วิตกโควิด-19ระบาดหนักนิวยอร์กฉุดดาวโจนส์ปิดลบ

วิตกโควิด-19ระบาดหนักนิวยอร์กฉุดดาวโจนส์ปิดลบ

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันอังคาร(31มี.ค.)ปรับตัวลงกว่า400 จุด ท่ามกลางความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ ต้นตอโรคโควิด -19 ในนิวยอร์ก ที่รุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลง 410.32 จุด หรือ 1.84% ปิดที่ 21,917.16 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วง 42.06 จุด หรือ 1.60% ปิดที่ 2,584.59 จุด และดัชนีแนสแด็กร่วงลง 74.05 จุด หรือ 0.95% ปิดที่ 7,700.10 จุด

วันนี้เป็นวันซื้อขายสุดท้ายสำหรับ เดือนมี.ค.และไตรมาสแรก ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลงในช่วงเวลาดังกล่าว และดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 12% ในเดือนมี.ค. ทำสถิติเป็นเดือนที่ปรับตัวย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปี2551

นอกจากนี้ ดัชนีดาวโจนส์ยังดิ่งลง 21.8% ในไตรมาสแรก ทำสถิติเป็นไตรมาสที่ปรับตัวย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2530 และเป็นไตรมาสแรกที่ปรับตัวย่ำแย่ที่สุดเป็นประวัติการณ์

ทั้งนี้ สหรัฐเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 สูงสุดในโลก รองลงมาคืออิตาลี สเปน จีน และเยอรมนี และข้อมูลล่าสุด ระบุว่า ขณะนี้สหรัฐมีผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 164,435 ราย และมีผู้เสียชีวิต 3,175 ราย

รัฐนิวยอร์ก เป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในสหรัฐ มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดในประเทศ จำนวน 67,325 ราย ตามมาด้วยนิวเจอร์ซีย์ แคลิฟอร์เนีย และมิชิแกน

นอกจากนี้ รัฐนิวยอร์ก ยังมีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดในสหรัฐ จำนวน 1,342 ราย ตามมาด้วยวอชิงตัน นิวเจอร์ซีย์ และหลุยเซียนา

นายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก เรียกร้องให้บุคลากรทางการแพทย์ทั่วสหรัฐเดินทางมายังนิวยอร์กเพื่อช่วยต่อสู้กับโรคโควิด-19

ด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ เปิดเผยว่า ชาวอเมริกันจำนวนหลายล้านคนถูกปลดออกจากงานในขณะนี้ อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดจะเกิดขึ้นตามมา

ทั้งนี้ เฟดคาดการณ์ว่าภาคธุรกิจสหรัฐจะมีการปลดพนักงานรวม 47 ล้านคน ขณะที่อัตราการว่างงานอยู่ที่ระดับ 32.1% ซึ่งสูงกว่าระดับ 30% ที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ ระบุก่อนหน้านี้