ปรับลง... สถานการณ์ Covid-19 แรงขึ้น + นํ้ามันร่วงแรง

ปรับลง... สถานการณ์ Covid-19 แรงขึ้น + นํ้ามันร่วงแรง

ปัจจัยที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือน ก.พ. ในวันอังคาร และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ สำหรับเดือน มี.ค. ซึ่งจะเริ่มแสดงถึงผลกระทบหนักจาก Covid-19 ต่อสหรัฐฯ

KGI ประเมิน SET Index วันจันทร์ปรับลดลง... หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ดัชนีฯ ยังคงปรับขึ้นต่อแต่มีแรงขายสวนมากขึ้น เช่นกันในช่วงบ่าย ส่งผลให้ตลาดหุ้นค่อนข้างผันผวนแรง (ตามคาด)... สำหรับปัจจัยลบต่อตลาดหุ้นวันนี้ ได้แก่ i) valuations ของตลาดหุ้นไทยซึ่งไม่ได้ถูกมากๆ เหมือนช่วง 2 สัปดาห์ก่อนหน้า (ล่าสุดดัชนีฯ เทรดที่ forward PE 2563 ที่ 13.6 เท่า ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยระยะยาว 10 ปี และมี earnings yield gap ต่ำกว่า 6%) ส่งผลให้แรงซื้อน่าจะชะลอ ii) รายงานผู้ติดเชื้อ และเสียชีวิตจากไวรัส Covid-19 ยังคงเร่งตัวขึ้นทั้งในประเทศหลักๆ อย่างสหรัฐฯ (ล่าสุดติดเชื้อทะลุ 1.4 แสนคน) ยุโรป รวมทั้งตัวเลขในประเทศไทยซึ่งเมื่อวานนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 143 คน และทางการได้ประกาศยืดเวลาการปิดสถานที่ต่างๆ ไปถึง 30 เม.ย. จากกำหนดเดิมจะปิดถึง 12 เม.ย. iii) หุ้นกลุ่มน้ำมันน่าจะอ่อนแอกว่าตลาดโดยรวม และกดดันดัชนีฯ หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTi ลดลง 6.2% เมื่อคืนวันศุกร์และเช้านี้ลงต่ออีกประมาณ 5% ตามรายงานข่าวที่ว่ารัสเซียและซาอุดิอาระเบียแถลงว่าไม่มีแผนการร่วมมือกับสหรัฐฯ ในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบแต่อย่างใด สำหรับปัจจัยที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ (30 มี.ค. - 3 เม.ย.) ได้แก่ ตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือน ก.พ. ในวันอังคาร และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ สำหรับเดือน มี.ค. ซึ่งจะเริ่มแสดงถึงผลกระทบหนักจาก Covid-19 ต่อสหรัฐฯ

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน 

เก็งกำไรแนวรับ CPALL*, BJC* / ถัวหุ้นพื้นฐานดีต่อ

- เก็งกำไร จากประเด็นข่าวมาตรการรัฐฯ เราประเมินหุ้นค้าปลีกอย่าง CPALL* และ BJC* ที่ยังสามารถเปิดให้บริการได้ในขณะนี้ + มาตรการช่วยค่าครองชีพของภาครัฐฯ จะเป็น Sentiment บวกแนะนำ "เก็งกำไร" i) CPALL* (แนวรับ 60 บาท และ 59 บาท / แนวต้าน 62 - 64 บาท / Trailing stop58 บาท) และ ii) BJC* (แนวรับ 39 บาท และ 38 บาท / แนวต้าน 42 - 44 บาท / Stop loss 35.5 บาท)

- สะสมหุ้นที่คาดผลการดำเนินงานดีกว่าตลาดฯ กลยุทธ์ Dollar cost average ราคาหุ้นย่อค่อยสะสม เน้นหุ้นถูก + หนี้ต่ำ + ได้รับผลกระทบน้อย (คาดกำไร 1Q63 Outperform ไม่ลงหรือบวกสวนภาพรวมตลาดฯ)


       i) INTUCH* (เป้าพื้นฐาน 76 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 48 บาท และ 46 บาท / แนวต้าน 52 - 54 บาท ... หากต่ำกว่า 42 บาท ชะลอการลงทุนก่อน 2) ความเสี่ยงหนีสิ้นต่ำ DE < 1 เท่า และ Dividend yield 5.6% 3) คาดผลการดำเนินงาน 1Q63 ดีกว่าตลาดฯ ทรงๆ YoY

      ii) EGCO* (เป้าพื้นฐาน 370 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 220 บาท และ 215 บาท / แนวต้าน 230 บาท และ 240 บาท ... หากต่ำกว่า 180 บาท ชะลอการลงทุนก่อน 2) ความเสี่ยงหนี้สินต่ำ D/E < 1เท่า และ Dividend yield +3.3% 3) คาดผลการดำเนินงาน 1Q63 ดีกว่าตลาดฯ ทรงๆ YoY

     iii) BCPG* (เป้าพื้นฐาน 22 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 11.7 บาท และ 11.4 บาท / แนวต้าน 12.3 บาท และ 13.0 บาท ... หากตํ่ากว่า 10.0 บาท ชะลอการลงทุนก่อน 2) Dividend yield 5.4% แม้ D/E 1.4 เท่า แต่ยังต่ำกว่า 2 เท่า และต่ำกว่าหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนตัวอื่นๆ 3) คาดผลการดำเนิน 1Q63 ดีกว่าตลาดฯ โตทั้ง YoY และ QoQ

