'เทพไท ร้อง 'นายกฯ' ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สั่งปรับราคาสินค้า

'เทพไท ร้อง 'นายกฯ' ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สั่งปรับราคาสินค้า

"เทพไท" ร้อง "ประยุทธ์" ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สั่งปรับราคาสินค้า-ค่าโดยสาร สอดคล้องกับราคาน้ำมันในปัจจุบัน พร้อมหามาตรการควบคุมราคาสินค้าให้เป็นธรรม

เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 63 นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เทพไท เสนพงศ์ โดยเนื้อหาระบุว่า...

เช้าวันนี้น้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดได้ประกาศลดราคา มีผลตั้งแต่เวลา5.00น.ของวันนี้(1เม.ย.) ทุกครั้งที่มีการประกาศลดราคาน้ำมันทุกคนก็จะดีใจ เพราะราคาน้ำมันเป็นดัชนีชี้วัดปัจจัยทางเศรษฐกิจหลายด้าน แต่สำหรับประชาชนทั่วไป เมื่อราคานำ้มันถูกลง จะได้ประหยัดเงินในกระเป๋า เติมน้ำมันได้เต็มถังในราคาไม่แพง ประหยัดเงินได้จำนวนไม่น้อย แต่ในวันนี้เมื่อมีการประกาศลดราคาน้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดของทุกปั๊ม ประชาชนส่วนใหญ่จะรู้สึกเฉยๆ ไม่ยินดียินร้ายกับการลดราคาน้ำมันเหมือนเมื่อก่อน ด้วยเหตุผลคือ

1.ราคานำ้มันได้ปรับราคาในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ทุกคนมีความวิตกกังวล เรื่องการติดเชื้อจากโรคร้ายมากกว่าเรื่องใดๆที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน
2.ราคาน้ำมันได้มีการปรับลดราคาลงหลายครั้งในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม จนรู้สึกชาชินไม่ตื่นเต้นกับราคาน้ำมันที่ลดลงในแต่ละครั้ง
3.ราคาน้ำมันถูกลงก็ไม่มีผล กับการเติมน้ำมันรถยนต์ของตัวเอง เพราะความจำเป็นในการใช้รถยนต์ในชีวิตประจำวันมีน้อยลง หลังจากถูกประกาศล็อกดาวน์ให้อยู่กลับบ้านไม่สามารถเดินทางออกจากบ้านได้
4.ราคาน้ำมันลดลง ค่ารถโดยสารสาธารณะคงเดิม ค่าขนส่งอื่นๆ ก็ไม่ได้ลดลงตามราคาน้ำมัน ราคาสินค้าทุกชนิดก็ราคาแพงเหมือนเดิม ทั้งๆที่น้ำมันคือต้นทุนของการผลิตสินค้าทุกชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำมันดีเซลที่เคยมีราคาสูงลิตรละ 30 บาท ปัจจุบันราคาลิตรละ 20 บาท ราคาลดลงลิตรละ10บาท และมีแน้วโน้มว่านำ้มันดิบในตลาดโลกจะลดลงมากกว่านี้อีก แต่ยังไม่เห็นสินค้าชนิดไหน ขอปรับลดราคาลงตามราคาน้ำมันเลย ก่อนหน้านี้เมื่อรัฐบาลประกาศปรับราคาน้ำมันสูงขึ้นครั้งใด ผู้ประกอบการรถทัวร์ โรงงานอุตสาหกรรม ก็จะโอดครวญขอขึ้นราคาค่าโดยสาร,ราคาสินค้าโดยอ้างเรื่องต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นตามราคาน้ำมัน
ยิ่งตอนนี้สถานการณ์บ้านเมือง มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 พี่น้องประชาชนต้องหยุดอยู่กับบ้าน หยุดทำงาน ขาดรายได้ แต่ในขณะเดียวกันราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ค่าขนส่ง ค่ารถโดยสารสาธารณะยังคงเท่าเดิม

จึงขอเรียกร้องมายัง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จทางการบริหารตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ สั่งการให้กระทรวงต่างๆที่เกี่ยวข้องกับ ผลิตสินค้าค่าครองชีพ ค่าโดยสารรถสาธารณะ และค่าขนส่งทั่วไป เช่น กระทรวงการคลัง,กระทรวงพลังงาน,กระทรวงคมนาคม,กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงพาณิชย์ ฯลฯได้แก้ไขปัญหาสินค้าราคาให้ถูกลงสอดคล้องกับราคาน้ำมันในปัจจุบัน และ มอบหมายให้ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่ได้รับแต่งตั้งจากคณะรัฐมนตรี ให้เป็นประธานคณะกรรมการสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ และประธานคณะกรรมการสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ตามพระราชบัญญัติสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ พ.ศ. 2497 อีกตำแหน่งหนึ่ง นอกจากจะมีหน้าที่ควบคุมการกักตุนสินค้าแล้ว ก็ต้องหามาตรการควบคุม ปรับลดราคาสินค้าให้มีราคาเป็นธรรมกับพี่น้องประชาชนด้วย ซึ่งในวันพรุ่งนี้(2เม.ย.)จะได้ยื่นหนังสือต่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะประธานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ต่อไป