เฟดกระตุ้นเศรษฐกิจ 2.3 ล้านล้านดอลลาร์

ประกอบกับ นลท.ลดความเสี่ยงก่อนรู้ผลการประชุมของกลุ่มโอเปกและพันธมิตร ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,210.48 จุด (+4.71 จุด) Volume 8.4 หมื่นลบ. ต่างชาติ -3,065.40 ลบ. TFEX Net +11,738 สัญญา ตราสารหนี้ +146 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 23,719.37 จุด +285.80 จุด +1.22% ขานรับเฟดประกาศมาตรการกระตุ้นศก.วงเงินกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์เยียวยาภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

+ รมว.คลังยูโรกรุ๊ปเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือวงเงิน 5 แสนล้านยูโรรับมือกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

-ทองคำปรับตัวขึ้นหลังเฟดประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีก 2.3 ล้านล้านดอลลาร์

-ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 2.33 ดอลลาร์ -9.3% ปิดที่ 22.76 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังกลุ่มโอเปกและชาติพันธมิตร บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่นลท.คาดยังไม่มากพอในการกระตุ้นราคา

-สหรัฐรายงานตัวเลขศก.อ่อนแอหลายรายการ ได้แก่ ผู้ขอสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่แล้วพุ่งเกินคาด  สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งลดลง 0.7% ในเดือนก.พ. ดัชนี PPI ลดลง 0.2% ในเดือนมี.ค.

-ม.หอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มี.ค. 63 ลดลงแตะระดับ 50.3 ซึ่งต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับวิกฤติต้มยำกุ้งที่เกิดขึ้นในปี 40

-สนง.สถิติจีนเผยดัชนี PPI -1.5% ในเดือนมี.ค. ส่วนดัชนี CPI เดือนมี.ค. +4.3%

+ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตบวก 10.53 จุด -0.37% เช้านี้เปิดบวก 1.29 จุด

+/-ดัชนีปิดนิกเกอิลดลง 7.47 จุด -0.04% เช้านี้เปิดบวก 154.30 จุด

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 1.32 แสนลบ. ค่าเงินบาท 32.67 บาท/US

*จับตาสหรัฐเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค.

 

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดโลก หลังเฟดประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2.3 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อเยียวยาภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ตามตลาดยังคงถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลง -9.3% คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,190-1,230 จุด

หุ้นรายงานพิเศษ

หุ้นพลังงานยังน่าสนใจในระยะยาว

• น้ำมัน WTI ปิดร่วง $2.33 หรือคิดเป็น 9% แม้ว่าผลการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสเมื่อคืนนี้จะสามารถบรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 10 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งนักลงทุนมองว่าปริมาณดังกล่าวยังไม่มากพอที่จะกระตุ้นความต้องการใช้น้ำมันให้ฟื้นตัว ทั้งนี้ กลุ่มโอเปกพลัสจะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลง 10 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนพ.ค.-มิ.ย. จากนั้นจะปรับลดการผลิต 8 ล้านบาร์เรล/วันตั้งแต่เดือนก.ค.ไปจนถึงสิ้นปี 2563 และจะปรับลด 6 ล้านบาร์เรล/วันตั้งแต่เดือนม.ค. 2564 ไปจนถึงเดือนเม.ย. 2565
• ความเห็น เรายังมีมุมมองบวกต่อหุ้นพลังงานในระยะยาว เนื่องจากราคาน้ำมันที่ระดับ 20$/bbl มีเพียง 5 ประเทศเท่านั้นที่คุ้มต้นทุนการผลิต ดังนั้น Downside ของราคาน้ำมันค่อนข้างน้อย โดยหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 คลี่คลายเราคาดว่าจะมีความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นเป็นผลบวกต่อราคาน้มัน โดยหุ้นที่ได้รับผลบวกจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น PTTEP PTT  PTTGC  TOP  SPRC  ESSO และ BCP ตามลำดับ

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้น Defensive (RATCH TTW ADVANC CHG)
• หุ้น High Dividend Yield (KKP TISCO INTUCH)
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก Lockdown (MAKRO BJC CPALL TU TFMAMA)
• หุ้นได้ประโยชน์จากการ Work from home (ADVANC INTUCH DTAC TRUE JAS JASIF DIF COM7 SIS SYNEX)
• 5 หุ้นเด่น IAA (ADVANC CPF CPALL INTUCH RATCH)

หุ้นมีข่าว   

(+/-) ธนาคารพาณิชย์ลดดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท 0.4% มีผล 10 เม.ย. 63 เพื่อช่วยลดภาระต้นทุนของลูกค้าผู้ประกอบการขานรับแนวทางช่วยเหลือลูกค้าตามนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยในการบรรเทาผลกระทบลูกหนี้ โดยให้ลดอัตรานำส่งเงินสมทบกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) จาก 0.46% เหลือ 0.23% ของฐานเงินฝากเป็นระยะเวลา 2 ปี เพื่อลดต้นทุนให้กับสถาบันการเงิน และเพื่อให้สถาบันการเงินนำเงินไปลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงต่างๆ ซึ่งเป็นมาตรการเสริมจากการพัก

