เพิ่มความระวังและแบ่งทำกำไร หลังฟื้นตัวในระดับ 200 จุด ตามคาดแล้ว

เพิ่มความระวังและแบ่งทำกำไร หลังฟื้นตัวในระดับ 200 จุด ตามคาดแล้ว

ครม.มีมติอนุมัติมาตรการดูแลเยียวยาผลกระทบโควิท ระยะที่ 3 วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท

ประกอบด้วย 3 ส่วนได้แก่ 1) พ.ร.ก.กู้เงินเพื่อเยียวยาและดูแลเศรษฐกิจ 1 ล้านล้านบาท (เยียวยาประชาชน, เกษตรกร และดูแลสาธารณสุข 6 แสนลบ. ดูแลเศรษฐกิจชุมชน 4 แสนลบ.) 2) พ.ร.ก.ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยออกวงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำดูแลเศรษฐกิจ 5 แสนลบ. (พักชำระหนี้ธุรกิจรายย่อย และสินเชื่อใหม่ดอกเบี้ยต่ำ) 3) พ.ร.ก.ดูแลเสถียรภาพ ภาคการเงิน 4 แสนลบ. (ดูแลปัญหาขาดสภาพคล่องในตลาดตราสารหนี้) เรามองนโยบายข้างต้นช่วยประคับประคองเศรษฐกิจ แต่อาจไม่มากพอที่จะสนับสนุนการเติบโตสินเชื่อของกลุ่มการเงิน รวมทั้งไม่มากพอต่อกลุ่มค้าปลีก ที่อาจได้รับผลลบจากการหายไปของนักท่องเที่ยว และการปิดโรงแรม รวมถึงร้านอาหาร ทำให้เรายังระวังกลุ่มธนาคาร ไฟแนนซ์ และค้าปลีก

ติดตามจำนวนผู้ป่วยไทยที่อาจเร่งตัวขึ้น หลังกรมควบคุมโรคผ่อนคลายนิยามของผู้ที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคโควิท-19 (PUI) จากเดิมมีอาการป่วยร่วมกับความเสี่ยงเดินทางกลับจากประเทศเสี่ยงหรือสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย โดยขยายเกณฑ์เสี่ยงครอบคลุมถึงผู้ที่ทำอาชีพสัมผัสกับนักท่องเที่ยวหรือคนจำนวนมาก ไปในสถานที่ชุมชนหรือใช้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ หรือในกรณีหาสาเหตุไม่ได้ หรือไม่ดีขึ้นใน 48 ชม. ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์ได้รับการตรวจมากขึ้น จากเดิมผู้ไม่เข้าเกณฑ์ต้องออกค่าใช้จ่ายเอง

หุ้นพลังงานตอบรับปัจจัยบวกราคาน้ำมันดิบไปมากแล้ว หุ้นพลังงานปรับขึ้นเด่นในรอบนี้จากการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบจาก 1) สถานการณ์ผู้ติดเชื้อที่เริ่มเห็นสัญญาณสูงสุด        (ในระลอกที่ 1) 2) การกลับมาดำเนินงานของภาคอุตสาหกรรมจีน 3) ความคาดหวังการเจรจาลดกำลังการผลิตระลอกใหม่ระหว่าง ซาอุดิอาระเบีย-รัสเซีย-สหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม กฎหมายของสหรัฐฯ มีการห้ามการกระทำในลักษณะร่วมมือผูกขาด (Cartel) ซึ่งหากสหรัฐฯ ไม่สามารถจัดการลดกำลังการผลิต โอกาสที่ข้อตกลงปรับลดการผลิตน้ำมันยังต้องใช้เวลากว่าที่จะเกิดขึ้นได้จริง และตลาดอาจผิดหวังผลการหารือในวันที่ 9 เม.ย.นี้

SET Index ฟื้นตัวถึง 1200-1250 จุด หรือในระดับ 200 จุด ตามที่เราคาดเมื่อ 24 มี.ค. เป็นโอกาสขายทำกำไรสำหรับผู้เสี่ยงซื้อในรอบที่ผ่านมา สำหรับผู้ที่จะเก็งกำไรต่อยอดลุ้นการขึ้นทดสอบ 1250-1270 จุด ไม่ควรไล่ราคาแต่เน้นการตั้งรับ โดยใช้แนวรับ 1185 จุด เป็นจุดเข้าซื้อ และตัดสินใจชะลอการเก็งกำไรหากหลุด กลุ่มสาธารณูปโภคยังมีแนวโน้มที่ดี

ภาพรวมกลยุทธ์ ไม่ไล่ราคาหลัง SET Index มาถึงเป้าหมายการฟื้นตัว ภาพรวมวางกลยุทธ์เก็งถึงแค่ก่อนงบออกและกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง โดยขยับจุดตัดสินใจขึ้นมาเป็น 1185 จุด ต่ำกว่าระดับดังกล่าวชะลอการเก็งกำไร // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร INTUCH, BPP, SCC  / ทยอยสะสม ADVANC, CPALL*, THRE*, EGCO, RATCH

แนวรับ 1,185-1,200 / แนวต้าน : 1,245 จุด สัดส่วน : เงินสด 70% : พอร์ตหุ้น 30%

ประเด็นการลงทุน

ดาวโจนส์พลิกปิดลบรับแรงฉุดน้ำมันร่วง ตัวเลขผู้เสียชีวิตพุ่ง – ผู้ว่าการนิวยอร์ก เปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัส Covid-19 ในรัฐนิวยอร์กพุ่งขึ้น 731 ราย วานนี้ โดยเป็นการเพิ่มขึ้นต่อวันที่มากสุดเป็นประวัติการณ์

อู่ฮั่น เปิดเมืองหลังปิดมานานกว่า 2 เดือน – อู่ฮั่น เมืองแรกที่ใช้มาตรการปิดเมืองเพื่อลดจำนวนการแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 กลับมาเปิด หลังปิดนานกว่า 2 เดือน

ตลาดทุนไม่เห็นด้วยกับมาตรการลดเวลาเทรด – วงการตลาดทุนเผยไม่เห็นด้วยกับการลดเวลาซื้อขายหุ้น ระบุมาตรการับมือในปัจจุบันเพียงพอแล้ว และ ช่วงเวลาเทรดในปัจจุบันสอดคล้องกับการเปิดปิดของตลาดหุ้นต่างประเทศ

INTUCH - เมื่อคืนที่ผ่านมา ทางเทมาเสค สิงคโปร์ ได้ทำการเปิดขายหุ้น INTUCH จำนวน 135.2 ล้านหุ้น ให้แก่ผู้สนใจในวงจำกัด (block trade) โดยราคาซื้อขายสรุปที่ 45.12 บาท มีส่วนลดราว 4.5% จากราคาปิดที่ 47.25 บาท โดยผู้ซื้อจะถูกห้ามขายหุ้นดังกล่าวเป็นเวลา 6 วัน 

ประเด็นติดตาม: 9 เม.ย. – FOMC meeting minute / OPEC meeting, 10 เม.ย. – US CPI เดือน มี.ค.

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)