ร.ฟ.ท.เข็น"ไฮสปีดไทย-จีน "ดันเปิดประมูลศูนย์ซ่อมบำรุงเชียงรากน้อย

ร.ฟ.ท.เข็น"ไฮสปีดไทย-จีน "ดันเปิดประมูลศูนย์ซ่อมบำรุงเชียงรากน้อย

ร.ฟ.ท.เข็นไฮสปีดไทย - จีน ดันเปิดประมูลศูนย์ซ่อมบำรุงเชียงรากน้อย เม็ดเงินลงทุนกว่า 7.6 พันล้าน เคาะยื่นซอง 7 พ.ค. นี้ คาดได้ผู้ชนะกลางเดือน มิ.ย.ลุยงานก่อสร้าง 3 ปี มั่นใจเอกชนลงสนามเพียบ

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา ร.ฟ.ท.ได้ประกาศเปิดประกวดราคาจ้างก่อสร้าง โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร - หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร - นครราชสีมา) งานสัญญาที่ 4-4 งานโยธาศูนย์ซ่อมบำรุงเชียงรากน้อย

โดยทำการประกวดราคาด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) มีราคากลาง 7,664 ล้านบาท ซึ่งได้เปิดขายซองในระหว่างวันที่ 16 มี.ค. –5 พ.ค. 2563 และกำหนดให้เอกชนที่สนใจยื่นข้อเสนอราคาทางระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ในวันที่ 7 พ.ค. 2563 เบื้องต้นคาดว่าจะมีเอกชนสนใจเข้าร่วมประมูลจำนวนมาก เพราะส่วนใหญ่เป็นงานก่อสร้างอาคารของศูนย์ซ่อม มีส่วนงานทางรถไฟที่ต้องมีความเชี่ยวชาญเฉพาะไม่มาก

“หลังเปิดให้ยื่นเสนอราคาในวันที่ 7 พ.ค. แล้ว ขั้นตอนต่อไปจะต้องมีการนัดประชุมคณะกรรมการคัดเลือกพิจารณารายชื่อ และตรวจสอบคุณสมบัติผู้ยื่น ตรวจสอบข้อเสนอราคาและข้อเสนอทางเทคนิค คาดว่าจะพิจารณาคัดเลือกรายชื่อผู้ชนะประมูล เสนอให้บอร์ดการรถไฟฯ พิจารณาอนุมัติได้ช่วงปลายเดือน มิ.ย.นี้ หลังจากนั้นจะเริ่มงานก่อสร้างใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี แล้วเสร็จกลางปี 66”

158634340221

สำหรับคุณสมบัติเบื้องต้นของผู้เข้าร่วมประมูลนั้น ตามเงื่อนไขประกวดราคากำหนดว่า หากเป็นนิติบุคคลรายเดียวต้องมีผลงานก่อสร้างประเภทเดียวกันกับงานที่ประกวดราคาจ้างก่อสร้างในวงเงินไม่น้อยกว่า 766 ล้านบาท และเป็นผลงานที่เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับหน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานเอกชนที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เชื่อถือ

กรณีผู้ยื่นข้อเสนอเป็นกิจการร่วมค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่ ต้องมีผลงานก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่หรือโรงงาน โดยต้องมีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียว ไม่น้อยกว่า 766 ล้านบาท ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว และกรณีผู้ยื่นข้อเสนอเป็นกิจการร่วมค้าที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลใหม่ ต้องมีผลงานก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่หรือโรงงาน โดยต้องมีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียว ไม่น้อยกว่า 766 ล้านบาท ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว

รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เผยว่า การเปิดประมูลงานสัญญาที่ 4-4 งานโยธาศูนย์ซ่อมบำรุงเชียงรากน้อย ถือเป็นการประมูลลงานโยธาฉบับที่ 13 จากทั้งหมด 14 สัญญา โดยขณะนี้โครงการไฮสปีดไทย-จีน เหลืองานโยธาที่อยู่ระหว่างรอการประมูล 1 สัญญา คือ งานโยธาฉบับที่ 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง เนื่องจาก ร.ฟ.ท.ยังต้องรอสรุปรายละเอียดโครงสร้างในส่วนทับซ้อนกับโครงการไฮสปีดเทรนเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) ให้แล้วเสร็จก่อน

ทั้งนี้ งานโยธาโครงการไฮสปีดเทรนไทย-จีน ปัจจุบัน ร.ฟ.ท.ได้เริ่มก่อสร้างแล้วจำนวน 2 สัญญา ได้แก่ ช่วงสถานีกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร (กม.) กรมทางหลวง (ทล.) เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง และช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กม. ได้ว่าจ้าง บจ.ซีวิล เอ็นจิเนียริ่ง เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง เนื้องานแบ่งเป็น สร้างคันทางรถไฟระดับดินประมาณ 7 กม. โครงสร้างทางรถไฟยกระดับประมาณ 4 กม. ศูนย์ซ่อมบำรุงทาง 1 แห่ง งานระบบระบายน้ำ งานรื้อย้ายราง ระบบสาธารณูปโภค คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ต.ค.นี้

158634342313

ขณะที่สัญญางานโยธาที่เหลือมีทั้งส่วนที่ผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท.แล้ว สถานะอยู่ระหว่างรอลงนามสัญญา และยังมีบางส่วนที่ยังอยู่ระหว่างเตรียมเสนอขออนุมัติจากบอร์ด ร.ฟ.ท. อย่างไรก็ดี เมื่อผลการประมูลผ่านการเห็นชอบจากบอร์ด ร.ฟ.ท.แล้ว ก็จะต้องเข้าสู่ขั้นตอนรอผลการพิจารณารายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) จึงจะมีการลงนามสัญญาเริ่มงานก่อสร้างได้

สำหรับสัญญางานโยธาที่บอร์ด ร.ฟ.ท.อนุมัติผลการประมูลไปล่าสุด เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา คือ งานสัญญาที่ 3-2 งานโยธา อุโมงค์ (มวกเหล็กและลำตะคอง) ระยะทาง 12.23 กม.วงเงิน 4,279.328 ล้านบาท โดยอนุมัติว่าจ้างบริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอผลการพิจารณาอีไอเอ โดย ร.ฟ.ท.คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 เดือนนับจากนี้