SCC - ขาย

SCC - ขาย

ประเด็นสำคัญจาก conference call

Event

Conference call

lmpact

การไถ่ถอนหุ้นกู้ไม่ได้ทำให้สภาพคล่องน่าเป็นห่วงในขณะที่คาดว่าจะต้องเลื่อน IPO ของ SCGP

SCC มีกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ 5 หมื่นล้านบาทในปี 2563 (ออกใหม่ไปแล้ว 2.5 หมื่นล้านบาทในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 และมียอดจองเต็มจำนวน) ในขณะที่จะออกใหม่อีก 2.5 หมื่นล้านบาทใน 2H63 ทั้งนี้ สถานะทางการเงินของ SCC ยังคงแข็งแกร่ง (หนิ้สินสุทธิต่อทุนอยู่ที่ 0.6x เมื่อสิ้นงวด 4Q62) แต่แผนการทำ IPO ของ SCG Packaging น่าจะต้องเลื่อนออกไปเพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ผู้บริหารกำลังอยู่ระหว่างการทบทวนงบลงทุนปี 2563 (6.0-7.0 หมื่นล้านบาท) แต่อย่างไรก็ตาม งบทำดีล M&A โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจบรรจุภัณฑ์ยังยืดหยุ่นได้ตามความเหมาะสม

ธุรกิจเคมีภัณฑ์จะได้อานิสงส์ในระยะสั้น แต่แนวโน้มระยะยาวยังคงเป็นลบ

เราคาดว่า spread ของเคมีภัณฑ์จะได้อานิสงส์ในระยะสั้นจาก i) ราคาน้ำมันที่ลดลง (ต้นทุน naphtha ลดลง) ii) มีการปิดโรงานปิโตรเคมีนอกแผนในเอเชีย และ iii)อุปสงค์ จากจีนหลังจากที่กลับมาทำการผลิตอีกครั้งตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม 2563 ในขณะที่แนวโน้มระยะยาวของ olefins ยังดูอ่อนแอ จากการ
ชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจโลกเนื่องจากการระบาดของ COVID-19 แต่อย่างไรก็ตาม ต้นทุน naphtha (-60% YTD), ราคา HDPE(-26.7% YTD) , และราคา PP (-20.8% YTD) ยังต่ำ และเราคาดว่าบริษัทจะมีผลขาดทุนจากสต็อก 5 พันล้านบาทใน 1Q63

ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ยังฟื้นตัวได้ดีแม้จะมีการ lockdown

ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ยังคงแข็งแกร่งเนื่องจาก i) ธุรกิจ E-commerce เฟื่องฟูในช่วงที่มีการ lockdown และมีการทำงานจากที่บ้าน ii) อุปสงค์ของสินค้าอุปโภคบริโภคเร่งตัวขึ้นเพราะมีมากตุนอาการและของใช้อื่นๆ เราคาดว่า SCC จะได้ประโยชน์จากการทำดีล M&A เพราะราคาซื้อสินทรัพย์ถูก ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพของบริษัทในการเป็นผู้ให้บริการ solution ด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรระดับแนวหน้าของ ASEAN

ธุรกิจปูนซีเมนต์ยังมี downside จากอุปสงค์ที่อ่อนแอ และการ lockdown

ประมาณการกำไรของของเรายังมี downside อีก 15.4% จากธุรกิจปูนซีเมนต์เนื่องจาก i) ความล่าช้าในการผ่านร่าง พรบ. งบประมาณปี 2563 ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อโครงการภาครัฐ ii) อุปสงค์ปูนซีเมนต์อ่อนแอจากการ lockdown (ร้านขายวัสดุก่อสร้างแบบ modern trade ทุกแห่งปิดหมด) และ
ความลำบากในการขนส่ง

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำ ขาย และให้ราคาเป้าหมายปี 2563 ที่ 351 บาท เรายังคงประมาณการกำไรปี 2563-2564 เอาไว้เท่าเดิม โดยมองว่าประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักในปี 2563 ยังมี downside อีก 3.8% จากธุรกิจปูนซีเมนต์ และยังคงมองลบกับแนวโน้มตลาด Olefins

Risks

ความล่าช้าของงานก่อสร้างภาครัฐ ต้นทุนพลังงานมีแนวโน้มแพงขึ้น ความผันผวนของ spread เคมีภัณฑ์