ทอท.ฉวยจังหวะช่วง 'โควิด' รีโนเวทสนามบินดอนเมือง

ร.ท.สัมพันธ์ ขุทรานทท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน)(ทอท.) เปิดเผยว่า จากผลกระทบของการระบาดโรคโควิด -19 ที่ทำให้ปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสารเข้ามาใช้บริการท่าอากาศยานดอนเมืองลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ตัวเลขจำนวนผู้โดยสาร และเที่ยวบินระหว่างประเทศเป็น 0 ทอท.จึงปรับวิกฤติดังกล่าวเพื่อใช้ดำเนินการปรับปรุงอาคาร และสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อพร้อมรองรับการใช้บริการของผู้โดยสารเมื่อสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ

โดยขณะนี้ ทอท.เตรียมเปิดประกวดราคาจ้างงานปรับปรุงงานภายในอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ (อาคาร 1) ท่าอากาศยานดอนเมือง จำนวน 3 งาน วงเงินลงทุนราว 126 ล้านบาท

โดยแผนงานที่จะดำเนินการในการปรับปรุงสนามบินดอนเมืองของ ทอท.ประกอบด้วย 1.งานปรับปรุงระบบปรับอากาศ วงเงินประมาณ 99 ล้านบาท 2.งานเปลี่ยนพรมภายในอาคารผู้โดยสาร วงเงินประมาณ 18 ล้านบาท และ 3.งานเปลี่ยนหลอดไฟเป็นแบบ LED เพื่อการประหยัดพลังงาน วงเงินประมาณ 9 ล้านบาท คาดว่าจะเข้าสู่กระบวนการเปิดประมูลได้ภายในเดือน เม.ย.63 เริ่มปรับปรุงงานประมาณเดือน ก.ค.นี้ และงานจะแล้วเสร็จภายในปี 2563

“งานเหล่านี้ถือเป็นงานที่ดำเนินการยากมากในภาวะปกติที่มีผู้โดยสารมาใช้บริการหนาแน่น เพราะบางงาน เช่น เปลี่ยนหลอดไฟ เปลี่ยนท่อแอร์ที่อยู่เหนือเพดาน ต้องเปิดฝ้าบริเวณทางเดิน เวลาทำต้องรื้อออกทั้งหมด หรือการที่จะเปลี่ยนระบบแอร์ก็ต้องปิดแอร์ทั้งหมด ดังนั้นจึงขอฉวยโอกาสในช่วงนี้ที่มีจำนวนผู้โดยสารมาใช้บริการลดลงเร่งปรับปรุงให้แล้วเสร็จ”

ร.ท.สัมพันธ์ ยังกล่าวด้วยว่า ส่วนตัวมีความกังวลว่า การเปิดประมูล3 งานนี้ จะมีเอกชนสนใจเข้าร่วมหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้มีบางงานที่เปิดประมูลไปจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีผู้รับจ้างรายใดเข้ามายื่นซองประมูล ขณะที่บางงานได้ผู้ชนะประมูลแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้มีการลงนามในสัญญา ซึ่ง ทอท.ก็เข้าใจดีว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ผู้รับจ้างอาจมีปัญหาเรื่องแรงงาน และการจัดหาวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่บางชิ้นส่วนอาจต้องนำเข้าจากต่างประเทศ

“เวลานี้การดำเนินโครงการต่างๆ กำลังประสบกับปัญหาขาดแคลนผู้รับจ้าง เพราะผู้รับจ้างมีปัญหาเรื่องแรงงานและจัดหาวัสดุ แต่อย่างไรก็ตาม การจัดหาผู้รับจ้างดำเนินการปรับปรุงท่าอากาศยานดอนเมืองทั้ง3 งานนี้ต้องดำเนินการเปิดประมูลตามขั้นตอนก่อน หากเปิดประมูลแล้วไม่มีผู้รับเหมามายื่นซองประมูลจริงๆ คงต้องหาวิธีการว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป”