ผันผวน รอปัจจัยใหม่

ผันผวน รอปัจจัยใหม่

หลายประเทศใช้มาตรการปิดเมืองเพื่อควบคุมสถานการณ์ Covid-19 ซึ่งส่งผลต่อกิจกรรมและภาวะเศรษฐกิจให้หดตัวแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้

ตลาดหุ้นวานนี้

SET วานนี้ปรับตัวขึ้นปิดที่ 1,125 จุด (+38.04 จุด) หรือ +3.50% ด้วย Volume ซื้อขาย 5.6 หมื่นล้านบาท ตอบรับปัจจัยบวกรัฐบาลต่างๆทั่วโลกออกมาตรการเพื่อรับมือสถานการณ์ Covid-19 รวมถึงการทำ Window dressing ปิด NAV 1Q2020 และแรงซื้อเก็งกำไรดักกองทุน SSF พิเศษที่เตรียมขายตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. – 30 มิ.ย. ส่งผลให้มีแรงซื้อในกลุ่ม Petro, Bank, Fin และ Energy หนุนดัชนี อย่างไรก็ตามนักลงทุนต่างชาติเป็นขายสุทธิ 1,649 ล้านบาท  และขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 2,285 ล้านบาท รวมถึง Net Short TFEX 3,609 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

เรามีมุมมองเป็นกลางคาด SET แกว่งตัว 1,110 - 1,135 จุด โดยแม้ว่าภาวะตลาดจะได้แรงหนุนจากมาตรการต่างๆจากรัฐบาลหลายประเทศทั่วโลกที่ออกมารับมือสถานการณ์ Covid-19 รวมถึงการเริ่มขายกองทุน SSF พิเศษช่วง 1 เม.ย.- 30 มิ.ย.ที่คาดว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้าตลาดหุ้นราว 6 หมื่นลบ. อย่างไรก็ตามความกังวลการแพร่ระบาดไวรัส Covid-19 โดยเฉพาะในฝั่งอเมริกาฯและยุโรปที่ยังคงเร่งตัวขึ้นส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลกพุ่งขึ้นกว่า 8 แสนราย เสียชีวิต 3.8 หมื่นราย และทำให้หลายประเทศใช้มาตรการปิดเมืองเพื่อควบคุมสถานการณ์ซึ่งส่งผลต่อกิจกรรมและภาวะเศรษฐกิจให้หดตัวแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้ยังต้องระวังแรงขายระยะสั้นหลังวานนี้ดัชนีดีดตัวขึ้นแรงซึ่งจะกดดันต่อภาวะตลาด

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • กลุ่ม ICT (ADVANC, INTUCH, DTAC)  ได้อานิสงส์ Work from home
  • กลุ่มค้าปลีก (CPALL, BJC, MAKRO) ประชาชนเร่งกักตุนสินค้าเพื่อรองรับสถานการณ์ Covid-19
  • กลุ่มอาหาร (CPF, TU) ได้ประโยชน์จากแนวโน้มเงินบาทอ่อนค่า

หุ้นแนะนำวันนี้

  • CPALL (ปิด 61 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 88 บาท) ได้ Sentiment บวกภาครัฐเสนอให้เพิ่มจำนวนผู้ที่ได้รับการเยียวยาจากผลกระทบของไวรัส Covid 19 เพิ่มขึ้นจาก 3 ล้านรายเป็น 9 ล้านราย คาดใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นจาก 45,000 ล้านบาทเป็น 135,000 ล้านบาท และยังได้ประโยชน์จากมาตรการเดิมคืนค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า 21 ล้านครัวเรือนมูลค่า 30,000 ล้านบาท
  • BCPG (ปิด 12.4 ซื้อ/เป้า 19.8) เป็นหุ้น Defensive ที่ Valuation ไม่แพงซื้อขายบน PE ต่ำเพียง 10 เท่าจ่ายปันผลสม่ำเสมอให้ Dividend yield ประมาณ 5-6% ต่อปี เทียบกับ PE เฉลี่ยของกลุ่มที่ 20-30 เท่าและ Dividend yield ประมาณ 2% นอกจากนี้ BCPG ยังมี Growth story จากจำนวน MW ที่เพิ่มขึ้น จากโครงการโรงไฟฟ้า Nam San 3A และ 3B ในเวียดนาม, โรงไฟฟ้าพลังงานลม Swan กำลังการผลิต 270MW ในลาว และโรงไฟฟ้า solar สี่แห่ง 75MW ในญี่ปุ่น

