‘โอกาส’ และ 'บทเรียน' ในยามวิกฤติ

‘โอกาส’ และ 'บทเรียน' ในยามวิกฤติ

วิกฤติครั้งนี้ นับเป็นโอกาส เป็นภาคบังคับให้คน ธุรกิจ อุตสาหกรรม ต้องหันมาใช้เทคโนโลยีกันอย่างจริงจัง และสุดท้ายคนจะคุ้นเคยกับการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่

วิกฤติโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดไปในทั่วทุกมุมโลก ทุบระบบเศรษฐกิจทุกประเทศย่อยยับ มหาวิทยาลัยจอห์นส์ฮอปกินส์ ซึ่งติดตามสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ เผยตัวเลขที่น่าตกใจ จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกปัจจุบันเพิ่มเป็น 1,002,000 รายแล้ว โดยเฉพาะในสหรัฐ ประเทศมหาอำนาจของโลกที่กำลังถูกโควิด-19 เล่นงานอย่างหนักหน่วงมียอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 สูงสุดในโลก รองลงมา คือ อิตาลี สเปน เยอรมนี และจีน ขณะที่ ในประเทศไทย สถานการณ์แพร่ระบาดยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มทุกวัน ล่าสุดเพิ่มมา 103 ราย และเสียชีวิตเพิ่มอีก 4 ราย รวมไทยมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 แล้ว 19 ราย

วิกฤติครั้งนี้ สั่นสะเทือนถึงภาคธุรกิจ ประชาชน สังคม รวมถึงระบบสาธารณสุขทั่วโลกที่ต้อง “รื้อแผน” และหามาตรการรองรับในระยะยาว และรัดกุมให้มากขึ้นหากมองมุมกลับอีกด้านวิกฤติครั้งนี้ เรายังได้เห็นความสำคัญของ “เทคโนโลยี” ที่พุ่งสวนทางขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด คนเกือบทุกช่วงวัยมีความใกล้ชิดกับเทคโนโลยีมากขึ้นกว่าช่วงเวลาปกติ เราเห็นกิจกรรมบนโลกออนไลน์เพิ่มสูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนทั้งการทำธุรกรรมออนไลน์ ช้อปปิ้งออนไลน์ สั่งอาหารออนไลน์ ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก

จึงเชื่อว่าเมื่อวิกฤตินี้สิ้นสุดลง โลกจะเปลี่ยนไปอย่างที่เราไม่เคยนึกมาก่อนวิถีชีวิตผู้คนที่ไม่เหมือนเดิมตั้งแต่การทำงาน การใช้ชีวิตประจำวัน ธุรกิจและอุตสาหกรรมหลายๆ อย่างเปลี่ยนไปคนจะเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีง่ายขึ้น เพราะวิกฤติครั้งนี้ธุรกิจส่วนใหญ่ไม่สามารถทำงานได้ในแบบปกติพนักงานไม่สามารถออกไปทำงานหลายคนต้องอยู่บ้าน และมีความจำเป็นต้องหันไปพึ่งพาเทคโนโลยีดิจิทัล ไม่ว่าจะเพื่อการทำงาน หรือการใช้ชีวิต รวมไปถึงการประกอบสัมมาอาชีพก่อเกิดเป็นธุรกิจใหม่ๆ

ขณะที่ภาครัฐจะได้เรียนรู้ว่า กรอบความคิดการทำงานแบบเดิมๆ บนอุปกรณ์เดิมๆล้าสมัย ไม่มีประโยชน์อันใดในช่วงเกิดภาวะวิกฤติการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดบริการภาครัฐแบบวันสต็อปเซอร์วิส ที่หลายหน่วยงานทำได้บ้างไม่ได้บ้าง วิกฤติครั้งนี้จะเห็นว่ามันจำเป็นมากแค่ไหน การใช้ประโยชน์จาก “บิ๊กดาต้า” ที่ยังต้วมเตี่ยม ครั้งนี้สอนว่าต้องบูรณาการข้อมูลในแต่ละหน่วยงานให้ใช้ประโยชน์ร่วมกันได้อย่างเป็นรูปธรรมมากที่สุดการทำธุรกรรมออนไลน์ ระบบซิเคียวริตี้ต่างๆ เราเห็นถึงความจำเป็นที่ต้องทำให้สามารถรองรับการใช้งานครั้งละมากๆ ใช้งานได้จริง ไม่ได้เพียงแค่ทำขึ้นมาเพื่อสร้างภาพลักษณ์อย่างเดียว

ดิจิทัลอีโคโนมี หรือไทยแลนด์ 4.0 ที่เราเคยโหมประโคมมานานหลายปี วิกฤติครั้งนี้คือโอกาสเป็นภาคบังคับให้คน ธุรกิจ อุตสาหกรรม ต้องหันมาใช้เทคโนโลยีกันอย่างจริงจัง และสุดท้ายคนจะคุ้นเคยกับการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ โดยมีเทคโนโลยีเป็นหัวใจหลัก ซึ่งเราเชื่อว่าวิกฤติครั้งนี้แม้ประเทศจะบอบช้ำ แต่เราจะได้ทั้ง “บทเรียน” และ “โอกาส” ที่จะช่วยกันพลิกฟื้นประเทศให้ก้าวเดินสู่อนาคตได้อย่างแข็งแรง และมีภูมิต้านทานมากขึ้น