"สศก. เผยส่งออกเกษตรรุ่งปัดปมไม่พอบริโภคภายใน

 "สศก. เผยส่งออกเกษตรรุ่งปัดปมไม่พอบริโภคภายใน

สศก. เผยส่งออกสินค้าเกษตรแนวโน้มพุ่ง สยบปมห่วงอาหารไม่พอบริโภคในประเทศ เร่งสำรวจสินค้าแบบรายจังหวัดพบประชาชนยังมีความมั่นใจ คณะทูตพาณิชย์จีน เผยพฤติกรรมบริโภคจีน หันสั่งของสดทางออนไลน์แนะศึกษาตลาดหวังส่งออกเพิ่ม

นายระพีภัทร์   จันทรศรีวงศ์   เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า การส่งออกสินค้าเกษตรของไทยมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยการส่งออกข้าว และอาหารสำเร็จรูป ยังมีความต้องการซื้อจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลทำให้มูลค่าการค้าส่งออกสินค้าเกษตร 2 เดือนของไทยไปตลาดโลกในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. 2563 รวมมูลค่า 179,011 ล้านบาท

สินค้าส่งออกสำคัญที่มีมูลค่าสูง ได้แก่ อาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์และอาหารทะเล ข้าว น้ำตาล อาหารสำเร็จรูปอื่นๆ และผลไม้ โดยตลาดสำคัญยังคงเป็นอาเซียน 46,638 ล้านบาท รองลงมา คือ ตลาดจีน 29,055 ล้านบาท ญี่ปุ่น และสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม  จากปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบให้คนไทยมีความกังวลเกี่ยวกับอาหารว่าจะมีเพียงพอต่อการบริโภคหรือไม่ ล่าสุดนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้สศก. ติดตามสถานการณ์ วิเคราะห์ และรวบรวมข้อมูลผลผลิตสินค้าเกษตรแบบรายจังหวัด โดยลงลึกถึงระดับตำบลในสินค้าพืช และระดับอำเภอในสินค้าปศุสัตว์และประมง

158582860783

นายระพีภัทร์  กล่าวว่า  สศก. ได้บูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯ เช่น สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด สำนักงานเกษตรจังหวัด สำนักงานประมงจังหวัด และสำนักงานปศุสัตว์จังหวัด เพื่อสำรวจและจัดทำเป็นชุดข้อมูลสินค้าเกษตรที่มีอยู่ในจังหวัดของประเทศไทย ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนการวางแผนด้านนโยบาย การบริหารจัดการสินค้าและกระจายสินค้าให้ถึงมือประชาชนในจังหวัดได้อย่างถูกต้องและทั่วถึง สร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนให้สามารถมั่นใจว่ามีอาหารสำหรับบริโภคอย่างเพียงพอ และลดความตื่นตระหนกในการซื้อสินค้ากักตุนเกินความจำเป็น

จากการติดตามสถานการณ์ของ สศก. และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาชนจึงมั่นใจได้ว่า สินค้าเกษตรและอาหารยังมีเพียงพอสำหรับการบริโภคในประเทศอย่างแน่นอน และยังสามารถรักษาระดับการส่งออกได้อย่างต่อเนื่อง โดยหากมองถึงสถานการณ์การส่งออกสินค้าเกษตรสำคัญไทย เช่น ทุเรียน และมังคุด ซึ่งผลผลิตกำลังทยอยออกสู่ตลาดในช่วงนี้ ยังคงสามารถส่งขายไปตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะตลาดจีนที่กำลังทยอยเปิดด่านชายแดนแล้ว

นควรปรับเพื่อรับกับพฤติกรรมบริโภคใหม่นี้ในตลาดจีนด้วย 

             

นางสาวทัศนีย์ เมืองแก้ว รองเลขาธิการ สศก. กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังคงเป็นปัญหาสำคัญของโลก ส่งผลให้หลายประเทศดำเนินมาตรการปิดด่านพรมแดนทางบกและระงับการขนส่งคนและสินค้าทั้งทางบกและทางอากาศ อาจส่งผลกระทบทำให้การส่งออกและนำเข้าสินค้าเกษตรตามเส้นทางบกและอากาศลดลง และเปลี่ยนเป็นขนส่งทางเรือมากขึ้น

 ทั้งนี้ หน่วยงานต่างๆ ภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะร่วมมือกันอย่างเต็มที่ในการส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากลและการตรวจรับรองคุณภาพความปลอดภัยของสินค้าเกษตรไทย เพื่อรักษาความเชื่อมั่นของตลาดต่างประเทศ ช่วยผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยให้มีปริมาณและมูลค่าสูงขึ้น อันจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการไทย เกษตรกร

รายงานข่าวจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ชิงต่าว  ประเทศจีน หรือ ทูตพาณิชย์จีน ระบุว่า ปี 2562 ที่ผ่านมร ตลาดอีคอมเมิร์ซของสดในจีนมีมูลค่า 162,000 ล้านหยวน ขยายตัวเพิ่มขึ้น29%  และคาดการณ์ว่าในปี 2563 จะมีมูลค่าถึง 263,840 ล้านหยวน ขยายตัวเพิ่มขึ้น 62% โดย บริษัท iiMedia Research วิเคราะห์ว่า การแข่งขันของธุรกิจอีคอมเมิร์ซของสดค่อนข้างสูง และเริ่มมีการพัฒนาเข้าสู่ ภาวะอิ่มตัว แต่การเกิดเหตุการณ์การระบาดของโควิด ในครั้งนี้ ทำให้โอกาสของอีคอมเมิร์ซของ สดกลับมาอีกครั้ง และมีจำนวนลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องเฝ้าติดตาม สถานการณ์และพฤติกรรมการบริโภคต่อไป โดยสินค้าเกษตรไทยเบื้องต้