ธปท.เผย ดัชนีเชื่อมั่นธุรกิจ 3เดือนข้างหน้า หลุด50 ต่ำสุดนับจากปี 58 กังวล โควิด-19ระบาด

ธปท.เผย ดัชนีเชื่อมั่นธุรกิจ 3เดือนข้างหน้า หลุด50 ต่ำสุดนับจากปี 58 กังวล โควิด-19ระบาด

ธปท.เปิดดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจเดือนมี.ค. พบดิ่งต่อเนื่อง หลังความเชื่อมั่นทุกธุรกิจทรุด หลังคำสั่งซื้อ การลงทุน การจ้างงาน การซื้ออสังหาวูบ ขณะที่ดัชนี 3เดือนข้างหน้า ต่ำกว่า 50% ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 58 หลังกังวลโควิด-19ระบาด

    ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผย ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนมีนาคม 2563 โดยดัชนีฯ ในอีก 3 เดือนข้างหน้าลดลงมากจากเดือนก่อน และอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2558 จากความกังวล เรื่องการระบาดของไวรัส COVID-19 ที่มีแนวโน้มยืดเยื้อ  
   ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจเดือนมี.ค. ปรับตัวลดลงต่อเนื่องจาก เดือนก่อนที่ 44.1 มาอยู่ที่ 42.6 จากภาคที่มิใช่การผลิตเป็นสำคัญ นำโดยกลุ่มขนส่งที่มีความเชื่อมั่นด้านคำสั่งซื้อและผลประกอบการ ลดลงมาก ส่งผลให้ความเชื่อมั่นด้านการลงทุนและการจ้างงานลดลงด้วย
   ขณะที่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์มีความเชื่อมั่นลดลงตามการตัดสินใจซื้อ อสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอลงจากความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้ความเชื่อมั่นด้านปริมาณการก่อสร้างลดลง เช่นกัน
    ส่วน กลุ่มโรงแรมและบริการด้านอาหารยังคงมีความเชื่อมั่นลดลงและอยู่ใน ระดับต่ำต่อเนื่อง สำหรับดัชนีฯ ของภาคการผลิตค่อนข้างทรงตัวจาก เดือนก่อน แต่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 สะท้อนความเชื่อมั่นที่แย่ลง แม้ปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบของผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าจะเริ่ม คลี่คลายทำให้ความเชื่อมั่นด้านการผลิตกลับมาปรับเพิ่มขึ้น
   แต่พบว่า กลุ่มผลิตยานยนต์มีความเชื่อมั่นด้านคำสั่งซื้อและการผลิตลดลงมาก สะท้อนความกังวลต่อความสามารถในการซื้อสินค้าราคาสูงของ ผู้บริโภค รวมทั้งกลุ่มผลิตอาหารที่มีความเชื่อมั่นลดลงจากต้นทุนที่ สูงขึ้น คาดว่าส่วนหนึ่งจากปัญหาภัยแล้ง
    ขณะที่ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ดัชนีฯ ลดลงจากเดือนก่อนสู่ระดับ 43.6 ซึ่งเป็นการลดลงต่ำกว่าระดับ 50 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ ก.ค. ปี 2558 และลดลงในทุก sector จากความกังวลเรื่องสถานการณ์ การระบาดของไวรัส COVID-19 ที่เป็นวงกว้างมากขึ้นและมีแนวโน้ม ยืดเยื้อ โดยเฉพาะกลุ่มขนส่งและกลุ่มที่พักแรมและร้านอาหารที่ คาดว่ายอดจองจากทั้งในและต่างประเทศในระยะข้างหน้าจะลดลงมาก
.  ซึ่งส่งผลให้ความเชื่อมั่นด้านผลประกอบการและการจ้างงานลดลงมาก เช่นกัน สะท้อนว่าอาจมีการลดการจ้างงานในอนาคต เช่นเดียวกับ ภาคการค้าที่มีความกังวลต่อปริมาณการค้าและผลประกอบการ ในระยะข้างหน้า ส่วนหนึ่งจากการปิดห้างสรรพสินค้าและพื้นที่เสี่ยง ทำให้การบริโภคจะจำกัดอยู่เพียงสินค้าจำเป็นเท่านั้น  
   ด้านดัชนีความเชื่อมั่นด้านอื่นๆ ด้านผลประกอบการของธุรกิจที่ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันส่งผลให้ธุรกิจขาดสภาพคล่องมากขึ้น โดยธุรกิจ SMEs  ส่วนใหญ่ประสบปัญหาการได้รับวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ที่ไม่เพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจ ภาคธุรกิจเห็นว่าความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจเป็นข้อจำกัด ในการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้นมากจากการระบาดของไวรัส COVID-19  เมื่อประกอบกับกำลังซื้อในประเทศที่ยังคงอ่อนแอ ทำให้การปรับราคา สินค้ายังคงทำได้ยาก สอดคล้องกับการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในอีก 12 เดือนข้างหน้าที่ปรับลดลงจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ร้อยละ 1.5