‘กองทุน’ชี้มาตรการธปท.ช่วยฟื้น'เชื่อมั่น'  

‘กองทุน’ชี้มาตรการธปท.ช่วยฟื้น'เชื่อมั่น'  

“ผู้จัดการกองทุน”คาดตลาดตราสารหนี้กลับเข้าสู่ภาวะปกติเร็วๆนี้  ชี้ความเชื่อมั่นนักลงทุนฟื้น หลังธปท.ขยายขอบเขตความช่วยเหลือกองทุนให้ยืดหยุ่นมากขึ้น เปิดทางแบงก์เพิ่มสภาพคล่องให้ทั้งกองทุน และผู้ถือหน่วยลงทุนท่ี่ปิดกองไปแล้ว ชี้แรงขายเริ่มแผ่ว

 รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) แจ้งว่า ธปท. ได้ขยายขอบเขตมาตรการช่วยเหลือกองทุนรวมที่ได้รับผลกระทบจากการขาดสภาพคล่องในตลาดการเงิน (Mutual Fund Liquidity Facility: MFLF) ให้ยืดหยุ่น มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับสถานการณ์ที่รุนแรงขึ้นได้อย่างทันท่วงที เพื่อไม่ให้ลุกลามเป็นวงกว้าง  

โดยปรับเงื่อนไขวงเงินให้ความช่วยเหลือแก่สถาบันการเงิน อนุญาตให้สถาบันการเงินสามารถเข้าซื้อหน่วยลงทุนจากกองทุนรวมตลาดเงิน(มันนี่มาร์เก็ตฟันด์) และกองทุนเปิดตราสารหนี้(เดลี่มาร์เก็ตฟันด์) ทุกกองทุนที่ลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้สกุลเงินบาท หรือสกุลต่างประเทศ ในระดับที่สามารถลงทุนได้(Investment Grade) ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ BBB- ขึ้นไป

นอกจากนี้ยังอนุญาตให้สถาบันการเงินทำธุรกรรมซื้อคืน(repo) กับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) โดยมีสินทรัพย์ของกองทุนรวมมันนี่มาร์เก็ตและเดลี่มาร์เก็ต จากกองใดก็ได้เป็นหลักประกัน ให้สถาบันการเงินซื้อสินทรัพย์จากกองทุนรวม เช่น ตราสารหนี้ภาคเอกชน และอนุญาตให้สถาบันการเงินปล่อยสภาพคล่องให้กับลูกค้าที่ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมที่ “ปิดกอง” ไปแล้ว โดยที่สถาบันการเงินไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับบลจ. ที่บริหารกองทุนรวมนั้น 

พร้อมขยายประเภทสินทรัพย์ที่สถาบันการเงินใช้เป็นหลักประกันในการขอรับสภาพคล่องกับ ธปท. ผ่านธุรกรรม repo ด้วย ได้แก่ หน่วยลงทุนของกองทุนรวมตราสารหนี้ที่เป็นมันนี่มาร์เก็ตและเดลี่มาร์เก็ตทุกกองทุน ที่ลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้สกุลเงินบาทหรือสกุลต่างประเทศ ระดับInvestment Grade ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ BBB- ขึ้นไป

นายวศิน วณิชย์วรนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บลจ. กสิกรไทย จำกัด และในฐานะนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) เปิดเผยว่า กรณีธปท. ผ่อนเงื่อนไขมาตรการช่วยเหลือกองทุนรวมนั้น จะช่วยให้กองทุนที่ยังคงดำเนินการอยู่ในขณะนี้ สามารถเข้าถึงสภาพคล่องได้ง่ายขึ้น ซึ่งมาตรการของธปท.พอเพียง ครอบคลุมและยืดหยุ่น สอดคล้องกับสภาวะตลาดมากขึ้น มีการดูแลทั้งกลุ่มกองทุนที่ปิดไปแล้วและกองทุนอื่นๆที่ยังดำเนินการอยู่ ส่วนในช่วง2วันที่ผ่านมานี้  ยังคงมีแรงขายกองทุนตราสารหนี้ออกมาอยู่บ้าง แต่ผู้จัดการกองทุนแต่ละแห่งยังสามารถบริหารจัดการกันต่อไปได้

 "สถานการณ์ตลาดรองของตราสารหนี้ปัจจุบันพบว่า มีเสถียรภาพมากขึ้น ผลตอบแทนกองทุนตราสารหนี้ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันของทั้งตลาดไม่นับรวมบลจ. ทหารไทย ส่วนใหญ่ยังคงเป็นบวก ไม่ได้ขาดทุน"

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากธปท.ผ่อนเงื่อนไขดังกล่าว ดูเหมือนว่าตลาดตอบรับในทิศทางที่ดีขึ้น และกองทุนที่ปิดไปแล้ว เริ่มจ่ายเงินคืนให้ผู้ถือหน่วย ช่วยลดแรงกระทบต่อตลาดได้พอสมควร ทำให้ปัจจุบันแรงไถ่ถอนกองทุนตราสารหนี้ชะลอตัวลง และตลาดรองของตราสารหนี้ โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ขณะที่ตราสารหนี้อื่นมีสภาพคล่องปรับดีขึ้นตามลำดับ

“ปัจจุบันความเชื่อมั่นเริ่มกลับมามากขึ้น ดังนั้นหวังว่า ตลาดจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ในเร็ววัน ในส่วนของบลจ. กรุงไทยพบว่าทุกวันนี้นักลงทุนไม่ได้กลัว ไม่มียอดไถ่ถอนออก แต่โยกเงินระหว่างกองทุนทำการปรับพอร์ตลงทุนตามสภาวะมากกว่า”