'สมชัย' ชี้โลกหลังยุคโควิดธุรกิจเปลี่ยน - "ดิจิทัล" คือ คำตอบ
ระบุเตรียมคาปาซิตี้เพิ่ม 300% รับทราฟฟิกพุ่งในช่วงเวิร์คฟรอมโฮม ชี้หลังผ่านวิกฤติหลายองค์กรต้อง โก ดิจิทัล เต็มตัว ปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจให้มากขึ้น
รวมถึง มีการพัฒนาช่องทางออนไลน์ ซึ่งสถานการณ์นี้ถือเป็นโอกาสในการกระตุ้นให้ลูกค้าเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม โดยหันมาใช้บริการผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น จากเดิมที่ใช้อยู่ราว 10% ขณะเดียวกัน ก็มีจัดการประกันภัยที่คุ้มครองการติดไวรัสโควิด-19 ให้กับลูกค้า และจัดแพ็คเกจ โปรโมชั่นต่างๆ เพื่อที่จะสนับสนุนมาตรการการทำงานจากที่บ้าน หรือเวิร์กฟรอมโฮม ของรัฐบาล
2.การบริหารองค์กรและพนักงาน ซึ่งพนักงานถือเป็นหัวใจสำคัญ เพราะการที่เอไอเอสเป็นอันดับหนึ่งในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมได้ทุกวันนี้ มาจากพนักงานและบุคลากรทุกคน โดยผู้บริหารเอไอเอสรวมถึงคณะกรรมการของบริษัท ได้ให้นโยบายอย่างชัดเจนว่า ความปลอดภัยและสุขอนามัยที่ดีของพนักงานเป็นเรื่องสำคัญที่สุด โดยมีการดำเนินการตามมาตราการป้องกันของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อย่างเคร่งครัด และจากจำนวนพนักงาน 12,000-13,000 คน มีการดำเนินงานตามมาตรการเวิร์กฟรอมโฮมแล้ว 80% โดยส่วนที่เหลืออีก 20% เป็นพนักงานดูแลโครงข่าย พนักงานคอลเซ็นเตอร์ และพนักงานซ่อมบำรุง
และ 3.สิ่งที่ทำเพื่อประเทศและคนไทย คณะกรรมการ (บอร์ด) เอไอเอสได้อนุมัติเงินเบื้องต้น 100 ล้านบาท สำหรับการติดตั้งโครงข่าย 5จี ในโรงพยาบาล 20 แห่ง และจะขยายให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลอีก 130 แห่ง และต่างจังหวัดอีก 8 แห่ง รวมทั้งสิ้น 158 แห่ง ภายในเม.ย.นี้ เพื่อรองรับการปฏิบัติงานของเทคโนโลยีและโซลูชั่นทางการแพทย์ ที่ต้องการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง
รวมถึง มีการจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจ เอไอเอส โรโบติกส์ แล็บ เพื่อระดมนักวิจัย นักพัฒนา ร่วมพัฒนาหุ่นยนต์ทางการแพทย์ 5จี ในการรักษาทางไกล และโซลูชั่นงานบริการทางแพทย์ โดยทำงานร่วมกับโรงพยาบาล เพื่อให้สอดรับกับความต้องการเฉพาะของแต่ละแห่ง ทั้งนี้ พร้อมเปิดกว้างในการพัฒนาหุ่นยนต์ร่วมกับทุกภาคส่วน นอกจากนี้ ยังมีการส่งมอบหุ่นยนต์ทางการแพทย์ 5จีเวอร์ชันใหม่ โรบอทฟอร์แคร์ จำนวน 21 ตัว โดย เอไอเอส โรโบติกส์แล็บให้กับโรงพยาบาล 20 แห่ง ที่รับตรวจและรักษาผู้ป่วยที่รับตรวจและรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคาดว่าจะจัดส่งมอบแล้วเสร็จภายในเม.ย.เช่นเดียวกัน
เขา ระบุอีกว่า จากวิกฤติที่เกิดขึ้นทำให้ทุกภาคส่วนก้าวสู่ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ และเชื่อว่าหลังจากที่วิกฤติผ่านพ้นไปหลายๆธุรกิจต้องปรับเปลี่ยนบิซิเนส โมเดลให้อยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น เพราะหากใครไม่ โก ดิจิทัล ก็จะอยู่รอดยาก เช่นเดียวกับเอไอเอสที่คงต้องปรับแผนบริษัทให้มีความดิจิทัลมากขึ้นไปอีก ซึ่งแม้เอไอเอสจะพยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของลูกค้าให้มาใช้งานผ่านช่องทางดิจิทัลหรือออนไลน์ก็ยังไม่มีผลเท่าที่ควร ซึ่งที่ผ่านมามียอดการใช้งานเพียง 10% แต่จากสถานการณ์นี้ทำให้อุตสาหกรรมและภาพรวมของตลาดก้าวสู่ดิจิทัลไปโดยปริยาย
“ถ้าถามถึงผลกระทบจากโควิด-19ว่า เรากระทบไหมก็ตอบอย่างตามตรงว่า มีบ้าง แต่คงไม่สามารถบอกได้ว่าเป้าหมายรายได้หรือกำไรต้องปรับลดลงหรือไม่ เพราะเราคงต้องมารีวิวกันอีกทีครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งที่หายไปเลยคือเข้ามาช็อปมาซื้อเครื่องใหม่มาเปิดเบอร์ใหม่ แต่ผมไม่อยากมองตรงนั้น วันนี้เราต้องร่วมใจกันเพื่อให้ทุกอย่างคลี่คลายโดยเร็ว”