‘กัลฟ์’พุ่งรับข่าวแตกพาร์ หุ้น‘โรงไฟฟ้า’เหวี่ยงหนัก

‘กัลฟ์’พุ่งรับข่าวแตกพาร์  หุ้น‘โรงไฟฟ้า’เหวี่ยงหนัก

ราคาหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าปรับตัวผันผวน หลังนักลงทุนแห่ซื้อเก็งกำไรระยะสั้น ด้าน "กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี" ราคาพุ่งแรงช่วงเช้า ก่อนถูกเทขายช่วงท้ายตลาด ฟากผู้บริหาร เผยข่าวดีผู้ถือหุ้นไฟเขียวแตกพาร์ คาดเริ่มดำเนินการสัปดาห์หน้า

ราคาหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าปรับตัวผันผวน หลังนักลงทุนแห่ซื้อเก็งกำไรระยะสั้น ด้าน "กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี" ราคาพุ่งแรงช่วงเช้า ก่อนถูกเทขายช่วงท้ายตลาด ฟากผู้บริหาร เผยข่าวดีผู้ถือหุ้นไฟเขียวแตกพาร์ คาดเริ่มดำเนินการสัปดาห์หน้า ด้านโบรกฯ ประเมินราคาหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้ายังปรับตัวลงได้อีก เหตุภาวะเศรษฐกิจยังไม่สดใส

วานนี้ (8 เม.ย.2563) พบความเคลื่อนไหวราคาหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าปรับตัวผันผวนค่อนข้างรุนแรง หลังจากหุ้นในกลุ่มมีทั้งปรับตัวขึ้นสลับกับลบ ซึ่งกลุ่มหุ้นที่ดีดตัวขึ้นนำโดย บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.70% ปิดตลาดมาอยู่ที่ระดับ 168.00 บาท หรือเพิ่มขึ้น 6.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 7,143 ล้านบาท รองลงมาคือบมจ.ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ (TPIPP) เพิ่มขึ้น 1.82% มาอยู่ที่ระดับ 3.36 บาท หรือเพิ่มขึ้น 0.06 บาท มูลค่าการซื้อขาย 94.26 ล้านบาท และบมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) เพิ่มขึ้น 0.69% มาอยู่ที่ระดับ 36.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น 0.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 279 ล้านบาท

ขณะที่กลุ่มที่ปรับตัวลดลง ได้แก่ บมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) มาอยู่ที่ระดับ 251.00 บาท หรือลดลง 6.00บาท หรือ 2.33% มูลค่าการซื้อขาย 395 ล้านบาท,บมจ.บีซีพีจี (BCPG) มาอยู่ที่ระดับ 13.70 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ 2.14%มูลค่าการซื้อขาย 94.86 ล้านบาท,บมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH) มาอยู่ที่ระดับ 60.25 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 1.23 %มูลค่าการซื้อขาย 385 ล้านบาท และบมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) มาอยู่ที่ระดับ 64.75 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ 0.38% มูลค่าการซื้อขาย 2,464 ล้านบาท ส่วนบมจ.บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) อยู่ที่ระดับ 43.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงมูลค่าการซื้อขาย 1,473 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตุว่าราคาหุ้น GULF ระหว่างวันปรับตัวผันผวนรุนแรง โดยเปิดตลาดภาคเช้าราคาหุ้นขึ้นทำจุดสูงสุดระหว่างวันอยู่ที่ระดับ 178.50 บาทต่อหุ้นหรือเพิ่มขึ้น 9.87% ก่อนที่เปิดตลาดภาคบ่ายจะถูกแรงเทขายลงมาและทำจุดต่ำสุดอยู่ที่ระดับ 161 บาทต่อหุ้น โดยปิดตลาดมาอยู่ที่ระดับ 168.00 บาท

158635239098

นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยว่าวานนี้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี2563 ได้อนุมัติการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัทฯจากเดิมมูลค่าหุ้นละ 5 บาท เป็นมูลค่าหุ้นละ 1 บาท โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการแตกพาร์ได้ภายในสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้คาดว่าการแตกพาร์ดังกล่าวจะช่วยการเพิ่มสภาพคล่องของการซื้อขายหุ้นของบริษัทแก่นักลงทุน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบต่อทุนจดทะเบียน ทุนที่ออกและชำระแล้ว และสัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นปัจจุบันแต่อย่างใด

ขณะที่ในส่วนของแผนธุรกิจปีนี้ยังคงดินหน้าต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ารายได้ปีนี้จะเติบโต 10% จากงวดปี 2562 ที่ทำได้ราว 33,000 ล้านบาท พร้อมคาดว่าในช่วงกลางปีนี้บริษัทเตรียมออกเสนอขายหุ้นกู้วงเงิน10,000 ล้านบาท เพื่อนำเงินไปใช้ลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งจะเสนอขายให้กับนักลงทุนในประเทศทั้งหมด

อย่างไรก็ตามบริษัทคาดว่าจะเห็นผลการดำเนินงานจะเติบโตแบบก้าวกระโดดภายในปี 2564 โดยคาดว่ารายได้จะแตะ 50,000 ล้านบาท เนื่องจากจะมีโรงไฟฟ้า GSRC ขนาดกำลังการผลิต 2,500 เมกะวัตต์ (MW) เริ่มทยอยจ่ายไฟเข้าสู่ระบบ (COD) หลังปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง

“ในส่วนของการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นนั้น เราขอให้ความคิดเห็น แต่ยืนยันว่าธุรกิจได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ค่อนข้างน้อย เพราะสัดส่วนยอดขายไฟฟ้ากว่า 85-90% ทำสัญญาขายไฟให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และสัดส่วน 10-15% ขายให้กลุ่มอุตสาหกรรม และโครงการอื่นๆก็มีสัญญาระยะยาวกับภาครัฐ รวมถึงยืนยันบริษัทไม่มีปัญหาสภาพคล่อง เพราะมีรายได้จากโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการแล้วบันทึกเข้ามาอย่างสม่ำเสมอและมีวงเงินกู้ที่สามารถระดมทุนเพิ่มเติมได้อีกด้วย”