ฟื้นตัว และผันผวนแรงต่อไป

ฟื้นตัว และผันผวนแรงต่อไป

หุ้นไทยน่าจะยังมีความผันผวนสูงตามแรงกระทบทางบวกจากมาตรการกระตุ้นทางการคลังและการเงินที่ตรงจุดมากขึ้น

KGI ประเมิน SET Index วันพฤหัสฯ รีบาวด์ ภาพระยะสั้นของดัชนีฯ ยังค่อนข้างแข็งแกร่ง (ลงน้อย และรีบาวด์ได้ค่อนข้างเร็ว)... ขณะที่เมื่อวานนี้ดัชนีฯ ปรับฐานไม่รุนแรง (ตามคาด)... ปัจจัยตลาดหุ้นในวันนี้ค่อนข้างดี ได้แก่ i) ตลาดเพิ่มความคาดหวังว่าสถานการณ์ไวรัส Covid-19 ในสหรัฐฯ จะดีขึ้นเร็วๆ นี้ หลังจากหัวหน้านายแพทย์ทำเนียบขาว (ซึ่งตลาดให้เครดิตของคำพูดมากกว่าทรัมป์ ) แถลงว่าสหรัฐฯ จะเข้าสู่จุดเปลี่ยนไปเป็นขาลงของการติดเชื้อในสัปดาห์หน้า ii) หุ้นสหรัฐฯ แรลลี่แรงหลังนายเบอร์นาด แซนด์เดอร์ ตัวแทนพรรคเดโมแครตประกาศถอนตัวจากการลงเลือกตั้ง ปธน. สหรัฐฯ ซึ่งนายแซนด์เดอร์ มีนโยบายหลายประการที่ไม่เอื้อต่อตลาดทุน ในขณะนี้การชิงตำแหน่ง ปธน. สหรัฐฯ จึงเป็นเวทีระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์ (รีพับลิกัน) และโจ ไบเดน (เดโมแครต) iii) ราคาน้ำมันดิบ WTi แรลลี่มากกว่า 7% หลังจาก รมว.พลังงานของแอลจีเรียชี้ว่า OPEC+ มีโอกาสลดปริมาณผลิตน้ำมัน 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในการประชุมนัดพิเศษในคืนวันนี้ตามเวลาบ้านเรา

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนนั้น ฝ่ายวิจัยฯ มองว่าตลาดหุ้นไทยน่าจะยังมีความผันผวนสูงตามแรงกระทบทางบวกจากมาตรการกระตุ้นทางการคลังและการเงินที่ตรงจุดมากขึ้น (พรก. 1.9 ล้านล้านบาท เป็นต้น) รวมทั้งความคาดหวังเชิงบวกต่อสถานการณ์ติดเชื้อในต่างประเทศ หักล้างกับปัจจัยลบด้านตัวเลขเศรษฐกิจทั้งของต่างประเทศและของไทยที่น่าจะออกมาเป็นลบมากขึ้น ในช่วงหลายสัปดาห์ข้างหน้า อย่างไรก็ดี ด้วยสถานการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกที่อาจ peak เร็วกว่าที่เคยประเมิน และมาตรการการคลังของประเทศไทยที่ใหญ่กว่าที่คาด เรากำลังปรับเปลี่ยนมุมมอง SET Index จากเดิมที่ระบุในกลยุทธ์เดือน เม.ย. ว่าดัชนีฯ น่าจะลดลงไปแถว 1,000 จุดอีกครั้ง... ในเร็วๆ นี้

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน 

เก็งกำไร JMART, RS*, BCPG*

- JMART (เป้า Consensus 12.3 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 6.25 บาท และ 6.10 บาท / แนวต้าน 6.6 - 7.0 บาท (Stop loss 5.75 บาท) 2) ประเมินได้รับ Sentiment บวกจากมาตรการภาครัฐฯ i) แจกเงินเพิ่ม เป็นบวกต่อธุรกิจสินเชื่อ SINGER และยอดขายของ JMART ii) ธปท อุ้มหุ้นกู้ Investment grade ขึ้นไป (หุ้นกู้ JMT* ล่าสุดมี Credit rating BBB) 3) PE ปีนี้ใน Bloomberg consensus ต่ำเพียง ±10 เท่า (อาจมี Downside การปรับลดประมาณการฯบ้างแต่ประเมินว่า PE ยังตํ่าเมื่อเทียบกลุ่มค้าปลีก) 4) พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนจากการแพร่ระบาดของไวรัสฯ จะเป็นตัวเร่งการใช้เทคโนโลยี 5G (Cycle การขายอุปกรณ์รอบใหม่) ... XD ปันผล 0.24 บาท/หุ้น วันที่ 15 เม.ย.

