รัฐสั่งปิดโรงแรมชั่วคราว 3 จว. ลูกจ้างรับเงินประกันสังคมชดเชยตามกฎหมาย

รัฐสั่งปิดโรงแรมชั่วคราว 3 จว. ลูกจ้างรับเงินประกันสังคมชดเชยตามกฎหมาย

รัฐสั่งปิดโรงแรมชั่วคราว3จังหวัด “ชลบุรี-พังงา-ภูเก็ต” คุมโควิด-19 ลูกจ้างได้รับเงินประกันสังคมชดเชยการว่างงานจากเหตุสุดวิสัยตามกฎหมาย สมาคมโรงแรมไทยจับตาท่าทีส่วนกลาง คำสั่งประกาศปิดโรงแรมในจังหวัดอื่นๆ เพิ่มเติม

นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา ประกาศจากภาครัฐ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชลบุรี พังงา และภูเก็ต ได้มีคำสั่งให้ปิดโรงแรมและสถานประกอบการในลักษณะเดียวกันเป็นการชั่วคราว โดยจังหวัดชลบุรีระบุเพิ่มเติมว่าให้โรงแรมกำหนดมาตรการสำหรับพนักงานและลูกจ้างไม่ให้เดินทางออกนอกพื้นที่ จ.ชลบุรี ส่วนโรงแรมใดที่ยังมีผู้เข้าพักใช้บริการอยู่ในปัจจุบัน หรือมีความประสงค์ไม่ปิดการประกอบการ ให้แจ้งข้อมูลให้นายอำเภอท้องที่ทราบภายใน 3 วันนับตั้งแต่วันที่คำสั่งนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย.เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังประกาศปิดชายหาดในเขตพื้นที่ จ.ชลบุรีทุกแห่งเป็นการชั่วคราวตั้งแต่บัดนี้จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

ด้านจังหวัดพังงาได้ประกาศปิดโรงแรมตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.นี้เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เว้นแต่โรงแรมที่มีผู้เข้าพักอยู่ก่อนประกาศฉบับนี้ใช้บังคับ ให้พักต่อไปจนกว่าผู้เข้าพักจะแจ้งออกจากห้องพักจนหมด แล้วให้ปิดทันทีโดยไม่ให้มีการรับผู้เข้าพักเพิ่ม และโรงแรมที่ประสงค์จะให้ทางราชการใช้เป็นโรงพยาบาลสนาม หรือสถานที่ควบคุมเพื่อสังเกตการณ์เริ่มป่วยในระดับพื้นที่ (Local Quarantine)หรือเพื่อใช้ประโยชน์อื่นใดในทางราชการเพื่อแก้ปัญหาตามมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดจากโรคโควิด-19

ส่วนจังหวัดภูเก็ตได้มีคำสั่งปิดโรงแรมที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วย พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ.2547 ทุกประเภท และสถานประกอบการในลักษณะเดียวกัน ยกเว้นโรงแรมซึ่งทางราชการใช้เป็นโรงพยาบาลสนาม หรือสถานที่พักเพื่อสังเกตอาการ หรือใช้เพื่อประโยชน์อื่นใดในทางราชการเพื่อแก้ไขปัญหานี้ สำหรับโรงแรมที่มีผู้เข้าพักอยู่ก่อนคำสั่งนี้มีผลใช้บังคับ ให้พักต่อไปจนกว่าผู้เข้าพักจะแจ้งออกจากห้องพักจนหมดแล้วให้ปิดทันทีโดยไม่ให้มีการรับผู้เข้าพักเพิ่มอีก

ทั้งนี้ให้โรงแรมในภูเก็ตที่ยังมีนักท่องเที่ยวหรือผู้เดินทางเข้าพักอยู่ ต้องแจ้งจำนวนและรายชื่อผู้เข้าพักให้ที่ทำการปกครองอำเภอทราบ เพื่อตรวจคัดกรองผู้เข้าพักทุกคน หากผู้เข้าพักคนใดมีอาการเข้าข่ายที่ต้องเฝ้าระวังการติดโรคโควิด-19 จะต้องถูกส่งไปแยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกตอาการยังสถานที่ที่จังหวัดภูเก็ตกำหนด มีผลตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.นี้เป็นต้นไป

“สมาคมฯยังต้องติดตามข่าวว่าจะมีประกาศสั่งปิดโรงแรมชั่วคราวในจังหวัดอื่นๆ เพิ่มเติมหรือไม่ เช่น กรุงเทพฯ สุราษฎร์ธานี (สมุย) เพชรบุรีกับประจวบคีรีขันธ์ (ชะอำและหัวหิน) และเชียงใหม่ รวมถึงท่าทีจากส่วนกลางว่าจะมีการสั่งปิดโรงแรมทั้งประเทศเลยหรือไม่ โดยโรงแรมที่รัฐเป็นผู้สั่งปิดกิจการชั่วคราวนั้น ทางสำนักงานประกันสังคมจะเป็นผู้จ่ายเงินชดเชยการว่างงานจากเหตุสุดวิสัยแก่ลูกจ้างและผู้ประกันตนของโรงแรมนั้นๆ ตามกฎหมาย”

จากสถิติล่าสุดเมื่อเดือน มี.ค.2563 พบว่าไทยมีจำนวนโรงแรมที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายทั่วประเทศ 32,564 แห่ง คิดเป็นจำนวนห้องทั้งหมด 1,254,168 ห้องพัก มีพนักงานโรงแรมทั้งหมด 1,630,419 คน โดยคาดว่ากว่า 95% ของโรงแรมทั้งหมดหรือคิดเป็น 30,936 แห่งจะไม่มีรายได้เพราะการระบาดของโควิด-19 ในช่วงนี้