การระบาดระลอกที่สองทำให้คนเพิ่มมุมมองระมัดระวัง...ไปต่อไม่ควรย่อหลุด 1,064 จุด

การระบาดระลอกที่สองทำให้คนเพิ่มมุมมองระมัดระวัง...ไปต่อไม่ควรย่อหลุด 1,064 จุด

สถานการณ์ระบาดยุโรปและสหรัฐฯยังน่ากังวล ขณะที่ญี่ปุ่นเริ่มเกิดระลอกสอง

จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกสะสมอยู่ที่ 721,412 ราย เพิ่มขึ้น 58,285 ราย โดยราว 30% มาจากสหรัฐฯ และ 48% มาจากยุโรป ขณะทีเริ่มพบการระบาดระลอกที่สอง (second wave) ในญี่ปุ่น ที่เริ่มเร่งตรวจผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมอย่างจริงจังหลังกำหนดการจัดงานโอลิมปิคเลื่อนออกไปเป็นที่แน่นอนแล้ว และอาจเห็นการใช้มาตรการปิดเมืองใหญ่ อาทิ โตเกียว ทั้งนี้การระบาดระลองที่ 2 จะทำให้นักลงทุนเพิ่มมุมมองระมัดระวัง และการประเมินสถานการณ์ที่อาจยืดเยื้อ ซึ่งจะเป็นปัจจัยลบต่อการลงทุน

ผลกระทบจากไวรัสโคโรนา (Covid-19) ต่อธุรกิจการบินอยู่ในระดับสูง 7 สายการบินมีแผนขอรับความช่วยเหลือวงเงินกู้ดอกเบี้นต่ำ 1.6 หมื่นล้านบาท และประกาศแผนระงับการบิน โดยสายการบินส่วนใหญ่ประกาศระงับการบินระหว่างประเทศทุกเที่ยวบิน จนสิ้น เม.ย. (บางส่วนถึงปลาย ต.ค.) ขณะที่ระงับการบินในประเทศ จนถึงสิ้นพ.ค. (สายการบินต้นทุนต่ำถึงสิ้น เม.ย.) ขณะที่บางกอกแอร์เวย์ระงับทุกเที่ยวบินระหว่าง 29 มี.ค.-24 ต.ค. 63 ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงได้แก่ผู้ให้บริการสนามบิน อย่าง AOT ที่คาดจะเห็นการปรับลดประมาณการและคำแนะนำลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่กลุ่มโรงแรม แม้อาจปรับมาเจาะนักท่องเที่ยวในประเทศ แต่คาดว่าต้องใช้เวลาและรอจนสถานการณ์ระบาดผ่อนคลายลง ขณะที่ในระยะสั้นอาจกระทบจากการรายงานผลประกอบการที่อ่อนแอลงมาก และการปรับลดอันดับเครดิต

การประกาศแผนปรับตัว คาดส่งผลให้ดัชนีตอบรับในเชิงลบ การประกาศหยุดบินทั้งเที่ยวบินในประเทศและระหว่างประเทศของสายการบินเกือบทุกสายในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับการประกาศเลื่อนการประชุมสามัญและการจ่ายปันผลของ CPN ออกไปไม่มีกำหนด (โดยจะมีการชี้แจงแนวทางบริหารจัดการเพื่อลดผลประทบจาก Covid-19 ในช่วงเย็นวันนี้) คาดเป็นปัจจัยกดดันทางจิตวิทยาให้นักลงทุนเพิ่มความระวังมากขึ้นต่อกลุ่มที่ได้รับผลกระทบทางตรงจากสถานการณ์ระบาด ขณะที่กลุ่มพลังงานยังมีโอกาสผันผวนตามราคาน้ำมันดิบหลังใกล้ถึงกำหนดสิ้นสุดการปรับลดกำลังการผลิต 31 มี.ค.63 ทำให้ราคาน้ำมันดิบคาดจะผันผวนในทางลง ส่งผลบวกต่อหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการบริโภคน้ำมัน อาทิ SCC

ภาพรวมกลยุทธ์ SET Index มีโอกาสย่อหลังยังไม่ผ่าน 1,120 จุด โดยมีแนวรับที่ 1,082 และ 1,064 จุด (การฟื้นต่อไม่ควรหลุด 1064 จุด) ควรแบ่งทำกำไร และภาพรวมวางกลยุทธ์เก็งถึงแค่ก่อนงบออกและกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง // หุ้นแนะนำวันนี้ ทยอยสะสม BPP*, INTUCH, CPF*, CPALL*, EGCO, RATCH

แนวรับ 1,064-1,082 / แนวต้าน : 1,100-1,133 จุด สัดส่วน : เงินสด 70% : พอร์ตหุ้น 30%

ประเด็นการลงทุน

ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ต่ำสุดในรอบ 3 ปี - ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือน มี.ค.ปรับตัวลงสู่ระดับ 89.1 โดยน้อยกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาดที่ 90.0 และต่ำกว่าตัวเลขของเดือน ก.พ.ที่ 101 ทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี รับพิษไวรัส Covid-19

กู้เงิน 2 แสนล้าน คลังจ่อลุยมาตรการเฟส 3 - ดร.สมคิด เล็งออก พ.ร.ก.กู้เงินกว่า 2 แสนล้านบาท เยีบวยาผลกระทบ Covid-19 ด้าน อุตตม เร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 3 อัดเงินเสริมความแข็งแกร่งฐานราก

TRUE - บอร์ด TRUE อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารการเงิน โดยใช้วงเงินสูงสุดไม่เกิน 1.5 พันลบ. ซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 500 ล้านหุ้น หรือประมาณ 1.5% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยเป็นการซื้อในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กำหนดระยะเวลาที่จะซื้อหุ้นคืน ตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย.-13 ต.ค.63

ยอดผู้ขอรับเงินช่วยเหลือผลกระทบ Covid-19 ล่าสุดอยู่ที่ 18.6 ล้านราย สูงกว่าเป้าหมายของรัฐที่ 3 ล้านรายมาก และทำให้น่าจะต้องใช้เวลาเพื่อตรวจสอบความถูกต้องเพิ่มขึ้น

ค่าระวางเรือ – ล่าสุดอยู่ที่ 556 เปลี่ยนแปลง -13.00 หรือ -2.28%

ประเด็นติดตาม: 31 มี.ค. ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย, China Manufacturing PMI เดือน มี.ค. / 1 เม.ย. – US Manufacturing PMI เดือน มี.ค. / 3 เม.ย. – US Employment report

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)