ปรับฐาน ลดความร้อนแรง

ปรับฐาน ลดความร้อนแรง

เก็งกำไรรายตัวแบบมี Stop loss 3-5%

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

ดัชนีปรับฐาน ลดความร้อนแรง แนวรับ 1191 / 1164 จุด และแนวต้าน 1238 / 1267 จุด เราคาดว่าตลาดหุ้นไทยมีโอกาสพักฐานระยะสั้น หลังจากปรับตัวขึ้นร้อนแรงกว่า 6.68% วานนี้ ขณะที่ Dow Jones เมื่อคืนที่ผ่านมาพลิกมาปิดลบ -0.12% ช่วงท้ายตลาด จากบวกเกือบพันจุดในระหว่างชั่วโมงซื้อขาย โดยมอง SET Index มีโซนปรับฐานที่ระดับ 1191-1200 จุด อิงสถิติต่างชาติกลับมา Short ใน SET50 futures สูงถึง 3 หมื่นสัญญา มีโอกาสราว 60% ที่ดัชนีจะอ่อนตัวใน 1-3 วันถัดมา โดยเราประเมินว่าเป็นการปิดสถานะ Long ทำกำไรที่ได้ Long มาตั้งแต่ต้นปี ดังนั้น ให้ระวังหุ้นที่ปรับขึ้นแรงกว่า 30% ในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมาอาทิ TTA, PSL, GGC, PTTGC, PTTEP, TOP, BCP, THAI, ORI, PTT, IVL, ESSO เนื่องจากตลาดอาจมีแรงขายทำกำไรระยะสั้น (sell on fact) หลังจากที่มีการประกาศมาตรการเยียวยาขนานใหญ่วานนี้ โดยยังต้องติดตามจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศที่เพิ่มขึ้นต่ำกว่าระดับ 100 คนต่อวัน เป็นวันที่สองติดต่อกัน ถือเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนดัชนีระยะสั้นให้ประคองตัวได้

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วานนี้

+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวก: ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ 1214.95 จุด +76.11 จุด +6.68% มูลค่าการซื้อขาย 9.89 หมื่นล้านบาท จากแรงหนุนของผลการประชุมครม. อนุมัติมาตรการดูแลและเยียวยา COVID-19 ระยะ 3 วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท โดยเป็นการปรับขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย

+ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปปรับขึ้น: DJ -0.12% S&P500 -0.16% Nasdaq -0.33% โดยดัชนีฯ อ่อนแรงลงในช่วงท้ายของการซื้อขาย หลังราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงกว่า 9% ภายหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ได้ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ WTI และเบรนท์ในปี 2020 ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก ทั้ง CAC40 +2.12% DAX +2.79% FTSE +2.19% เนื่องจากนักลงทุนขานรับสัญญาณที่ว่าการแพร่ระบาดของ COVID-19 อาจชะลอตัวลง หลังมีรายงานว่าผู้ติดเชื้อรายใหม่ในอิตาลี สเปน และสหรัฐฯ มีจำนวนลดลง

- น้ำมันดิบร่วง: WTI –USD2.45 ปิด USD23.63/บาร์เรล Brent –USD1.18 ปิด USD31.87/บาร์เรล หลังจาก EIA ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ WTI และเบรนท์ในปี 2020 ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มโอเปค และประเทศพันธมิตร ซึ่งนาโดยรัสเซีย ในวันพฤหัสบดีนี้

- ทองคำอ่อนแรง: ทองคำอ่อนแรงมาอยู่ที่ USD1,683.70/ออนซ์ –USD10.2 -0.6% เป็นเพราะนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า

ประเด็นสำคัญ

- COVID-19 Update: WHO รายงานล่าสุด ณ วันที่ 7 เม.ย. 2020 มีจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 1,279,722 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 68,766 ราย และผู้เสียชีวิต 72,614 ราย

+ ไทย: ครม. เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการเยียวยาประชาชนในกลุ่มลูกจ้างใช้แรงงาน ผู้ประกอบการอาชีพอิสระ จากเดือนละ 5 พันบาท ระยะเวลา 3 เดือน เป็น 6 เดือน สิ้นสุดเดือน ก.ย. 2020 รวมทั้งสิ้น 3 หมื่นบาท ทุกราย โดยการขยายระยะเวลาดังกล่าวเป็นเพราะผลกระทบที่รุนแรงของ COVID-19 ทั้งภาคประชาชนและผู้ประกอบการ รวมทั้งยังไม่มีความแน่นอนว่าสถานการณ์จะสิ้นสุดเมื่อใด โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณสำหรับแจกเงินไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านบาท ซึ่งมาจากการออก พ.ร.ก. กู้เงิน เพื่อการเยียวยาและดูแลเศรษฐกิจ

+ ไทย: ธปท. ออก 4 มาตรการเพิ่มเติม เพื่อช่วยเหลือ SMEs และดูแลเสถียรภาพตลาดสารหนี้ภาคเอกชน เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจาก COVID-19 ประกอบด้วย 1) เลื่อนการชำระหนี้ ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย 6 เดือน สำหรับธุรกิจ SMEs ที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 100 ล้านบาท และเป็นลูกหนี้ที่ดี 2) สินเชื่อใหม่ (Soft Loan) วงเงิน 5 แสนล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 2% นาน 2 ปี และฟรีดอกเบี้ย 6 เดือนแรก สำหรับธุรกิจ SMEs ที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 500 ล้านบาท และเป็นลูกหนี้ที่ดี 3) ลดค่าธรรมเนียม FIDF เหลือ 0.23% นาน 2 ปี และ 4) กองทุนเสริมสภาพคล่องตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชน วงเงิน 4 แสนล้านบาท

กลยุทธ์: เก็งกำไรรายตัวแบบมี Stop loss 3-5% ได้แก่ KCE, GPSC, GULF และหาจังหวะสะสมหุ้นปันผลดีเมื่ออ่อนตัวได้แก่ DIF, JASIF, EGATIF

Derivatives: เปิด Short S50M20 เก็งกำไรหลัง 10:30 น. (Day trade)