NYT - ถือ

Event

อัพเดตแนวโน้มของบริษัท ปรับลดราคาเป้าหมาย และประมาณการกำไร

Impact

ปริมาณการส่งออกรถใน 2M63 ลดลง 11.9% YoY จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและ COVID-19

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) รายงานว่าปริมาณการส่งออกรถยนต์ใน 2M63 ลดลงมาอยู่ที่ 160,486 คัน (-11.9% YoY) จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และการระบาดของ COVID-19 ยกเว้นในตลาดตะวันออกกลางที่ยอดส่งออกยังโต 10% YoY นอกจากนี้ สอท. ยังปรับลดประมาณการยอดส่งออกรถยนต์ปี 2563 ลงจากเดิมที่ 1 ล้านคัน เหลือ 950,000 คัน (-9.9%YoY) ซึ่งหากอิงจากข้อมูลในอดีตช่วงที่เศรษฐกิจมีปัญหา ปริมาณการส่งออกรถยนต์ลดลง 17.9% YoY ในช่วงมหาอุทกภัยในปี 2554 และลดลง 31.0% YoY ในช่วงวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ในปี 2552

ปรับลดประมาณการกำไรปี 2563 ลง 35.4% และปี 2564 ลง 16.4%

เรามองว่าปริมาณการส่งออกรถยนต์มีแนวโน้มลดลงเนื่องจาก i) ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงจาก COVID-19 ii) ผู้ผลิตรถยนต์ปิดโรงงานชั่วคราว (Figure 3) เพราะ i) supply chain ถูกกระทบ และ ii) อุปสงค์อ่อนแอในช่วง lockdown ดังนั้น เราจึงปรับลดสมมติฐานยอดส่งออกรถยนต์ปีนี้ลง 30.3% เหลือ 740,000 คัน และปี 2564 ลง 16.4% เหลือ 890,000 คัน ซึ่งเป็นสมมติฐานที่อนุรักษ์นิยมมากกว่าเป้าของสอท. และเรายังปรับลดประมาณการรายได้ปี 2563 ลง 26.8% และปี 2564 ลง 13.9% ด้วย

กำไรจะต่ำสุดในปี 2563 และฟื้นตัวตั้งแต่ปี 2564 เป็ นต้นไป

หลังจากที่เราปรับลดประมาณการกำไรในปี 2563-64 แล้ว เราคาดว่าการส่งออกรถยนต์จะฟื้นตัวขึ้นในปี 2564 เนื่องจากเราเห็นแนวโน้มการฟื้นตัวหลังวิกฤติ (น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 และ วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ในปี 2552) เราคาดว่ากำไรสุทธิของ NYT จะโตได้ 22.9% CAGR ในช่วงปี 2563-2565 ถ้าหากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 สิ้นสุดภายในปี 2563

Valuation and action

เราปรับลดคำแนะนำจาก ซื้อ เป็น ถือ และให้ราคาเป้าหมาย DCF ปี 2563 ที่ 3.26 บาท (ใช้ WACC ที่ 8.4% และ terminal growth ที่ 1%) ทั้งนี้ ราคาหุ้นในตลาดคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าสนใจมากที่ 18.8% (0.50 บาท/หุ้นำสหรับการถือหุ้นแค่เดือนครึ่ง) ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตาคือปริมาณการส่งออกรถในปี 2563 โดยเราเชื่อว่าปริมาณการส่งออกรถจะฟื้นตัวขึ้นอย่างอ่อนๆ ในปี 2564 หลังจากที่สถานการณ์ดีขึ้น

Risks

การส่งออกรถยนต์ชะลอตัวเกินคาด ต่อสัมปทาน A5 ไม่สำเร็จ และเลื่อนรับรู้รายได้ค่าเช่า