ผู้ติดเชื้อเพิ่ม ราคาน้ำมันลง

โดยดัชนียังคงเผชิญปัจจัยกดดันจากจำนวนผู้ป่วยจากไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการคาดการณ์แนวโน้ม GDP ไทยปีนี้หดตัวราว 5.3% อย่างไรก็ดี ตลาดได้ปัจจัยบวกจากต่างประเทศ หลังสหรัฐได้รับอนุมัติการทำ QE ไม่จำกัดวงเงิน และมาตรการกระตุ้นอัดฉีดเศรษฐกิจในวงเงิน 2 ล้านล้านดอลลาร์ โดยในวันศุกร์ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,099.76 จุด (+7.8 จุด) Volume 6.2 หมื่นลบ. ต่างชาติ 232.48 ลบ. TFEX Net +639 สัญญา ตราสารหนี้ +2,545 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ดร.สมคิดมอบหมายให้ก.คลังพิจารณาแนวทางการออกพ.ร.ก.กู้เงินกว่า 2 แสนล้านบาทนำมาใช้ในการกระตุ้นศก. และเร่งจัดทำมาตรการระยะ 3

-ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 915.39 จุด -4.06% แม้สภาฯสหรัฐอนุมัติมาตรการเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจวงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ แต่ตลาดยังคงวิตกเกี่ยวกับภาวะศก.และจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐที่เพิ่มขึ้นแซงหน้าจีน  สัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีดาวโจนส์ +12.8% ปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2481 เช้านี้ ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงกว่า 300 จุด

-ราคาทองคำปรับตัวขึ้นในฐานสินทรัพย์ปลอดภัยหลังดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงจากความกังวลเรื่องผู้ติดเชื้อ COVID-19 ของสหรัฐแซงหน้าจีนไปแล้ว

-ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 1.09 ดอลลาร์ -4.8% ปิด 21.51 ดอลลาร์/บาร์เรล เช้านี้ร่วงต่อกว่า 5% หลุดระดับ 21 ดอลลาร์/บาร์เรล

-ทั่วโลกติดเชื้อโควิด-19 ทะลุ 720,000 ราย สหรัฐมียอดติดเชื้อสูงสุดที่ 140,886 ราย ในไทยศบค.เผยยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 143 ราย หนุนยอดสะสมเพิ่มเป็น 1,388 ราย

-เช้านี้ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดลดลง 463.43 จุด, -1.97%

-เช้านี้ดัชนีนิกเกอิเปิดร่วง 505.36 จุด  -2.61% วิตกโควิด-19 กระทบเศรษฐกิจ

-สมาคมค้าปลีกฯประเมินผลกระทบปิด 1 เดือนสูญเงิน 2 แสนล้านบาท ปิด 3 เดือนหาย 6 แสนล้านบาท

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 1.12 แสนลบ. ค่าเงินบาท 32.56 บาท/US

*จับตาสหรัฐเผยยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.พ. ส่วนอียูเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงตามทิศทางตลาดโลก หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุดสหรัฐได้แซงหน้าจีนและอิตาลีขึ้นเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด ประกอบกับแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลงแรง -4.8% คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,060-1,115 จุด

หุ้นรายงานพิเศษ

PSTC (ซื้อ ราคาเหมาะสม 0.44)

• ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 63-64 ลง 38% และ 16% จากเดิมเพื่อสะท้อนผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัวแรง เราปรับลดประมาณการกำไรปี 63 จาก 159 ล้านบาทสู่ 98 ล้านบาทจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 (สมมติฐานปิดเมือง 3 เดือนตั้งแต่ มี.ค.63-พ.ค.63) และปรับลดคาดการณ์กำไรปี 64 ลงจาก 166 ล้านบาทสู่ 140 ล้านบาท
• โครงการท่อขนส่งน้ำมันไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือเริ่มดำเนินการปรับพื้นที่เพื่อวางท่อขนส่งน้ำมัน โดยคิดเป็นความคืบหน้า 21% ของโครงการทั้งหมด อย่างไรก็ตามเราคาดว่าโครงการดังกล่าวจะล่าช้า 3 เดือนเนื่องจากผลกระทบของ COVID-19 จาก 4Q64 เป็นแล้วเสร็จและเริ่มรับรู้รายได้ต้นปี 65 ขณะที่แผนย้ายเข้า SET ภายใน 2Q63 อาจต้องเลื่อนออกไปหลังราคาหุ้นปรับตัวลงต่ำกว่าเกณฑ์ Market Cap
• ฝ่ายวิจัยประเมินมูลค่าด้วยวิธี Sum of the part ได้ราคาเหมาะสมใหม่ลดเหลือ 44 บาทต่อหุ้นลดลงจาก 0.88 บาทต่อหุ้น เนื่องจากราคาเหมาะสมของโครงการท่อขนส่งน้ำมันปรับตัวลงจาก 0.64 บาทต่อหุ้นสู่ 0.23 บาทต่อหุ้นเนื่องจากคาดว่ารายได้จากท่อขนส่งน้ำมันจะปรับตัวลงตามราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างมาก

