นายกฯสั่งเด็ดขาด ดับไฟป่า 17จว.ภาคเหนือ

นายกฯสั่งเด็ดขาด ดับไฟป่า 17จว.ภาคเหนือ

พบจุดความร้อนภาคเหนือตอนล่างและจังหวัดกาญจนบุรีเพิ่ม

ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้สั่งการให้ 17 จังหวัดภาคเหนือ และจังหวัดกาญจนบุรีเร่งจัดการปัญหาไฟป่าและการเผาอย่างเด็ดขาด โดยต้องให้จุดความร้อน (Hotspot) เป็นศูนย์ภายในสัปดาห์นี้ 

หากผู้ขอใช้ประโยชน์พื้นที่ จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) และผู้ได้รับการจัดสรรที่ดินไม่ปฏิบัติตามแนวทาง โดยเฉพาะหากมีการเผาในพื้นที่ จะยกเลิกสิทธิ์ทันที 

สำหรับการเกิดไฟไหม้ในพื้นที่สำคัญ พื้นที่ใกล้เขตเมือง/ชุมชน เช่น กรณี จังหวัดแพร่ (ช่อแฮ) จังหวัดนครสวรรค์ (อุทยานแห่งชาติแม่วงก์) และ จังหวัดอุทัยธานี (ห้วยขาแข้ง) ต้องเร่งดับไฟให้ได้โดยทันที  พร้อมกับให้เฝ้าระวังไม่ให้เกิดไฟขึ้นซ้ำอีก 

โดยเฉพาะกรณีไฟไหม้ในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ต้องดับไฟให้ได้ภายใน 2 วัน พร้อมสั่งการให้สนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ เพื่อการส่งเสบียง กำลังพล และดับไฟ ในพื้นที่เข้าถึงยาก ตามที่มีการร้องขอ รวมถึงให้หมุนเวียนกำลังพลจากพื้นที่ใกล้เคียงไปช่วยสนับสนุนอีกด้วย 

ทั้งนี้ ทส. โดยปลัดกระทรวงฯ จตุพร บุรุษพัฒน์ ได้เปิดเผยว่า สถานการณ์ภาคเหนือตอนล่าง และจังหวัดกาญจนบุรี พบจุด Hotspot เพิ่มขึ้น ดังนั้น ทส. ขอให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ดำเนินการตามมาตรการที่ทางกระทรวงฯ ได้ให้ไว้อย่างเคร่งครัด และขอให้นำผลการดำเนินงานที่จังหวัดเชียงใหม่มาเป็นแนวทางในการดำเนินการต่อไป โดยที่ภาคเหนือตอนบน ในภาพรวมดีขึ้นตามลำดับ โดยพบจุด Hotspot ลดลง 

ค่าฝุ่นละออง PM2.5  เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ใน 17 จังหวัดภาคเหนือวันนี้ มีค่าระหว่าง  48 - 278 มคก./ลบ.. โดยส่วนใหญ่ ฝุ่นละออง PM2.5 ยังมีค่าฝุ่นละอองสะสมอยู่ในระดับส่งผลกระทบต่อสุขภาพ แม้จะมีปริมาณลดลง รวมทั้งจำนวนจุดความร้อนที่จำนวนลดลง

ซึ่งจากการคาดการณ์ด้านอุตุนิยมวิทยา บริเวณภาคเหนือได้รับอิทธิพลจากลมทิศตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลาง  และอาจมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนเมษายน

ในส่วนของความคืบหน้าของการดับไฟป่าบริเวณดอยสุเทพ-ปุย จังหวัดเชียงใหม่ นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เน้นย้ำมาตรการปิดป่า 100% เพื่อขอคืนพื้นที่ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย โดยส่งกำลังทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่อุทยาน สนธิกำลังร่วมกับฝ่ายปกครอง อปท. ผู้นำชุมชน และชาวบ้านในพื้นที่ จัดชุดลาดตระเวน และตรึงกำลังไว้ภายในพื้นที่ป่า เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันการเกิดไฟขึ้นซ้ำอีก ซึ่งเป็นการดำเนินการตามนโยบายของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ให้เพิ่มการลาดตะเวนในพื้นที่เสี่ยงให้มากขึ้น อีกทั้งถือเป็นปฏิบัติการทางจิตวิทยา และกลยุทธ์สำคัญที่ต้องทำควบคู่กัน

ทั้งนี้ ได้กำชับเจ้าหน้าที่หากพบผู้ที่เข้าไปในป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต สามารถดำเนินการจับกุมได้ทันที เพราะได้ประกาศมาตรการปิดป่า 100% ไปแล้ว และหากพบผู้บุกรุกให้เจ้าหน้าที่จับกุมดำเนินคดีโดยไม่มีข้อยกเว้น

ซึ่งจากการรายงานผลการจับกุมผู้ฝ่าฝืนคำสั่งห้ามเผา วานนี้ (31 มี.ค. 63) ดำเนินคดีได้จำนวน 6 คดี ได้แก่ ในพื้นที่อำเภอหางดง 2 ราย ตรวจพบการกระทำผิดเผาพื้นที่ป่า เผาพื้นที่สวนลิ้นจี่ ในเขตอุทยานฯดอยสุเทพ , อำเภอเชียงดาว 1 ราย ตรวจพบการบุกรุกพื้นที่แพ้วถาง และอำเภอแม่แจ่ม 1 ราย กระทำการลักลอบเผาป่า โดยจะสืบสวนสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ ไฟไหม้ป่าสงวนในอำเภอแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์วานนี้/ อส.

-