สิ่งต้องทำ ก่อนมาไทยในสถานการณ์โควิด

สิ่งต้องทำ ก่อนมาไทยในสถานการณ์โควิด

สธ.ระบุแนวทางปฏิบัติหลังนายกฯสั่งชะลอคนเข้าประเทศ ต้องกักตัว 14 วันต้นทางก่อน กำชับคนเดินทางอย่ากินยาลดไข้เลี่ยงคัดกรอง เสี่ยงอันตรายทั้งตัวเอง-ผู้ร่วมเดินทาง

          จากกรณีที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงต่างประเทศ ดำเนินการชะลอคนต่างชาติและคนไทย ที่จะเดินทางเข้าประเทศไทย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 15เมษายน เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ
          เมื่อเวลา 13.30น. วันที่ 2 เมษายน 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข ในการแถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19(COVID-19) นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า เมื่อมีผู้ป่วยโควิด-19 หากมีการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดอย่างดี ทำให้สามารถติดตามอาการได้ต่อเนื่องทุกวัน หากป่วยไข้ มีอาการทางเดินหายใจก็ตรวจวินิจฉัยรวดเร็ว ซึ่งจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ 104 ราย เป็นกลุ่มที่สัมผัสผู้ป่วยก่อนหน้าถึง 41 ราย สะท้อนว่ามีระบบเฝ้าระวังเข้มแข็ง ประชาชนร่วมมืออย่างดีในการติดตาม


         ส่วนกลุ่มกลับจากต่างประเทศ ไปภารกิจทางศาสนา ไปท่องเที่ยวหรือติดต่อธุรกิจ แม้จะลดน้อยลงแต่ยังมีอยู่ 22 ราย ซึ่งผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขและการบินพลเรือนเคร่งครัด ในการสังเกตอาการตนเองก่อนเดินทาง 14 วัน ให้แน่ใจว่าไม่ป่วย วัดไข้ก่อนขึ้นเครื่องบิน ระหว่างการเดินทางต้องป้องกันตนเอง ใช้หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ เลี่ยงใกล้ชิดกัน เพื่อเลี่ยงติดโรค แต่บางส่วนขึ้นเครื่องบินทั้งที่รู้ว่าป่วย จะเป็นอันตรายต่อตัวเองเพราะไม่อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ จึงควรรักษาให้หายดีค่อยเดินทาง และเสี่ยงต่อผู้โดยสารและลูกเรือ เพราะมีโอกาสรับเชื้อ ต้องมีคนถูกกักกัน จึงขอให้ตระหนักเรื่องนี้ ลดเสี่ยงตัวเอง ไม่เดินทางในระหว่างเจ็บป่วย


       กลุ่มเกี่ยวข้องสถานบันเทิง สถานบริการและใกล้ชิดเกี่ยวกับนักท่องเที่ยว แม้จะเริ่มลดลงช่วงที่ผ่านมา เพราะมีนักท่องเที่ยวน้อยลง แต่ยังมีตกค้าง หรือเข้ามาใหม่จำนวนน้อย หลายคนมาพร้อมกับโรค ตรวจพบเป็นโควิดเมื่อมาถึงไทยไม่นาน คือ ประมาณ 1 สัปดาห์ คนไทยที่ให้บริการนักท่องเที่ยวยังมีความเสี่ยง การทำงานต้องระมัดระวังตัวเอง ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ป้องกันไม่ให้ติดเชื้อ ส่วนกลุ่มเกี่ยวข้องสนามมวย พบว่า จำนวนน้อยลงเรื่อยๆ เหลือ 1 ราย จากการไปชมมวย ซึ่งกลุ่มก้อนจากสนามมวยอยู่ในระดับควบคุมได้ หลังเหตุการณ์ผ่านมา 3 สัปดาห์ ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลสถานการณ์แนวทางที่จะป้องกันไม่ให้ไปแพร่ระบาดต่อ 

แนวทางชะลอเข้าไทย
ผู้สื่อข่าวถามถึงแนวปฏิบัติกรณีมาตรการชะลอเข้าประเทศของคนไทยและต่างชาติ นายแพทย์โสภณ กล่าวว่า คนเดินทางจากต่างประเทศมีความเสี่ยง เพราะมีโรคระบาด มาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขสนอ คือ จะมีการเฝ้าระวังดูอาการก่อนขึ้นเครื่องบินกลับมา อย่างที่บอกตอนต้น ให้มีการกักตัว ดูอาการ 14 วันว่าไม่ป่วย ไม่มีไข้ก่อนขึ้นเครื่องถึงเดินทางได้ หากเริ่มป่วยรักษาให้หายก่อน เพราะการเดินทางขณะป่วยเป็นความเสี่ยง


ปกติคนเดินทางกลับประเทศไทยขณะนี้จะมีการลงทะเบียนที่สถานทูต การเริ่มลงทะเบียนจะรู้ว่ามีความตั้งใจกลับวันใด จึงจะต้องมีการติดตามดูอาการป่วยหรือไม่ จนครบ 14 วันก่อนถึงจะอนุญาตให้เดินทางกลับ ซึ่งจะใช้มาตรการนี้กับการเดินทางจากทุกประเทศ เพราะปัจจุบันมีกว่า 200 ประเทศแล้วที่มีรายงานผู้ป่วย และอยู่ระหว่างการแพร่ระบาด ไม่ว่าประเทศที่มีความเสี่ยงสูงมากกว่าไทย หรือตัวเลขผู้ป่วยน้อยกว่าไทยก็ใช้นโยบายเดียวกันเพื่อลดความเสี่ยง”นายแพทย์โสภณกล่าว 


เตือนกินยาลดไข้เลี่ยงคัดกรอง
ด้านรองศาสตราจารย์(พิเศษ)นายแพทย์ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ กล่าวว่า การกินยาลดไข้เพื่อให้ผ่านการคัดกรองที่สนามบินต้นทาง ให้สามารถขึ้นเครื่องเดินทางกลับมาประเทศไทยได้นั้น ไม่ได้เป็นผลดีกับผู้ที่เดินทางเอง เพราะหากติดโควิด-19 ก็จะไม่ได้เข้ารับการรักษาในเวลาที่เหมาะสม การที่เว้นเวลาไว้ยิ่งนานจะเสี่ยงที่เชื้อจะลามลงไปสู่ปอดและการรักษาจะยากขึ้น แต่หากเข้ารับการรักษาตั้งแต่เริ่มมีอาการก็จะได้รับการดูแลรักษาทันเวลา