หุ้นมีข่าว

(-) สายการบิน 9 จะปิดให้บริการถึงเดือนตุลาคม (ข่าวสด) เรามองเรื่องดังกล่าวเป็นลบต่อผู้ประกอบการสายการบิน เนื่องจากสายการบินเกือบทั้งหมดกำลังจะหยุดให้บริการในช่วง 2Q63 อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวถือว่าสอดคล้องกับมุมมองของเรา โดยคาดว่าสายการบินจำนวนมากกำลังปรับตัวด้วยการปรับลดเที่ยวบินหรือหยุดบินทั้งในส่วนที่เป็นสายการบินระหว่างประเทศและในประเทศจากการระบาดของ COVID-19 ทั้งนี้ เราได้มีการปรับลดประมาณการอย่างมีนัยสำคัญสำหรับ AAV* โดยปรับลดจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศและในประเทศลง 40% YoY และ 25% YoY ในปี 2563 อีกทั้ง เชื่อว่าสายการบินอื่น ก็จะมีแนวทางแบบเดียวกันโดยเฉพาะในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว 2Q63 เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงานลงในช่วงสถานการณ์เลวร้ายทั่วโลก ทั้งนี้ เราให้น้ำหนักการลงทุนที่ต่ำกว่าปกติสำหรับกลุ่มสายการบินในขณะนี้ จนกว่าจะเห็นการฟื้นตัว หากเปรียบเทียบหุ้นในกลุ่มสายการบิน เรามองว่า AAV ดูดีกว่าหุ้นตัวอื่นจากส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดในประเทศและฐานะการเงินแข็งแรงกว่ารายอื่น อย่างไรก็ตาม เราคาดการณ์ว่า AAV ผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิราว 805 ล้านบาทในปี 2563 เราแนะนำเพียง “ถือ” โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2563 ไว้เท่ากับ 1.20 บาท

(+ ACE, TPCH, NER) สนธิรัตน์ลุยโรงไฟฟ้าชุมชน เปิดเอกชนยื่นข้อเสนอเม.ย. (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) "สนธิรัตน์" เดินหน้าเปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอโรงไฟฟ้าชุมชนกลาง เม.ย.นี้ ยัน พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่ส่งผลกระทบแต่อย่างใด สั่งทุกส่วนให้ดูระบบการยื่นให้ดี เพื่อป้องกันผลกระทบโควิด-19 หากทำผ่านออนไลน์ จะได้หรือไม่ หวังอัดเม็ดเงินกระตุ้นศก.ฐานราก ขณะที่ พพ. เตรียมสรุปรูปแบบการยื่นข้อเสนอเร็วๆ นี้ 

(+) มนุษย์เงินเดือนเตรียมเฮ 'หม่อมเต่า' ชงจ่าย 5 พันบ. (ไทยโพสต์) "ศบค." เผยมี 44 เว็บไซต์ปลอมหลอกลงทะเบียน "คลัง" ปลื้ม คนแห่ลงทะเบียนถึง 17 ล้าน ลั่น 7 วันเงินถึงมือแน่ ส่วนใครถูกเขี่ยชื่อทิ้ง อุทธรณ์ได้ "หม่อมเต่า" เอาใจมนุษย์เงินเดือน เตรียมชง ครม.จ่ายเงินชดเชย 5 พันบาทเหมือนกลุ่มไม่
อยู่ในระบบประกันสังคม

(+) RS รับมือโควิด ปรับแผนเชิงรุก ลุยช่องคอมเมิร์ซ (ทันหุ้น) RS คำนึงถึงความปลอดภัยของพนักงาน สอดคล้องกับสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วจนส่งผลให้ธุรกิจคอมเมิร์ซ ในเครือเติบโตตามไปด้วย

(+) GPSC* ปิดดีลซื้อโซลาร์ฟาร์ม RATCH* ผนึกพันธมิตร 40 MW (ทันหุ้น) GPSC* ปิดดีลซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 9 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตรวม 39.5 เมกะวัตต์ ส่งบริษัทย่อย GRP เข้าถือหุ้น 100% ใน 4 บริษัท ขยายพอร์ตรายได้พลังงานทดแทน ด้าน RATCH* จับมือพันธมิตรลุยสร้าง
โรงไฟฟ้า กำลังการผลิต 40 เมกะวัตต์

(-) BEM*-BTS* กระทบหนัก! ผู้โดยสารรถไฟฟ้าทรุด (ข่าวหุ้น) ผู้โดยสารรถไฟฟ้าวูบ! หลังประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ล่าสุดสายสีน้ำเงินใต้ดินเหลือผู้โดยสาร 1.2 แสนคน/วัน “รฟม.” คาดไตรมาสแรกผู้โดยสารร่วงไม่ต่ำกว่า 50% เชื่อ BEM* เตรียมยื่นขอชดเชยจากภาครัฐตามสัญญาสัมปทาน ส่วน BTS* ผู้โดยสารหดเหลือ 2.2 แสนคน/วัน จากปกติ 8.5 แสนคน/วัน

(0) 'ศักดิ์สยาม'รื้อแผนฟื้นฟู THAI* สั่งปรับจัดหาฝูงบินจากซื้อ เป็นเช่า-หนุนกู้เงิน (ข่าวหุ้น) “ศักดิ์สยาม” รื้อแผนฟื้นฟู THAI* แนะปรับแผนจัดหาฝูงบินจากซื้อเป็นเช่า มั่นใจเข้ากับสถานะการเงินปัจจุบันมากกว่า ชี้หากจัดทำแผนเสร็จควรส่งให้สถาบันการเงินตรวจก่อน ถ้าได้รับไฟเขียว พร้อมเสนอรัฐบาล
ช่วยค้ำประกันเงินกู้ทันที ยันสภาพคล่อง THAI อยู่ได้เกิน 2 เดือน ไม่ยอมให้ล้มละลายแน่นอน!