ลดลง

ลดลง

แนะนำ Short Agains Port โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้ :

เราคาดดัชนีฯ ลดลง แนวรับ 1080 / 1070 จุด แนวต้าน 1124 / 1132 จุด ประเด็นที่มีผลต่อตลาด ได้แก่ 1) กทม. ทยอยออกมาตรการเข้มงวดอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดการเคลื่อนไหว โดยล่าสุดปิดทุกร้านค้า รวมถึงร้านสะดวกซื้อ ช่วงเวลา 24.00-5.00 น. ฯลฯ สะท้อนโอกาสที่จะปิดเมืองใกล้เข้ามาเพิ่มขึ้น 2) ปธน.ทรัมป์ เตือน 2-3 สัปดาห์ข้างหน้ามีความเสี่ยงต่อจำนวนผู้เสียชีวิตจาก COVID-19 เพิ่มขึ้นเป็น 1-2.4 แสนคน 3) จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ คาดเพิ่มขึ้นเป็น 3.5 ล้านราย สะท้อนตัวเลขว่างงานวันพรุ่งนี้พุ่งแรง

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: USA-จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์คาดเพิ่มเป็น 3.5 ล้านราย (Vs สัปดาห์ก่อน 3.25 ล้านราย) คำสั่งซื้อภาคโรงงานเดือน ก.พ. คาด +0.2% MoM (Vs เดือน ม.ค. -0.5% MoM), ดุลการค้าเดือน ก.พ. คาดขาดดุล - USD40bn (Vs เดือน ม.ค. -USD45.3bn)

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วานนี้

- ตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดร่วง: ตลาดหุ้นไทยร่วงลงแรงในภาคบ่ายของการซื้อขายและลงมาปิดใกล้ระดับต่ำสุดของวันที่ 1105.51 จุด -20.35 จุด -1.81% วอลุ่ม 6.71 หมื่นล้านบาท (เป็น Big Lot ของหุ้น TPIPL 1.06 หมื่นล้านบาท) นำโดยกลุ่มไฟแนนซ์ -6.51% ICT -3.51% ขนส่ง -2.34% จากแรงขาย MTC SAWAD INTUCH CPN TMB DTAC DIF JASIF THANI PLANB

- ตลาดหุ้นโลกร่วง: การส่งสัญญาณเตือนของปธน.ทรัมป์ ว่าจะมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสฯ หลายแสนคน ใน 2 สัปดาห์ข้างหน้าและการวิตกต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นปัจจัยถ่วงตลาดหุ้นโลก DJ -4.44% S&P500 -4.41% Nasdaq -4.41% CAC40 -4.3% DAX -3.94% FTSE -3.83%

- น้ำมันดิบและทองคำร่วงต่อเนื่อง: WTI -USD0.17 -0.8% ปิดUSD20.31/บาร์เรล Brent -USD1.61 -6.1% ปิดUSD24.74/บาร์เรล เพราะรายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ สัปดาห์ก่อนสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 10 และสูงกว่าคาด โดยเพิ่มขึ้น 13.8 ล้านบาร์เรล (Vs คาดเพิ่ม 4.6 ล้านบาร์เรล) ส่วนทองคำร่วงต่อ -USD5.22 -0.33% ปิด USD1591.40/ออนซ์ จากแรงขายทำกำไร

ประเด็นสำคัญ

- COVID-19: พบว่า สเปนเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมเกิน 1 แสนราย เป็นรายที่ 3 ต่อจากสหรัฐฯ อิตาลี ขณะที่ทั้งโลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 8.6 แสนราย และมีผู้เสียชีวิต 4.2 หมื่นราย (นำโดย อิตาลี)

- การระบาด(Update): ไทย-สธ. รายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสม ณวันที่ 1 เม.ย. อยู่ที่ 1,771 ราย +120 ราย (Vs วันก่อนหน้า +127 ราย) จำนวนผู้เสียชีวิตสะสม 12 ราย (+2) ส่งผลให้กทม. กำหนดเวลาปิดทุกร้านค้าและซุปเปอร์มาร์เก็ตตั้งแต่เวลา 24.00-05.00 น. มีผลตั้งแต่คืนวานนี้ และปิดสวนสาธารณะทั้งหมดจนถึงวันที่ 30 เม.ย. Japan-หน่วยงานของเมืองต่างๆ เรียกร้องให้ปชช.จากัดการเคลื่อนไหวของตัวเอง USA-ปธน.ทรัมป์ เตือนช่วงเวลา 2 สัปดาห์แห่งความเจ็บปวด โดยคาดมีผู้เสียชีวิต 1-2.4 แสนราย Indonesia-เตรียมเปิดรพ.ฉุกเฉินสัปดาห์หน้าที่เกาะร้างใกล้สิงคโปร์ Galang หลังมีผู้เสียชีวิตสูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 157 ราย

ตัวเลขเศรษฐกิจ: รายงานภาคการผลิต Mix และมีความเสี่ยงขาลงเพิ่มในเดือน เม.ย.

