คนไทยยัง “ห่าง”กันไม่พอ ไม่อยู่ระดับช่วยลดแพร่โควิด-19

คนไทยยัง “ห่าง”กันไม่พอ ไม่อยู่ระดับช่วยลดแพร่โควิด-19

ลดการเคลื่อนย้ายคนเฉลี่ยเพียง 40 % มาตรการเว้นระยะห่างคนไทยทำได้แค่ 67 % ยังไม่เพียงพอลดการแพร่กระจายโรค

เมื่อเวลา11.30 น. วันที่ 30 มีนาคม 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กล่าวว่า ผู้บัญชาการทหารสูงสุด มีการนำเสนอข้อมูลในช่วงวันเสารีที่ 21 มีนาคม 2563 เทียบกับวันเสาร์ที่ 28 มีนาคม 2563 พบว่า การเดินทางทางบอกด้วยรถโดยสารประจำทาง ลดลง 45.58 % ถนนส่วนบุคคลลดลง 41.33 % รถไฟฟ้า ลดลง 58.63 % รถไฟระหว่างเมือง ลดลง 64.67 % และทางน้ำลดลง 40 % จึงต้องขอความร่วมมือมากยิ่งขึ้น เพราะต้องได้ประมาณ 90 %ถึงจะได้ผลในการทำให้จำนวนผู้ป่วยรายใหม่ลดลง ปัจจุบันทำได้เพียงเฉลี่ย 40 %เท่านั้น ซึ่งไม่สามารถลดกาแรพร่ระบาดลงได้
รักษาระยะห่างแค่67%


นายแพทย์วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากการที่กรมสุขภาพอจิต ดำเนินการสอบถามประชาชนผ่านออนไลน์ เกี่ยวกับมาตรการรักษาระยะห่าง หรือ Social Distancing จำนวน 782 คน พบว่า ประชาชนหลีกเลี่ยงการไปพื้นที่แออัดเป็นประจำ 71.1 % หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิด อยู่ห่าง 2 เมตร ทำเป็นประจำ 67.9 % ซึ่งหากจะให้มาตรการนี้ได้ผลในการลดการแพร่กระจายของโควิด-19 จะต้องมีการทำมากถึง 80 %