ความเห็น แม้การลดดอกเบี้ยเงินกู้จะส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยลดลง แต่ได้รับชดเชยในการจ่ายเงินสมทบกองทุนฯในอัตราลดลงครึ่งหนึ่งจากปัจจุบัน ทำให้ส่งผลลบต่อผลการดำเนินงานไม่มากนัก ฝ่ายวิจัยให้น้ำหนัก “Neutral” ต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร เน้นลงทุนหุ้นธนาคารที่ให้เงินปันผลสูง แนะนำ KKP TISCO

(+) PTTGC (Bloomberg Consensus 41.57) ลุยพัฒนานวัตกรรมพลาสติกทางการแพทย์ พร้อมร่วมสนับสนุนวัสดุเพื่อจัดทำชุดอุปกรณ์ป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ระยะรุนแรงในห้องผ่าตัด (ที่มาข่าวหุ้น)

(+) แบงก์ลดดอกกู้ แลกกับ ลดค่าต๋งส่งเข้ากองทุนฟื้นฟูฯ ได้มากกว่าเสีย จับตา 4 แบงก์ BAY-KBANK-TMB-KKP กำไรเพิ่มขึ้นปีนี้ เนื่องจากพอร์ตส่วนใหญ่เป็นลีสซิ่ง สินเชื่อบุคคล ขณะที่ BBL และ KTB โดนหนักหน่อย กำไรลดแบงก์ละ 1 พันกว่าล้าน เหตุพอร์ตสินเชื่อธุรกิจมีมาก ล่าสุด 6 แบงก์ประกาศหั่นดอกกู้ MLR-MOR-MRR ลง 0.4% มีผล 10 เม.ย.นี้ ขณะที่ TISCO ประกาศงบแบงก์แรกสัปดาห์หน้า (ที่มาข่าวหุ้น)

(-) CPF (Bloomberg Consensus 35.03 บาท) หั่นงบลงทุนปีนี้เหลือ 1 หมื่นล้านบาท จากเดิม 2 หมื่นล้านบาท ขณะที่คาดรายได้ปีนี้ต่ำกว่าปีก่อน จากเดิมตั้งเป้าโต 8-10% หลังกำลังซื้อในประเทศ-ต่างประเทศหด จากผลกระทบโควิด-19 พร้อมยอมรับงบไตรมาส 1/63 ไม่โต! พร้อมตั้งงบ 200 ล้านบาท ส่งมอบอาหารให้ “รพ.” เฟส 2 และครอบครัวแพทย์-พยาบาล (ที่มาข่าวหุ้น)

(-) AOT (Bloomberg Consensus 64.59 บาท) เผยยอดผู้โดยสารมี.ค. 63 วูบ 63% เที่ยวบินทรุด 41% ขณะที่ม.ค.-ก.พ. 63 ผู้โดยสารลด 13.62% เที่ยวบินลด 6.93% สถิติรวมเกือบครึ่งปีแรก ต.ค. 62-ก.พ. 63 มีผู้โดยสาร 58.9 ล้านคน ลด 3.87% เที่ยวบิน 3.67 แสนไฟลต์ ลด 3.47% ล่าสุดเจอคำสั่ง “กพท.” ปิดสนามบินภูเก็ต-ห้ามบินเข้าไทยกระทบยาวทั้งเดือน เม.ย. 63  (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) TSR (Bloomberg Consensus - บาท) บอร์ด TSR ไฟเขียวโครงการซื้อหุ้นคืน 10 ล้านหุ้น วงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย.-14 ต.ค. 63 ยันไม่มีผลกระทบกับสภาพคล่อง ชูมีกำไรสะสมตุนไว้ 317 ล้านบาท พร้อมมีวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงินอีก 800 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) WICE (Bloomberg Consensus - บาท)  เริ่มมีสัญญาณบวก หลังจีนเปิดประเทศเชื่อไตรมาส 2/2563 มีวอลุ่มดีขึ้นมองโควิด-19 ไม่กระทบภาพรวมธุรกิจโลจิสติกส์ เชื่อหากสถานการณ์จบเร็ววอลุ่มทะลัก เผยยังเดินหน้าซื้อหุ้น WICE (SG) สิงคโปร์ที่เหลือ 30% ตามแผน มั่นใจเป้ารายได้โต 20% แตะ 2,700 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SINGER (Bloomberg Consensus - บาท) ซัมเมอร์ฮอต-ทำงานที่บ้านหนุนยอดขายแอร์กระฉูด เอ็มดี "กิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์" ย้ำชัดพอร์ตสินเชื่อปี 2563 โต 50% โบรกชูสตอรี่เด่น แนะซื้อ เคาะเป้า 10.40 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) CHAYO (Bloomberg Consensus 7.30 บาท) กอดเงินสดเต็มมือพันล้านบาท เตรียมซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารช่วงครึ่งปีหลัง คาดหนี้เพิ่มขึ้นแตะ 5 แสนล้านบาท จากปีก่อน 4.7 แสนล้านบาท หลังเศรษฐกิจชะลอตัว พร้อมคงเป้ารายได้ปี 2563 โต 20% เล็งคลอดหุ้นกู้ 500 ล้านบาท เร็วๆ นี้ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) TEAMG (Bloomberg Consensus 2.28 บาท)  เผยคว้างานเพิ่มในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน จำนวน 5 โครงการ มูลค่ารวม 1,041.24 ล้านบาท เติม Backlog ในมือเพิ่มขึ้นจากเดิมอยู่ที่ 3,830 ล้านบาท เป้ารายได้ปีนี้โต 10% จากปีก่อน (ที่มา ทันหุ้น)