- Japan: รายงานดัชนีภาคการผลิตเดือน มี.ค. อยู่ที่ 44.2 (แย่ลงเมื่อเทียบกับเดือนเดือน ก.พ. ที่ 47.8 และต่ำกว่าคาดที่ 44.8 เล็กน้อย) และมีแนวโน้มแย่ลง อิงผลสำรวจความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการขนาดใหญ่และขนาดเล็ก Tankan Large/Small Manufacturers Index 1Q อยู่ที่ -8 (Vs 0 ใน 4Q19) และ -15 (Vs -9 ใน 4Q19)

+ China: Caixin (สำรวจจากบริษัทขนาดเล็ก) รายงานดัชนีภาคการผลิตและบริการเดือน มี.ค. ฟื้นตัวสอดคล้องกับที่รายงานโดยสำนักสถิติแห่งชาติ (สำรวจจากบริษัทขนาดใหญ่) โดยภาคการผลิตอยู่ที่ 50.1 (Vs คาด 45.5, เดือน ก.พ.40.3) และภาคบริการ อยู่ที่ 52 (Vs เดือน ก.พ.35.7)

- อียู: (Markit) ดัชนีภาคการผลิตต่ำกว่าคาด โดยอยู่ที่ 44.5 (Vs คาด 44.7, เดือน ก.พ. 49.2),

+/- สหรัฐฯ: (Markit) ต่ำกว่าคาด โดยอยู่ที่ 46.1 (Vs คาด 49.2,เดือน ก.พ. 50.7) แต่ ISM Mfg PMI ดีกว่าคาด เป็น 49.1 (Vs คาด 45, เดือน ก.พ. 50.1) ส่วนการจ้างงานภาคเอกชนเดือน มี.ค. ลดลงน้อยกว่าคาด -27k (Vs คาด -150k, Vs เดือน ก.พ. +183k)

+ ไทย: นายกฯ ประยุทธ์ นัดประชุมครม. นัดพิเศษวันศุกร์นี้ เพื่อหารือเรื่องมาตรการเยียวยาระยะ 3-4 สำหรับเดือน พ.ค. - ก.ค. และหารือเรื่องงบประมาณที่ต้องมีการโยกจากงบประมาณอื่นๆ เข้ามาใช้สำหรับการต่อสู้กับ COVID-19 ฯลฯ

- ญี่ปุ่น: ผลสำรวจของนสพ. NNA พบว่า 2 ใน 3 ของบจ.ญี่ปุ่นที่ทำธุรกิจในอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้รับผลกระทบจากการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน ไม่สามารถจัดหาวัตถุดิบตามแผนที่วางไว้

+/- MTC: ชี้แจงตลาดฯ ไม่เคยคิดดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด โดยกรณี DSI เข้าตรวจสอบเป็นไปตามข้อร้องเรียนลูกค้ากลุ่มเดิม ซึ่งเคยฟ้องร้องว่าบริษัทฯคิดดอกเบี้ยสูงกว่ากฎหมายกาหนด (บริษัทฯ ยืนยันว่าไม่ได้มีการฝ่าฝืนเกณฑ์ โดยได้มีการแยกสัญญาการกู้ออกเป็น 2 สัญญา คือ การกู้แบบสินเชื่อที่มีดอกเบี้ยสูงสุดตามกฎหมายไม่เกิน 15% และสินเชื่อนาโน ดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 36% ตั้งแต่กลางปี 2018 และย้ายจากการดูแลภายใต้กระทรวงพาณิชย์มาเป็นธปท. ตั้งแต่เดือน ก.พ. 2019)

กลยุทธ์: แนะนำ Short Agains Port โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: STA ADVANC CPF

บจ.ที่แนะนำ Short Against Port: กลุ่มอิงท่องเที่ยว (AOT AAV MINT ERW CENTEL) กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการเข้มงวดของทางการ กลุ่ม Cyclical: ธนาคาร อสังหาฯ ค้าปลีก (KBANK SCB CPN CRC AWC COM7 HMPRO)

Derivatives: ทยอยปิด Long USDM20 ทำกำไรตามเป้าที่วางไว้ (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)