‘แสนสิริ’งัดแคมเปญอยู่ฟรี2ปีดันยอด

‘แสนสิริ’งัดแคมเปญอยู่ฟรี2ปีดันยอด

‘แสนสิริ’ เผยแผนรุกตลาดแนวราบ จับกลุ่มเรียลดีมานด์-ดีมานด์ใหม่ ผุดแคมเปญแรง อยู่ฟรี2 ปี ระบายสต็อกบ้านพร้อมอยู่ กระตุ้นยอดขายไตรมาสสอง

นายอาณัติ กิตติกุลเมธี รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกปีนี้บริษัทมียอดขาย 11,000 ล้านบาทมาจากโครงการแนวราบกว่า 4,800 ล้านบาท คิดเป็น44% ของยอดขาย ดังนั้นไตรมาส 2 จึงมีแผนเปิดตัวโครงการแนวราบใหม่ จำนวน 2-3 โครางการ มูลค่ารวม 2,600 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ แสนสิริเพลส ประชาอุทิศ 90 และโครงการ แสนสิริเพลส ราชพฤษ-พระราม 5

โดยใช้ 2 แบรนด์หลัก ได้แก่ สิริเพลส และอณาสิริ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการที่แท้จริง (Real Demand)ที่ต้องการมีบ้านหลังแรก ส่วนแบรนด์ บุราสิริ และ เศรษฐสิริ เน้นรองรับกลุ่มลูกค้าใหม่ ( New Demand) ที่ต้องการมีบ้านใหม่เพื่อแยกครอบครัว หรือต้องการบ้านที่มีพื้นที่กว้างขี้น

พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัวแคมเปญ “แสนสิริผ่อนให้ สูงสุดถึง 24 เดือน” เพื่อช่วยลูกค้า ลดภาระค่าใช้จ่ายในการผ่อนที่อยู่อาศัย ตลอดระเวลา 2 ปี ทั้งต้นทั้งดอก นานสูงสุด 24 เดือน ครอบคลุมถึง 62 โครงการพร้อมอยู่ ทั่วประเทศ ผ่านช่องขายครบทุกช่องทาง

ทั้งนี้ในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายรวมไว้ที่ 8,500 ล้านบาท แบ่งเป็น ยอดขายจากโครงการแนวราบ จำนวน 4,500 ล้านบาท และยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียม จำนวน 4,000 ล้านบาท

นายอาณัติ กล่าวว่า ปีนี้บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่รวมจำนวน 18 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 24,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ จำนวน12 โครงการ มูลค่ารวม 15,200 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม จำนวน 6 โครงการ มูลค่ารวม 8,800 ล้านบาทโดยในปี 2563 บริษัทตั้งเป้าหมายยอดโอนกรรมสิทธิ์จากโครงการแนวราบไว้ที่ 15,400 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 47% ของเป้าหมายยอดโอนกรรมสิทธิ์โครงการรวมที่ 33,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีอดขายรอโอน (Backlog) ในมือมูลค่ารวม 49,500 แบ่งเป็น จากโครงการแนวราบ จำนวน 7,900 ล้านบาท และจากคอนโดมิเนียม จำนวน 41,600 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในปี 2563 รวมประมาณ 17,900 ล้านบาท นอกจากนี้ ล่าสุดบริษัทมีสินค้าสร้างเสร็จพร้อมขายในมือ (Stock) อยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท

ขณะเดียวกันได้ตั้งเป้าหมายยอดขาย (Presale) จากโครงการแนวราบไว้ที่ 15,900 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 55% ของเป้าหมายยอดขายรวมที่29,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วงไตรมาสแรก มียอดขายจากโครงการแนวราบแล้ว จำนวน 4,800 ล้านบาท ทั้งนี้ เป้าหมายยอดโอนกรรมสิทธิ์และยอดขายจากโครงการแนวราบในปี 2563 ที่อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน เนื่องจากโครงการแนวราบส่วนใหญ่เป็นการขายโครงการพร้อมโอนเป็นหลัก