27 จุด -1.04% เช้านี้เปิดลบ 12.03 จุดวิตกผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มต่อเนื่อง

-ดัชนีนิกเกอิเพิ่มขึ้น 152.73 จุด +0.79% เช้านี้เปิดลบ 186.46 จุดจากการทำกำไร

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 1.33 แสนลบ. ค่าเงินบาท 32.68 บาท/US

*จับตานายกฯประชุม BOI พิจารณามาตรการเร่งรัดการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมทางการแพทย์เร่งด่วนสู้'โควิด'   จีน เปิดเผยยอดขายรถยนต์เดือนมี.ค. และยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเดือนมี.ค.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวลงตามทิศทางตลาดภูมิภาค โดยอาจมีแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่ม Big Cap. ที่ปรับตัวขึ้นแรงในสัปดาห์ก่อน ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานจะเป็นตัวพยุงตลาดวันนี้ หลังราคาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นแรง หลังจากกลุ่มโอเปกพลัส ได้บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,210-1,245 จุด

หุ้นรายงานพิเศษ

CRC Conference Call (ราคาเหมาะสม IAA Consensus 41.50) ทยอยซื้อสะสม มุมมอง “Neutral”

  • ร้านค้า 1,934 แห่งเปิดใน 51 จังหวัดจากทั้งหมด 77 ในประเทศไทยซึ่งมีสัดส่วนรายได้ 74% ธุรกิจ non-food ปิดบริการระหว่าง 22 มี.ค. – 30 เม.ย ส่วนธุรกิจ food เปิดบริการปกติ ที่เวียดนามซึ่งมีสัดส่วนรายได้ 18% จากร้านค้า 132 แห่งใน 40 จังหวัดจากทั้งหมด 63 จังหวัด ธุรกิจ non-food ปิดบริการระหว่าง 1-15 เม.ย. ธุรกิจ food เปิดบริการปกติ  และที่อิตาลีซึ่งมีสัดส่วนรายได้ 7% จากห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต 9 สาขาใน 8 เมือง มีเฉพาะธุรกิจ non-food โดยมี flagship store 2 สาขาในเมืองมิลานและกรุงโรมประกาศปิดบริการระหว่าง 12 มี.ค. กลางเดือนเม.ย.
  • ผู้บริหารยังเดินหน้าแผนขยายธุรกิจเพื่อการเติบโตในอนาคต ยืนยันเปิดบริการ “GO!”6 แห่งในเวียดนามในปีนี้ตามแผนเดิม ซื้อที่ดินแปลงใหม่เพื่อเปิดบริการในปี 64 โดยมีแผนบริหารเงินสดและสภาพคล่องให้เหมาะสมและเพียงพอ มีแผนใช้เงินเรียงลำดับความสำคัญ การประหยัดคชจ.ด้านการตลาด และเตรียมกู้เงินรองรับ เพิ่มรายได้จากธุรกิจออนไลน์ขายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 ทั้งนี้ธุรกิจ omni-channels ที่เพิ่งเริ่มต้นมีแนวโน้มดีจากที่มียอดขายเติบโต 103% ในเดือนมี.ค. สูงกว่าที่เติบโต 81% ในเดือนม.ค.-ก.พ.
  • ความเห็น ผลการดำเนินงานในปี 63 จะได้รับแรงกดดันจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ซึ่งคาดจะพลิกฟื้นในปีหน้าหลังสถานการณ์คลี่คลาย ปัจจุบันราคาหุ้นต่ำกว่าราคาจองที่ 42 บาทราว 16% และการเป็นหุ้นใน SET50 จึงถือเป็นโอกาสในการทยอยซื้อสะสม โดยราคาหุ้นเพิ่งปรับขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังต่ำกว่าเดือนที่แล้วอยู่ 9% และต่ำกว่าราคา IPO ที่ 42 บาท 24% โดยซื้อขายที่ PE 18 เท่าซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 23 เท่า IAA Consensus คาด yield เฉลี่ย 1.4% แนะนำ ทยอยซื้อสะสม”

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้น Defensive (RATCH TTW ADVANC CHG)
  • หุ้น High Dividend Yield (KKP TISCO INTUCH)
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก Lockdown (MAKRO BJC CPALL TU TFMAMA)
  • หุ้นได้ประโยชน์จากการ Work from home (ADVANC INTUCH DTAC TRUE JAS JASIF DIF COM7 SIS SYNEX)
  • 5 หุ้นเด่น IAA (ADVANC CPF CPALL INTUCH RATCH)

ส่องหุ้น

         PTTEP    แนวรับ 76.00 บาท                    แนวต้าน 82.75 , 87.50 , 100 บาท

         TRUE     แนวรับ 3.30-3.24 บาท              แนวต้าน 3.42-3.46 , 3.60 บาท

         TPOLY    แนวรับ 1.75 , 1.70 บาท            แนวต้าน 2.02 บาท

หุ้นมีข่าว   

(+) KBANK (Bloomberg Consensus 133.95) เผยแบงก์ชาติเมียนมาไฟเขียวเข้าร่วมลงทุนในสัดส่วน 35% ของธนาคารเอยาวดี ฟาร์มเมอร์ ดีเวลลอปเม้นท์แบงก์ หรือ เอแบงก์  (Ayeyarwaddy Farmers Development Bank – A bank) ทำให้ธนาคารกสิกรไทยเป็นธนาคารต่างชาติรายแรกที่ได้รับอนุญาต(ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์)

