รองผู้ว่าฯ ตรัง แจงปิดเมืองยังไม่ได้และพบคนฝ่าฝืนเคอร์ฟิว

รองผู้ว่าฯ ตรัง แจงปิดเมืองยังไม่ได้และพบคนฝ่าฝืนเคอร์ฟิว

"ขจรศักดิ์" รองผู้ว่าฯ ตรัง ออกโรงแจง หลังมีเสียงเรียกร้องให้ปิดเมืองตรัง ระบุต้องวิเคราะห์ข้อมูลรอบด้าน ขณะนี้ตัวเลขผู้ป่วยยังคงที่ ด้าน ตร. ระบุช่วงเคอร์ฟิวมีประชาชนฝ่าฝืน รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้าบางส่วนออกมาจัดเตรียมสินค้าเตรียมขาย

เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 63 ที่ห้องประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์ COVID-19 ศาลากลางจังหวัดตรัง ชั้น 5 นายขจรศักดิ์ เจริญสิริโสภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวกับผู้เข้าประชุมวิดีโอคอนเฟอร์เรนท์ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิดทั้ง 10 อำเภอ เกี่ยวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชนบางส่วน ที่เรียกร้องให้จังหวัดตรังปิดเมือง หรือล๊อคดาวน์จังหวัดตรัง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 ให้เหมือนกับที่จังหวัดใกล้เคียงทำการปิดเมืองไปแล้ว เช่น พัทลุง สตูล กระบี่ และสงขลาว่า การจะปิดเมืองจะต้องนำข้อมูลรอบด้านมาใช้สำหรับการวิเคราะห์สถานการณ์ โดยเฉพาะข้อมูลระบาดวิทยา ซึ่งเบื้องต้นจังหวัดที่ปิดอย่างภูเก็ต สงขลา กระบี่ พัทลุง หรือสตูลปิดด่าน ด้วยเหตผลที่ว่าในพื้นที่แต่ละจังหวัดสถานการณ์การระบาดพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น จ.ภูเก็ตทะลุไป 100 กว่าราย สงขลาประมาณ 37 ราย พัทลุง 10 ราย ซึ่งในการปฏิบัติจังหวัดตรังมีขั้นตอนในการทำดำเนินการอยู่แล้ว โดยจะเอาสถานการณ์การระบาดในพื้นที่เป็นปัจจัยสำคัญ รวมทั้งการวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์การระบาด แต่ขณะนี้ของตรัง 6 ราย และตัวเลขการระบาดและผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค ก็ไม่ได้พุ่งสูงขึ้นจนน่าตกใจกลัวเหมือนกับจังหวัดอื่นๆ เช่นเดียวกับการเรียกร้องของเจ้าของผู้ประกอบการโรงแรม และผู้เช่ารายย่อย ภายในห้างสรรพสินค้าที่เรียกร้องให้ทางจังหวัดสั่งปิดห้าง และโรงแรม เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาการระบาดของเชื้อโควิด19ทำให้ไม่มีลูกค้า ไม่มีรายได้ ขาดทุนย่อยยับ ซึ่งหากสั่งปิดในส่วนของลูกจ้าง หรือผู้เช่ารายย่อยอาจจะได้รับการเยียวยาจากรัฐบาล และส่วนของลูกจ้างเข้าสู่ระบบการเยียวยาจากประกันสังคม ทั้งนี้ ทั้งเรื่องการปิดเมือง และการปิดห้างสรรพสินค้า และโรงแรม จะต้องนำข้อมูลเข้าที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดตรังพิจารณาในวันพุธที่8เมษายนนี้

ทางด้าน พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ได้รายงานผลการปฏิบัติงานช่วงประกาศเคอร์ฟิวส์ของรัฐบาลว่า เจ้าหน้าที่ได้มีการเตือน 7 ราย และมีการจับกุมดำเนินคดี 4 ราย อ.ปะเหลียน 2 ราย อ.หาดสำราญ 1 ราย และห้วยยอด 1 ราย รวมทั้งมียาเสพติด โดยทั้งหมดถูกจับกุมเนื่องจากขับรถออกนอกบ้านในช่วงเวลาประกาศเคอร์ฟิวดังกล่าว ทั้งนี้ ได้ส่งฟ้องศาลข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก. 3 ราย ศาลสั่งปรับรายละ 5,000 บาท และมีโทษจำคุก ให้รอลงอาญา ในส่วนของ อ.หาดสำราญมีโทษบำเพ็ญประโยชน์ 12 วัน ส่วนของ อ.ห้วยยอด รอฟ้องร่วมกับคดียาเสพติด(ยาบ้า) นอกจากนั้นปัญหาของพ่อค้าแม่ค้าตลาดท่ากลาง ต.ทับเที่ยง พบว่า2คืนที่ผ่านมา ออกมาจัดเตรียมของเพื่อวางขายในช่วงเวลาตั้งแต่03.00น. ซึ่งยังเป็นช่วงของประกาศเคอร์ฟิว โดยที่ผ่านมาได้ใช้วิธีว่ากล่าวตักเตือน แต่นับจากคืนวันที่5เมษายนเป็นต้นไป จะจับกุมและดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดตาม พ.รก.สถานการณ์ฉุกเฉิน

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบรรยากาศของตลาดท่ากลาง ซึ่งเป็นตลาดขายผักตลอด 24 ชั่วโมง มีลูกค้าทยอยเข้ามาซื้อหาผักในตลาดบางตา ด้านพ่อค้าแม่ค้าขายผัก จึงต้องปรับตัวทันที เพราะเจ้าหน้าที่จะจับกุม จึงเร่งจัดผักต่างๆ ตามแผง เอาไว้ตั้งแต่เวลาประมาณ 20.00-21.00 น. แล้วใช้ผ้ายางคลุมไว้ รอขายอีกครั้งช่วงหลังเวลา 04.00น. ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก. เพราะเจ้าหน้าที่จะจับกุมดำเนินคดี แต่อย่างไรก็ตาม ก็พบว่าพ่อค้าแม่ค้าผักบางเจ้าก็หยุดขาย ยอมปล่อยทิ้งแผง เพราะคนมาซื้อน้อยลง ขายได้น้อย และเสี่ยงจะรับเชื้อโควิด-19 บางรายจึงใช้วิธียอมหยุดขายชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับตัวเลขผู้ป่วยสะสมของจังหวัดตรัง รวมจำนวน 6 คน กลับบ้านแล้ว 3 ราย ยังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล 3 ราย ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคจำนวน 145 ราย ตรวจไม่พบเชื้อ 129 ราย รอผลการตรวจ 10 ราย