บทวิเคราะห์วันนี้

ADVANC (ปิด 201 ซื้อ/เป้าใหม่ 244 เดิม 257), SCC (ปิด 324 ถือ/เป้าใหม่ 350 เดิม 330)

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (-) SET Index เดือน มี.ค. ร่วง 16% ส่วนแนวโน้มเดือน เม.ย. ยังผันผวน Covid-19 ระบาด และมาตรการ lock down ยังกดดันดัชนี ให้กรอบ SET เดือน เม.ย. ที่ 1,050 -1,200 จุด: สรุปภาพรวมการลงทุนของตลาดหุ้นไทยในเดือน มี.ค. SET Index ให้ผลตอบแทน -16% ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 ส่วนพอร์ตการลงทุนของ KSS เดือน มี.ค.ให้ผลตอบแทน -8.2% ดีกว่าตลาด มุมมองเดือน เม.ย. คาด SET Index ยังผันผวนต่อ แต่จะไม่รุนแรงเหมือนเดือนที่ผ่านมา เพราะ SET Index ที่ลดลง -16%ในเดือน มี.ค. และ ytd -29% สะท้อนปัจจัยลบไปบ้างแล้ว อย่างไรก็ตาม Upside ที่ดัชนีจะปรับขึ้นก็จำกัดเช่นกันเนื่องจากปัจจัยลบหลักที่กดดันตลาดยังคงอยู่ (Covid-19 ระบาด และหลายประเทศออกมาตรการ Lock down)  เราให้กรอบแนวรับของเดือน มี.ค. อยู่ที่ระดับ 1,050 จุด และให้แนวต้านอยู่ที่ระดับ 1,200 จุด กลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้น Defensive ปันผลสูง ได้รับผลกระทบจากไวรัส Covid-19 น้อยสุด อาทิ กลุ่ม ICT, หุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการเยียวยาจากภาครัฐ (CPALL) และหุ้นที่ผลประกอบการ 1Q20 ยังแข็งแกร่งอาทิ กลุ่มส่งออกอาหาร Top pick: ADVANC, BCPG, CPALL, CPF และ INTUCH
  • (-) ทรัมป์ เตือนชาวอเมริกันเตรียมมือการระบาดอย่างรุนแรงของไวรัส Covid-19 ในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า: สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 ในสหรัฐยังน่าเป็นห่วง โดยวานนี้มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นวันเดียวมากถึง 23,559 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อรวมพุ่งเป็น 187,347 ราย ซึ่งกว่า 40% อยู่ในมหานครนิวยอร์กซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของสหรัฐ และล่าสุดประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์ ประกาศให้ชาวอเมริกันทั้งประเทศเตรียมรับมือกับการระบาดอย่างหนักของเชื้อ Covid-19 ในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า ขณะที่ทำเนียบขาวคาดการณ์ว่าจะมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อดังกล่าวมากถึง 100,000-240,000 ราย (ปัจจุบันสหรัฐมีผู้เสียชีวิตแล้ว 3,860 ราย)
  • (+/-) รัฐบาลยังไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 3 แต่เสนอให้ทบทวนมาตรการระยะที่ 2 คาดว่าจะมีเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น:  วานนี้ที่ประชุมครม.ไม่ได้มีมติเกี่ยวกับการออกมาตรการเยียวยาหรือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 3 ตามที่ตลาดคาดการณ์ อย่างไรก็ตามภาครัฐได้มีการทบทวนมาตรการระยะที่ 2 ใหม่เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างทั่วถึงและครอบคลุมผู้ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัส Covid-19 มากยิ่งขึ้น โดยขยายกลุ่มเป้าหมายผู้ได้รับสิทธิของมาตรการชดเชยรายได้ฯจากเดิม 3 ล้านคน เป็น 9 ล้านคน มาตรการนี้คาดว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นจากประมาณ 45,000 ล้านบาท เป็น 135,000 ล้านบาท เป็นบวกกับกลุ่มค้าปลีก Top pick: CPALL