นายกฯสั่งเด็ดขาดดับไฟป่าภาคเหนือ นำคนจุดไฟเผาป่ามาดำเนินคดี

นายกฯสั่งเด็ดขาดดับไฟป่าภาคเหนือ นำคนจุดไฟเผาป่ามาดำเนินคดี

นายกฯ สั่งการปลัด ก.ทรัพย์ฯ ประชุมติดตามผลการแก้ไขปัญหาไฟป่า และหมอกควันรายวัน เน้นย้ำให้นำตัวผู้จุดไฟเผาป่ามาดำเนินคดีอย่างเคร่งครัด

เมื่อวันที่ 2 เม.ย.63 ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยสั่งการให้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประชุมติดตามผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาไฟป่า และหมอกควันภาคเหนือ ประจำวัน เน้นย้ำให้ 17 จังหวัดภาคเหนือ และจังหวัดกาญจนบุรี เร่งจัดการปัญหาไฟป่าและการเผาอย่างเด็ดขาด โดยให้หน่วยงานต่างๆ บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ติดตามตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้ และให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ในกรณีที่จับกุมผู้กระทำความผิดได้แล้ว ให้เร่งส่งฟ้องและดำเนินคดีโดยเร็ว พร้อมทั้งให้ ผู้ว่าฯ แถลงข่าวการจับกุมและดำเนินคดี เพื่อเป็นการป้องปรามและเป็นตัวอย่างให้ประชาชนรับรู้ไม่กระทำความผิด

สำหรับสถานการณ์หมอกควันข้ามแดน โดยเฉพาะการพบแนวโน้มการเพิ่มสูงขึ้นของจุดความร้อน (Hotspot) ในเมียนมา และลาว นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ กรมควบคุมมลพิษ เร่งประสานงานกับทั้ง 2 ประเทศ เพื่อหารือการแก้ไขปัญหาแล้ว

ส่วนสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ ภาพรวมดีขึ้นในระดับหนึ่ง แต่ยังมีจุดความร้อนจำนวนมากในเมียนมา ลาว และไทย ประกอบกับมีแนวปะทะของลมบริเวณภาคเหนือตอนบน ยังคงส่งผลให้ จังหวัดเชียงราย จังหวัดพะเยาจังหวัดแพร่ และจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีการสะสมของฝุ่นละออง PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ระหว่าง 39-286 มคก./ลบ.ม.อยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ

โดยมีพื้นที่ ที่ฝุ่นละออง PM2.5 อยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีแดง) ในพื้นที่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดลำปาง จังหวัดลำพูน จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดน่าน จังหวัดแพร่ จังหวัดพะเยา จังหวัดตาก จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดสุโขทัย จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดพิจิตร และจังหวัดพิษณุโลก ทั้งนี้ พบเฉลี่ย 24 ชั่วโมงสูงสุด 286 มคก./ลบ.ม. ที่ จังหวัดเชียงใหม่