กระต่ายอีสเตอร์แดนกีวี มอบความสุขช่วงล็อกดาวน์

วันอีสเตอร์ เป็นวันสำคัญที่สุดวันหนึ่งของศาสนาคริตส์ เพื่อระลึกถึงการฟื้นคืนชีพของพระเยซู หลังจากพระองค์สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนได้ 2 วัน ในปี 2563 นี้ วันอีสเตอร์ตรงกับวันอาทิตย์ ที่ 12 เม.ย.สำหรับศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกและโปรเตสแตนต์ วันอีสเตอร์จะตรงกัน ส่วนนิกายออร์ธอดอกซ์บางปีจะไม่ตรงกัน

ในวันสำคัญนี้ มีสัญลักษณ์ต่างๆ ที่เป็นสัญลักษณ์ เริ่มจาก "เทียนปัสกา" (Paschal Candle) เทียนสีขาวขนาดใหญ่ ที่ชาวคริสต์จะเริ่มพิธีฉลองด้วยการจุดเทียนนี้ เพื่อรำลึกถึงการฟื้นคืนชีพ จากนั้นมี "ระฆัง" ซึ่งส่วนใหญ่มีสีบรอนซ์ เพื่อแสดงความเคารพ ระลึกถึงพระเยซูที่ถูกตรึงบนไม้กางเขนในวันศุกร์ 

อันดับต่อมาคือ "กระต่าย" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ และเปรียบเหมือนผู้ส่งสารของวันอีสเตอร์ กระต่ายเข้ามาเกี่ยวข้องกับเทศกาลอีสเตอร์นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 18

ส่วนดอกไม้ที่ใช้ในวันอีสเตอร์ คือ "ดอกลิตเติ้ลเดซี" ที่เบ่งบานประกาศการกลับมาของฤดูใบไม้ผลิ แม้บางพื้นที่ดอกไม้นี้จะออกดอกเกือบทั้งปี แต่เดือนที่มีการเบ่งบานมาที่สุดคือช่วงเดือนมี.ค.ถึงเดือนต.ค. และมี "ดอกลิลลี่สีขาว" ที่มีความเชื่อมโยงกับเทศกาลอีสเตอร์ในฐานะเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์

ส่วน "ไข่อีสเตอร์" คือสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ ชีวิต และการเกิดใหม่ ไข่มีความเกี่ยวข้องกับเทศกาลอีสเตอร์มาตั้งแต่สมัยโบราณ ในช่วงเวลาถือศีลอดของชาวยิว จะห้ามกินไข่ หลังจากแม่ไก่ออกไข่ ไข่เหล่านั้นจะถูกเก็บไว้ จนกว่าถึงวันอีสเตอร์ หลังจากพระให้ศีลให้พรแล้ว ไข่ที่ทาสีจนสวยงามจะถูกนำมามอบให้กับเด็กๆ

ไข่อีสเตอร์เป็นที่นิยมกันมากในหลายประเทศ ซึ่งไข่อีสเตอร์ที่เห็นกันอาจจะมีทั้งไข่จริงๆ ที่ต้มสุกแล้ว หรือเปลือกไข่ ที่นิยมกันมากคือไข่ที่ทำมาจากพอร์ซเลน แก้ว ไม้ หรือแม้แต่ทำมาจากเงิน หรือทองคำแท้ๆ ที่ทำให้ดูเลิศหรู อลังการมากขึ้นไปอีก

นอกจากนี้  ยังมีการแข่งขันเก็บไข่อีสเตอร์ โดยพ่อแม่จะนำไข่อีสเตอร์ไปซ่อนไว้ในสวน แล้วให้ลูกๆ ออกไปเก็บไข่อีสเตอร์มาใส่ในตระกร้า ในสหรัฐ มีประเพณีกลิ้งไข่อีสเตอร์ที่เริ่มจาก ประธานาธิบดี รัทเธอร์ฟอร์ด บี. เฮส ที่เปิดสนามหญ้าทำเนียบขาว ให้เด็กๆ เข้ามาเล่นกลิ้งไข่กัน จนทำให้เกิดประเพณีนี้มาจนถึงปัจจุบัน

นายกฯนิวซีแลนด์ สนับสนุนให้ทุกบ้านที่มีเด็กๆ ช่วยกันวาดรูปไข่อีสเตอร์ลงบนกระดาษแล้วนำไปติดไว้ที่หน้าต่าง เพื่อให้เด็กๆ ในชุมชนได้เห็นหรือเล่นเกมเดินหาไข่อีสเตอร์ทั้งเพื่อเป็นการออกกำลังกายและรักษาธรรมเนียมปฏิบัติในเทศกาลสำคัญนี้เอาไว้

ส่วนในนิวซีแลนด์ นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ประกาศว่า กระต่ายอีสเตอร์ และนางฟ้าพิทักษ์ฟัน เป็นตำแหน่งงานสำคัญซึ่งยังต้องทำหน้าที่ต่อไป แม้ว่ารัฐบาลกำลังใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศเพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโคโรนาก็ตาม

นายกรัฐมนตรีหญิงของนิวซีแลนด์วัย 40 ปีที่มีบุตรสาวอายุไม่ถึง 2 ขวบ บอกว่า แม้ตัวละครในเทพนิยายทั้ง 2 ตัวนี้จะได้รับอิสระให้เดินทางไปไหนก็ได้ตามใจปรารถนา แต่คาดว่าทั้งคู่จะยุ่งมากจนไม่สามารถไปทำหน้าที่สำคัญได้ทุกครัวเรือนในช่วงนี้

นายกฯนิวซีแลนด์ สนับสนุนให้ทุกบ้านที่มีเด็กๆ ช่วยกันวาดรูปไข่อีสเตอร์ลงบนกระดาษแล้วนำไปติดไว้ที่หน้าต่าง เพื่อให้เด็กๆ ในชุมชนได้เห็นหรือเล่นเกมเดินหาไข่อีสเตอร์ทั้งเพื่อเป็นการออกกำลังกายและรักษาธรรมเนียมปฏิบัติในเทศกาลสำคัญนี้เอาไว้

ก่อนหน้านี้ นิวซีแลนด์ ก็รณรงค์พร้อมกับหลายประเทศทั่วโลก ให้มีการนำตุ๊กตาหมีมาวางไว้ที่หน้าต่างบ้าน เพื่อให้เด็กๆ ได้เดินหาเพื่อแก้เบื่อในช่วงที่มีมาตรการล็อกดาวน์เช่นกัน