ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วไทย มี 1,875 ราย ใน 62 จังหวัด

ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วไทย มี 1,875 ราย ใน 62 จังหวัด

ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วไทย มี 1,875 ราย ใน 62 จังหวัด ชี้ผู้ป่วยรายใหม่จำแนกตามพื้นที่ พบผู้ป่วยในกทม.และนนทบุรีมีแนวโน้มลดลง ต่างจังหวัดสูงขึ้น ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อในพื้นที่ มีชาวต่างชาติ สัมผัสกับคนป่วย ร่วมพิธีการทางศาสนา

วันนี้ (2 เมษายน 2563) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงข่าว สถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ประจำวันนี้ ว่า ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม  104 ราย รวมยอดสะสม 1,875 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ราย รวมเป็น 15 ราย คิดเป็น 0.8%  โดยผู้เสียชีวิต 3 ราย มีดังนี้ รายที่ 1 เป็นชายไทย อายุ 57 ปี มีประวัติเดินทางจากสุไหงโกลก ไปปากีสถาน เสียชีวิตวันที่ 31 มีนาคม 2563 ผลการตรวจหลังเสียชีวิตพบติดเชื้อโควิด-19 (เป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 13)

รายที่ 2 เป็นชายไทย อายุ 77 ปี  มีประวัติเป็นผู้สัมผัสของผู้ป่วยยืนยัน เข้ารับการรักษาที่ โรงพยาบาลยะลัง จังหวัดปัตตานี ด้วยอาการไข้ ไอ เจ็บคอ เสียชีวิตวันที่ 31 มีนาคม 2563 (เป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 14) รายที่ 3  เป็นชายไทย อายุ 55 ปี อาชีพขับรถสาธารณะ เข้ารับรักษาที่โรงพยาบาลราชวิถี เสียชีวิตวันที่ 1 เมษายน 2563 (เป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 15) กลับบ้านแล้ว 505 ราย และยังรักษาในโรงพยาบาล 1,355 ราย

ทั้งนี้ ผู้ป่วยติดเชื้อทั้งหมดมีสัญชาติไทย 1,598 ราย สัญชาติอื่น ๆ  277 ราย  

สำหรับสถานการณ์ทั่วโลกใน 201 ประเทศ 2 เขตบริหารพิเศษ 2 เรือสำราญ ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม – 2 เมษายน 2563 (07.00 น.) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจำนวน 934,668 ราย เสียชีวิต 47,181 ราย ส่วนประเทศจีนพบผู้ป่วย 81,554 ราย เสียชีวิต 3,312 ราย สหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วย 214,482 ราย เสียชีวิต 5,094 ราย อิตาลีพบผู้ป่วย 110,574 ราย เสียชีวิต 13,155 ราย

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่  104รายนี้ สามารถแบ่งเป็น 3 กลุ่มดังนี้ กลุ่มที่ 1 ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วย หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จำนวน 60 ราย ได้แก่ กลุ่มสนามมวย  1 ราย กลุ่มสถานบันเทิง 10  ราย  พิธีกรรมทางศาสนา ประเทศอินโดนีเซีย 8 ราย และสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีรายงานมาก่อนหน้านี้ 41 ราย     

กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 36  ราย เป็นกลุ่มคนไทยที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ 14 ราย เป็นคนไทย 11 ราย ชาวต่างชาติ 3 ราย สัมผัสผู้เดินทางจากต่างประเทศ 2 ราย ไปสถานที่ชุมนุม เช่น งานแฟร์ คอนเสิร์ต 1 ราย กลุ่มอาชีพเสี่ยง เช่น ทำงานในสถานที่แออัด หรือทำงานใกล้ชิดสัมผัสกับชาวต่างชาติ 8 ราย และบุคลากรทางสาธารณสุข 2  ราย รวมบุคลากรทางการแพทย์ทั้งหมด 27 ราย อื่นๆ 9 ราย  กลุ่มที่ 3 อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค  8 ราย

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวต่อไปว่า จากการจำแนกจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ ตามพื้นที่ พบผู้ป่วยในกทม.และนนทบุรีมีแนวโน้มลดน้อยลง แต่ในส่วนของต่างจังหวัด กลับมีแนวโน้มพบผู้ป่วยมากขึ้น  ซึ่งอัตราการเพิ่มขึ้นต้องหาสาเหตุต่อไป และเมื่อมีการจำแนกตามแผนที่แสดงจังหวัดที่มีผู้ป่วยยืนยันสะสมโควิด-19 มีจำนวน 1,875 ราย ใน 62 จังหวัด

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่าการกระจายของผู้ป่วยในช่วง 7 วันล่าสุด ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม -1 เมษายน 2563 และปัจจัยเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อในพื้นที่ต่างๆ นั้น  ได้แก่ พื้นที่จ.ภูเก็ต 42 ราย ผู้ป่วยติดเชื้อจะเป็นคนทำงานในสถานบันเทิง ร้านอาหาร โรงแรม ขับรถรับจ้าง (ปิดทางเข้าออกที่ 30 มีนาคม 2563 ) ตรงนี้เป็นพื้นที่ที่มีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาจำนวนมาก

ซึ่งตอนนี้มีผู้ป่วยลดน้อยลงแล้ว แต่ต้องทำให้ลดจำนวนมากกว่านี้  รวมถึงเป็นคนป่วยในพื้นที่อาจแพร่เชื้อให้คนต่างชาติ และคนในพื้นที่จ.ภูเก็ต เดินทางออกนอกจังหวัด ,จ.เชียงใหม่ เป็นกลุ่มผู้สัมผัสผู้ป่วยอาชีพดีเจ ทำงานในหลายผับ (ปิดสถานที่เสี่ยงในจังหวัด 22 มีนาคม 2563)

จ.ยะลา 14 ราย ปัตตานี 8 ราย เป็นผู้ที่กลับจากการร่วมพิธีการทางศาสนาที่มาเลเซีย อินโดนีเซีย และแพร่โรคต่อไปยังผู้สัมผัส (ปิดด้านบก เรือ อากาศ 23 มีนาคม 2563 ใน 4 จังหวัดภาคใต้) เป็นพื้นที่ที่ชาวต่างชาติผ่านแดนระหว่างวันที่ 28-31 มีนาคม 2563  โดยมาเลเซีย ด่านสุไหงโกลก เบตง สะดา 1,911 คน และอินโดนีเซีย ด่านสงขลา 50 คน

จ.อุตรดิตถ์ ชาย 51 ปี เชฟมาจากการ์ต้า ,จ.สระแก้ว 8 ราย ทำงานที่ปอยเปต (ปิดบ่อน30มีนาคม 2563) ,จ.ชลบุรี 17 ราย ชาวต่างชาติ นั่งร้านเหล้า มาจากกรุงเทพฯ,ยะลา 22 ราย ปัตตานี 23 ราย กลับจากการร่วมพิธีการทางศาสนาและแพร่โรคต่อไปยังผู้สัมผัส