‘ทีคิวเอ็ม’ หุ้นสู้โควิด -ยอดกรมธรรม์พุ่งไม่หยุด

‘ทีคิวเอ็ม’ หุ้นสู้โควิด -ยอดกรมธรรม์พุ่งไม่หยุด

การระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 ผ่านมากว่า 3 เดือน หลังพบผู้ติดเชื้อครั้งแรกที่เมืองอู่ฮั่นของจีนเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ก่อนระบาดหนักไปทุกมุมโลก โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อล่าสุดทะลุ 1 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 5 หมื่นรายทั่วโลก

ขณะที่สถานการณ์ในประเทศไทยยังไม่น่าวางใจ แม้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในแต่ละวันค่อนข้างทรงตัว แต่ตัวเลขยังสูง จนนายกรัฐมนตรีต้องประกาศ “เคอร์ฟิว” ไม่ให้ประชาชนออกจากบ้านเป็นเวลา 6 ชั่วโมง ตั้งแต่ 22.00-04.00 น. แต่ถ้าผู้ติดเชื้อยังพุ่งไม่หยุด รัฐบาลส่งสัญญาณพร้อมใช้ยาแรงประกาศเคอร์ฟิวตลอด 24 ชั่วโมง

ต้องยอมรับว่าการระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพอนามัย การใช้ชีวิตของประชาชนทุกคน ขณะที่เศรษฐกิจเสียหายหนัก บริษัทห้างร้านต่างๆ ต้องปิดชั่วคราว เมื่อขายของไม่ได้ทำให้ขาดสภาพคล่อง ชักหน้าไม่ถึงหลัง ต้องมีการเลิกจ้างและปิดกิจการไปไม่น้อย

แต่สำหรับธุรกิจประกันภัยการระบาดของโควิด-19 กลับกลายเป็นโอกาสทอง เพราะในสถานการณ์แบบนี้เชื่อว่าทุกคนอยากสร้างความมั่นใจให้กับชีวิต เนื่องจากไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น จึงเป็นที่มาให้บริษัทประกันออกกรมธรรม์ประกันภัยโควิด-19 ปรากฎว่าได้รับกระแสตอบรับที่ดีเกินคาด ยอดขายพุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว 

และด้วยวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ประกอบกับโรคระบาดทำให้ไม่มีใครอยากออกจากบ้านถ้าไม่จำเป็น การซื้อประกันจึงเปลี่ยนไป จากเดิมต้องซื้อจากตัวแทน เปลี่ยนมาซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ เจ้าตลาดนาทีนี้ต้องยกให้ บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TQM ทำธุรกิจเป็นนายหน้า หรือ โบรกเกอร์ ขายประกันจากแทบทุกบริษัท ผ่านช่องทางออนไลน์ทั้งเว็บไซต์และไลน์

“อัญชลิน พรรณนิภา” ประธานกรรมการของ TQM เปิดเผยว่า ทำธุรกิจประกันภัยมา 40 ปี นี่เป็นครั้งแรกที่คนไทยให้ความสนใจทำประกันมากที่สุดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยบริษัทเริ่มจับมือกับพันธมิตร “กรุงเทพประกันภัย” ออกประกันโควิด-19 เป็นรายแรกๆ ในตลาด เริ่มขายมาตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ. 2563 ปรากฎว่าได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก

ยอดขายเพิ่มขึ้นทุกวันหลังจำนวนผู้ป่วยพุ่งไม่หยุด ขยับจากหลักหน่วยเป็นหลักสิบ ก่อนขึ้นมาเป็นหลักร้อยอย่างเช่นทุกวันนี้ ขณะที่สถานการณ์ในต่างประเทศเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น ส่งผลให้ลูกค้าติดต่อหาซื้อประกันโควิด-19 เข้ามาเยอะมาก โดยเฉพาะในเดือนที่ผ่านมา มีลูกค้าติดต่อเข้ามาตลอด 24 ชั่วโมง จนเว็บไซต์บริษัทล่มไปหลายวัน

สินค้าฮอตฮิต คือ ประกันแบบ “เจอ จ่าย จบ” ซึ่งหมายความว่าเมื่อตรวจพบเชื้อบริษัทจะจ่ายเงินก้อนให้ทันที แต่ด้วยธรรมชาติของโรคที่อัตราการเสียชีวิตยังค่อนข้างต่ำ ทำให้ประกันแบบ “เจอ จ่าย จบ” อาจไม่สอดคล้องเท่าไหร่ หลายบริษัทจึงทยอยปิดการขายประกันรูปแบบนี้ และเปลี่ยน หรือ เพิ่มเงื่อนไขบางประการ เช่น ระยะเวลารอคอย 14 วัน แต่ก็ไม่ได้ทำให้ยอดขายลดลง

อัญชลิน บอกว่า ปัจจุบันมีลูกค้าที่ซื้อประกันโควิด-19 กับบริษัทแล้วมากกว่า 1 ล้านคน หรือ กว่าครึ่งหนึ่งของยอดขายทั้งระบบ เรียกว่าเกินคาดไปมาก เพราะในช่วงแรกที่ออกกรมธรรม์โควิดตั้งเป้าไว้เพียง 2-3 แสนกรมธรรม์เท่านั้น

ดูแล้วงานนี้บริษัทรับไปเต็มๆ จากส่วนแบ่งรายได้และค่านายหน้าที่เก็บจากบริษัทประกัน นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากค่าบริการอีก หนุนผลประกอบการเติบโตก้าวกระโดด บริษัทออกมาให้ข่าวเตรียมปรับเพิ่มเป้ายอดขายรวมปีนี้จากเดิมคาดโตราว 15% จาก 1.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มเป็น 1.5 หมื่นล้านบาท

ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ระบุว่า ณ วันที่ 2 เม.ย. 2563 ยอดเบี้ยประกันโควิด-19 ทั้งระบบอยู่ที่กว่า 3 พันล้านบาท และมีจำนวนกรมธรรม์ทั้งสิ้น 7.06 ล้านฉบับ และดูจากแนวโน้มยอดขายยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าสถานการณ์จะคลี่คลายเมื่อไหร่ เป็นปัจจัยบวกให้กับบริษัท

แต่ในแง่การลงทุนราคาหุ้นขึ้นไปรับข่าวและถูกเทขายลงมารอบหนึ่งแล้ว ตอนนี้กำลังไต่ระดับขึ้นมาอีกครั้ง ชนแนวต้านที่ 70 บาท อาจต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น

ขณะที่บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุว่า บริษัทรายได้ค่านายหน้าจากการขายประกันโควิด-19 ประมาณ 26-66 ล้านบาท และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 1.7-4.3% ภายใต้สมมติฐานจำนวนกรมกรรม์ที่ขายได้ระหว่าง 5.4 แสน – 1.1 ล้านกรมธรรม์