(+) TOP (Bloomberg Consensus 45.21) มั่นใจการลงทุนโครงการ CFP ไม่สะดุด! หลังผลกระทบการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 กดดันยอดใช้น้ำมันลดลงในช่วงนี้ พร้อมเล็งเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติออกหุ้นกู้ 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ที่มาข่าวหุ้น)

(+/-) THAI (Bloomberg Consensus 3.99 บาท)  คลังปัดดึง เสี่ยเจริญเข้าถือหุ้นใหญ่ (THAI) พร้อมเผยแผนดึง 3 หน่วยงานรัฐเสียบ บมจ.ท่าอากาศยานไทย(AOT) แบงก์ออมสิน และวายุภักษ์ เพิ่มทุนแทนคลัง วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท และกู้เงินเพิ่มอีก 3 หมื่นล้านบาท รวมเป็น 7 หมื่นล้านบาท เติมสภาพคล่องเดือนพ.ค.นี้ ตั้ง ฟินันซ่านั่งที่ปรึกษาการบินไทย ทำแผนฟื้นฟูฯ เตรียมเสนอคมนาคมเร็วๆ นี้ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+/-) MTC (Bloomberg Consensus 50.06 บาท) เมืองไทย แคปปิตอล(MTC) เสือปืนไว ขอวงเงินซอฟท์โลนแบงก์ออมสิน 6 พันล้านบาท ดอกเบี้ย 0.01% แลกพักชำระหนี้ 6 เดือน และลดดอกกู้จากอัตรา 28% เหลือ 22% ให้กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มั่นใจ Q1 สินเชื่อเพิ่มขึ้น 20-30% กำไรตามเป้า เอ็นพีแอลไม่พุ่ง หลังแบงก์ชาติผ่อนปรนไม่นับหนี้เสียช่วงโรคระบาด ปันผล 0.30 บาท/หุ้น ขึ้นXD วันที่ 22 เม.ย.นี้ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(-) BCP (Bloomberg Consensus 25.57 บาท) เร่งทบทวนแผนลงทุน-เป้าอีบิทด้าในปีนี้ จากเดิมคาดใช้งบลงทุน 2.98 ล้านบาท และคาดอีบิทด้าโต 20% จ่อสรุปภายในเดือนนี้ หลังดีมานด์น้ำมันลดฮวบลากยาวถึงกลางปี พร้อมส่ง บางจาก รีเทลปรับแผนรับมือโควิด-19 เดินหน้าออนไลน์บริการจัดส่งสินค้าสพาร์และเครื่องดื่มอินทนิล ผ่าน Grab Get Lineman (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) AMATA (Bloomberg Consensus 18.37 บาท) ผนึก Broadwin International จากฮ่องกง ตั้งบริษัทร่วมทุน “Amata Chinese Smart City” ถือหุ้นสัดส่วน 60% เป็นเงิน 3 ล้านบาท ตั้งเป้าลุยงานเมืองอัจฉริยะ-นิคมอุตสาหกรรม ฟากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นไฟเขียวปันผลปี 62 หุ้นละ 0.25 บาท ขึ้น XD วันที่ 22 เม.ย.นี้ และกำหนดจ่ายวันที่ 8 พ.ค. 63 (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) STEC (Bloomberg Consensus 20.59 บาท)  เผยผลงาน 2 เดือนแรกยังดี เชื่อทั้งปีตามเป้า 3.5-3.6 หมื่นล้านบาท หวังเซ็นสัญญาอู่ตะเภา พฤษภาคมนี้ เร่งก่อสร้างเฟสแรก มูลค่า 2-3 หมื่นล้านบาท ลุยประมูลงานไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านบาท ดัน Backlog เพิ่มฟากโบรกมองฐานะการเงินแกร่ง Net Cash มีงานในมือสูง 8.7 หมื่นล้านบาท งานในมือสูง สร้างรายได้ไปอีก 2 ปี (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ILINK (Bloomberg Consensus 4.60 บาท) อัดงบ 200 ล้านบาท ซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 40 ล้านหุ้น เริ่ม 23 เม.ย.-22 ต.ค. 2563 พร้อมปันผลระหว่างกาล 0.03 บาท XD 24 เม.ย.นี้ โบรกมองธุรกิจมีอัพไซด์ แนะซื้อ เคาะเป้า 3.30 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SKY (ราคาเหมาะสม 14.70 บาท) เชื่อหลังโควิด-19 จบธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์มเติบโตก้าวกระโดด หลังพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป จัดทัพเดินหน้าประมูลงานใหม่ทั้งภาครัฐ-เอกชนต่อเนื่อง ปักเป้ารายได้ปี 63 โตไม่ต่ำกว่า 50% ตุนแบ็กล็อกแน่น 3 พันล้านบาท จ่อบุ๊กเข้ากระเป๋าปีนี้ 1.5-1.8 พันล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)