ครม.ไฟเขียวอนุมัติบรรจุขรก.สธ.อีกกว่า 4 หมื่นอัตรา สู้โควิด-19
ครม.ไฟเขียวอนุมัติบรรจุขรก.สธ.อีก 45,984 อัตรา เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้บุคลากรสธ.สู้โควิด 19
เมื่อวันที่ 7 เม.ย.63 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมครม.มีมติอนุมัติในหลักการการขอบรรจุตำแหน่งข้าราชการอัตราตั้งใหม่ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ 1.อัตราข้าราชการตั้งใหม่เพื่อบรรจุบุคลากรในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานด่านหน้าในสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 ในปีงบประมาณ 2563 จำนวน 24 สายงาน รวม 38,105 อัตรา
2.อัตราข้าราชการตั้งใหม่เพื่อบรรจุนักศึกษาผู้สำเร็จการศึกษาในปี 2563 ใน 5 สายงาน 7,579 อัตรา 3.คัดเลือกบรรจุบุคคลซึ่งไม่ได้สำเร็จการศึกษาในวุฒิที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) กำหนด ให้คัดเลือกบรรจุเข้ารับราชการตามหนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่นร1004/ว/17 ลงวันที่ 19 ก.ย.2562 ทั้งนี้ รายละเอียดหลักเกณฑ์การบรรจุอัตรข้าราชการใหม่นี้ จะมีการนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ กำหนดเป้าหมายและนโยบาย กำลังคนภาครัฐ (คปร.) จากนั้นจะส่งเรื่องให้ก.พ.นำเสนอรายงานต่อ ครม.เพื่อรับทราบต่อไป
น.ส.ไตรศุลี กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขระบุเหตุผลว่าด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดในปัจจุบัน ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากอย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนในการเพิ่มขีดความสามารถด้านกำลังคนให้มีจำนวนเพียงพอ และมีสมรรถนะเหมาะสมในการตรวจคัดกรอง วินิจฉัยโรค การรักษาพยาบาล การควบคุมการแพร่กระจายของโรค รวมทั้งการฟื้นฟูสุขภาพของประชาชน ดังนั้น ทางกระทรวงฯเสนอขอบรรจุบุคลากรที่มีประสบการณ์ มีความรู้ความสามารถ ในการทำงานวิชาชีพ อีกทั้งยังเป็นกำลังหลักในกรปฏิบัติงานด่านหน้า ทำงานในที่ที่มีความเสี่ยง ต้องทำงานผลัดเวรตลอด 24 ชั่วโมง
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นอกจากนี้ ครม.ยังมีมติเห็นชอบมาตรการการเพิ่มสิทธิประโยชน์อื่นสำหรับบุคลากรกระทรวงสาธารณสุข ดังนี้ 1.การสนับสนุนเงินเพิ่มพิเศษรายเดือนสำหรับบุคลากรกระทรวงสาธารณสุข 2.การจัดสรรโควตาพิเศษความดีความชอบพิเศษสำหรับบุคลากรสาธารรณสุข 3.การปรับสิทธิประโยชน์ของบุคลากรที่ได้รับความเสียหายกรณีปฏิบัติหน้าที่ (กรณีเสียชีวิต เจ็บป่วย ทุพพลภาพ) และนับเวลาอายุราชการทวีคูณเพื่อคำนวณบำเหน็จบำนาญ
4.การลดอัตรดอกเบี้ยเงินกู้ส่วนบุคคลกรุงไทยยธนวัฏ/ ธนาคารออมสิน ระยะเวลา 1 ปี สำหรับบุคลากรสาธารณสุข 5.การปรับอัตราชดเชยในมาตรา 18 ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้บริการสาธารณสุขที่ได้รับความเสียหายจากการให้บริการทางสาธารณสุข (กรณีติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019) จำนวน 2 เท่าจากอัตราเดิม