- RS* (เป้าพื้นฐาน 12.0 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 9.0 บาท และ 8.9 บาท / แนวต้าน 9.5 - 10.0 บาท (Stop loss 8.5 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไรของ RS* ปีนี้จะยังเติบโต YoY ดีกว่าตลาดฯ แม้จะมีปัจจัยลบเรื่องภาวะเศรษฐกิจ เนื่องจากคาดยอดขาย RS Mall จะเพิ่มขึ้น เพราะ i) ปีนี้เป็นปีแรกที่
RS* จะรับรู้รายได้เต็มปีจากยอดขายผ่านพันธมิตรเดิม คือ ทีวีสองช่อง (ไทยรัฐทีวี และ เวิร์คพอยท์ทีวี) ii) พันธมิตรทีวีรายใหม่ (อัมรินทร์ ทีวี) ที่เริ่มออกอากาศโฆษณาสินค้าของ RS Mall มาตั้งแต่เดือน ก.พ. 2563 iii) RS จะเริ่มรับรู้รายได้จากการป้อนคอนเทนท์เพลงให้แก่พันธมิตรหนึ่งราย ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ครั้งเดียวใน 1Q63 (คาดกำไร 1Q63 โตสวนตลาดฯ)

- BCPG* (เป้าพื้นฐาน 22 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 13.5 บาท และ 13.2 บาท / แนวต้าน 14.2 -15.0 บาท (Trailing stop 12.5 บาท) 2) ประเมิน Valuation ไม่แพง PE ปีนี้ 11.7 เท่า, Dividend yield 5.4% ยังถูกเมื่อเทียบ i) กลุ่มโรงไฟฟ้า (PE เฉลี่ย >25 เท่า) และ ii) คาดกำไรปีนี้จะโต +30% YoY สวนตลาดฯ จากการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำที่ลาวใน 4Q62 และ 1Q63 3) คาดยังมีการทยอยซื้อ + สร้างโรงไฟฟ้าอีกมากโดยเฉพาะในประเทศลาว ทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ และลม โดยเตรียมสายส่งไว้แล้วราว ±1,000 MW (สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำและโรงไฟฟ้าพลังงานลม โดยใช้
สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำที่ซื้อเข้ามาแล้วราว 114MW) ... ซึ่งปัจจุบัน BCPG* มีกำลังการผลิตที่ COD แล้วราว 450MW

หุ้นมีข่าว

(0) 'เทมาเส็ก' พอร์ตวูบ 6 หมื่นล. ปี นี้ขายทิ้ง 7 หุ้นใหญ่-เก็บไอพีโอ AWC*-CRC* (กรุงเทพธุรกิจ) ล่าสุดโยนบิ๊กล๊อตขาย INTUCH* มูลค่ากว่า 6.1 พันล้าน "เทมาเส็ก" ถือครองหุ้นไทยลดลง 6 หมื่นล้านบาท จากปี 2562 หลังเทขาย 7 หุ้นใหญ่ นำโดย BBL*-PTTEP* ขณะที่เก็บ 2 หุ้น ไอพีโอยักษ์ใหญ่อย่าง AWC*-CRC* ล่าสุด มูลค่าพอร์ตอยู่ที่ 2.24 แสนล้านบาท

(+) "แบงก์-ไฟแนนซ์"เริงร่า รับมาตรการ 1.9 ล้านล. เชียร์ KBANK*-SCB*-KTB*-SAWAD*-BAM*และ MTC* (ข่าวหุ้น) หุ้นกลุ่มธนาคารดีดแรง รับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.9 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะซอฟท์โลนของแบงก์ชาติ วงเงิน 5.0 แสนล้านบาท ช่วยดันสินเชื่อขยายตัวเพิ่ม รวมทั้งลดเงิน
นำส่งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ 3.3 หมื่นล้านต่อปี นำมาปล่อยกู้เพิ่มได้อีก KBANK* เป้าหมาย 106.00 บาท SCB* เป้า 72.00 บาท และ KTB* ราคาเป้า 13.00 บาท ส่วนกลุ่มไฟแนนซ์เชียร์ SAWAD*-BAM*-MTC* จากมาตรการภาครัฐ ชี้ช่วยลดเอ็นพีแอล

(+) GULF* ดีเดย์สัปดาห์หน้า ลุยเทรดพาร์ใหม่ 1 บาท (ข่าวหุ้น) เรียบร้อยโรงเรียน GULF* เตรียมเทรดราคาพาร์ใหม่ 1 บาทในสัปดาห์หน้า หลังวานนี้ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นไฟเขียวแตกพาร์ พร้อมอนุมัติจ่ายเงินปันผลอีกหุ้นละ 1.30 บาท มั่นใจเป้ารายได้ปีนี้ตามนัดโต 10% ทุ่ม 3.6 หมื่นล้านบาท

(+) กลุ่ม BBS เซ็นอู่ตะเภาพ.ค.นี้ (ข่าวหุ้น) แหล่งข่าวจากคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก เปิดเผยว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าการเจรจากับกลุ่มกิจการร่วมค้า BBS (บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิง้ ส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS*/บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA* และบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC*) ซึ่งเป็นผู้ยื่นข้อเสนอเงินประกันรายได้ขั้นต่ำเป็นผลตอบแทนให้รัฐดีที่สุดใกล้เสร็จสิ้นแล้ว โดยคาดว่าจะสามารถส่งร่างสัญญาให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบได้ในสัปดาห์หน้า และจะลงนาม
ในสัญญาได้ประมาณเดือนพฤษภาคม 2563

(-) ACAP เบี้ยวหนี้หุ้นกู้ (กรุงเทพธุรกิจ) ACAP ผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ 2 รุ่น "ACAP190A" และ "ACAP207A" วงเงิน 1,484 ล้าน เหตุไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ย 24 ล้าน ตามกำหนดในวันที่ 7 เม.ย.ได้ แจงเกิดจากลูกหนี้บริษัท 2 ราย ไม่คืนเงินเพราะถูกแบงก์ชะลอแผนกู้เงิน ชี้มูลหนี้ที่ผิดนัดชำระไม่เกิน 500
ล้านบาท จึงไม่กระทบรุ่นอื่น