อีกนาน! แพทย์ระบาดเตือนอย่าเพิ่งตีปีก หลังยอดติด'โควิด-19'ลด

อีกนาน! แพทย์ระบาดเตือนอย่าเพิ่งตีปีก หลังยอดติด'โควิด-19'ลด

แพทย์ระบาดระบุสถานการณ์ไวรัสโคโรนา แรงกว่าหวัด2009 เตือนคนไทยอย่าเพิ่งตีปีก ยังไม่ใช้เวลาผ่อนคลายมาตรการใดๆ แม้ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่ต่ำกว่า 100 ราย ย้ำคนติดเชื้อไม่มีอาการแทบไม่แพร่โรค

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 10 เมษายน 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข ในการแถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 นายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อราว 80 % สามารถหายได้เองโดยที่ไม่ต้องรักษาอะไรเลย ผู้ที่ติดแล้วมีอาการจึงน่ากังวลมากกว่าเพราะมีโอกาสแพร่เชื้อให้คนอื่นได้มากกว่า โดยหากเป็นคนไม่มีอาการโอกาสเดียวที่จะแพร่เชื้อให้คนอื่น คือ การพูดแล้วน้ำลายกระเด็นไปโดนคนอื่น ซึ่งแสดงว่าต้องอยู่ใกล้ชิดกันพอสมควรและพูดจาเสียงดังพอสมควร เพราะฉะนั้นโดยทั่วไป คนติดเชื้อไม่มีอาการแทบไม่แพร่โรค จึงไม่ต้องกังวล และปัจจุบันสังคมไทยเป็นสังคมของการใส่หน้ากากผ้าแทบจะ 100 %แล้ว โอกาสแพร่เชื้อของคนที่ไม่มีอาการ แทบไม่มีเลย จึงไม่มีประโยชน์ที่คนที่ไม่มีอาการจะไปตรวจหาเชื้อ แต่ถ้ามีอาการพร้อมกับประวัติเสี่ยง อาทิเข้าไปอยู่ในสถานที่แออัดจึงไปตรวจ


ผู้สื่อข่าวถามว่าจากจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ต่อวันที่ลดลงต่ำกว่า 100 ราย เป็นสถานการณ์ที่จะคลายมาตรการบางอย่างได้แล้วหรือไม่ นายแพทย์ธนรักษ์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะตีปีกหรือผ่อนคลายมาตรการใดๆ เพราะมาตรการต่างๆเป็นเพียงการชะลอและลดจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ลง แต่ตัวเลขตอนนี้ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ จะต้องลดจำนวนผู้ป่วยลงให้น้อยที่สุด มาตรการหลายๆอย่างจึงต้องทำอย่างเข้มข้นเช่นเดิม ทั้งต้องเข้มข้นเรื่องการค้นหาผู้ป่วย ผู้สัมผัสให้เร็ว ประชาชนต้องเข้มงวดเรื่องการเว้นระยะห่างทางสังคม ระยะห่างระหว่างบุคคล สิ่งที่ต้องการคือการทำให้ผู้ป่วยลดน้อยที่สุด โดยในทางทฤษฏีการจะบอกว่าพื้นที่ใดปัญหาลดลงแล้ว คือ ต้องไม่มีจำนวนผู้ป่วยรายใหม่เลย 14 วันติดต่อกัน นับตั้งแต่วันที่เจอผู้ป่วยรายสุดท้าย ถ้าพบผู้ป่วยรายใหม่อีกก็ต้องเริ่มนับใหม่


“อย่าทำตัวสบาย เพราะโรคนี้ระบาดเร็ว พลาดแค่ครั้ง 2 ครั้งก็ทำให้เกิดการระบาดวงกว้างได้ อย่าลืมเหตุการณ์ที่สถานบันเทิงย่านทองหล่อ และสนามมวยที่เมื่อพลาดแล้วทำให้แพร่ไปได้ถึง 70 คน ในเวลาอันสั้น และขณะนี้ทุกฝ่ายกำลังประเมินสถานการณ์ หากเริ่มดีขึ้นจะผ่อนคลายอะไรได้บ้างแต่ขอให้ใจเย็นๆ วันนี้ต้องขอความร่วมมือประชาชนทุกคน ยังคงมาตรการออกจากบ้านเท่าที่จำเป็น ไม่อยู่รวมกันเป็นกลุ่มก้อน” นายแพทย์ธนรักษ์ กล่าว


เมื่อถามว่าหากเทียบสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 กับการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 มีความแตกต่างกันหรือไม่ นายแพทย์ธนรักษ์ กล่าวว่า ต่างกันมาก โควิด-19 รุนแรงกว่าไข้หวัดใหญ่2009 หลายๆ ประเทศคุมไม่ได้ อย่างประเทศอิตาลีก็มีช่วงเวลาที่ไม่สามารถควบคุมโรคได้ และหากดูย้อนหลังการระบาดของไข้หวัด 2009 ไม่เคยมีประเทศไหนต้องปิดบ้าน ปิดเมือง แต่ครั้งนี้ไม่มีประเทศไหนจะปล่อยให้เกิดการระบาดได้อย่างอิสระ เพราะทำให้ระบบสาธารณสุขไม่พอที่จะรองรับ ฉะนั้นวันนี้ทุกประเทศเหยียบเบรกสุดตัว เพื่อชะลอการระบาดให้ได้โดยเร็วที่สุด ไม่สามารถทนปล่อยสถานการณ์ไปโดยไม่มีมาตรการควบคุม เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ต้องมานั่งเลือกว่าจะรักษาใคร หรือจะปล่อยให้ใครเสียชีวิต

 
“สำหรับประเทศไทยถ้าดูรายงานผู้ป่วยอาการหนักเฉพาะในกรุงเทพฯเมื่อวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมาก็มีการครองเตียงไอซียูเกินครึ่งจากที่มีอยู่แล้ว นี่ขนาดยังไม่ได้ระบาดเต็มที่ เพราะฉะนั้น จึงไม่สามารถปล่อยให้โรคนี้ระบาดตามใจได้”นายแพทย์ธนรักษ์กล่าว