 

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้น Defensive (RATCH TTW ADVANC CHG)
• หุ้น High Dividend Yield (KKP TISCO INTUCH)
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก Lockdown (MAKRO BJC CPALL TU TFMAMA)
• หุ้นได้ประโยชน์จากการส่งเสริมการทำงานที่บ้าน (ADVANC INTUCH DTAC TRUE JAS JASIF DIF COM7 SIS SYNEX)

ส่องหุ้น

          COM7​​  แนวรับ 14.50-14.40 บาท​​   ​     แนวต้าน 15.60-16.00 บาท

          AU​​      แนวรับ 6.60 บาท​​​​                    แนวต้าน 6.85-6.95 , 7.60-7.65 บาท

          M​​        แนวรับ 44.50-44.00 บาท​​​        แนวต้าน 46.75 , 51.50-52.00 บาท

หุ้นมีข่าว   

·         (+) TQM (Bloomberg Consensus 73.00 บาท) เผยงบฯไตรมาส 1/63 ดีกว่าคาดแน่นอน เตรียมเพิ่มเป้าเบี้ยประกันปีนี้ขึ้นอีก จากเดิมตั้งไว้ 1.5 หมื่นล้านบาท เติบโต 15-16% หลังกรมธรรม์โควิด-19 ยอดทะลุ 1 ล้านกรมธรรม์แล้ว จากที่ขายให้กับบมจ.วิริยะประกันภัยด้วย และยอดขายยังพุ่งทุกวัน โบรกฯ ชี้ TQM เป็นหุ้นหลบภัยที่ดีมาก ส่วน Bloomberg consensus ยังแนะนำ “ซื้อ”  (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         (-) CENTEL (Bloomberg Consensus 24.02 บาท)  ประกาศปิดให้บริการโรงแรมและรีสอร์ตในเครือเซ็นทาราในไทยบางแห่ง และโรงแรม 2 แห่งในมัลดีฟส์ในเดือน เม.ย.นี้ เพื่อร่วมป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         (-) ผู้โดยสารรถไฟฟ้าวูบ! หลังประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ล่าสุดสายสีน้ำเงินใต้ดินเหลือผู้โดยสาร 1.2 แสนคน/วัน “รฟม.” คาดไตรมาสแรกผู้โดยสารร่วงไม่ต่ำกว่า 50% เชื่อ BEM เตรียมยื่นขอชดเชยจากภาครัฐตามสัญญาสัมปทาน ส่วน BTS ผู้โดยสารหดเหลือ 2.2 แสนคน/วัน จากปกติ 8.5 แสนคน/วัน (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         (+/-) 3 ค่ายมือถือ รับลูก “กสทช.” ลุยขยายแบนด์วิธรองรับช่วงโควิด-19 นำโดย TRUE ขยายแบนด์วิธเป็น 3 เท่า รองรับการใช้งาน ฟาก DTAC-ADVANC ติดตั้งเครือข่าย 4G/5G เพิ่มสัญญาณ สนับสนุนการปฏิบัติงานโรงพยาบาลสนาม-ดูแลผู้ป่วย (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         (+/-) GPSC (Bloomberg Consensus 85.16 บาท) ปิดดีลซื้อโซลาร์ฟาร์ม 9 โครงการ 39.50 MW มูลค่ารวม 3,070 ล้านบาท ส่วน RATCH จับมือ “NNCL-พีอีเอ เอ็นคอมฯ” สร้างโรงไฟฟ้า 40 MW ใน จ.นครราชสีมา มูลค่า 2,176 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

·         (+) TKN (Bloomberg Consensus 7.98 บาท)  เผยออเดอร์จีนฟื้น หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย หนุนผลงานไตรมาส 2/2563 ดีขึ้น พร้อมคุมเข้มต้นทุนค่าใช้จ่ายหวังรักษากำไรให้เติบโตดีต่อเนื่อง ขณะที่ควักทุน 100 ล้านบาท ซื้อคืน 20 ล้านหุ้น ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. - 9 ต.ค.นี้ ล่าสุดเลื่อนประชุมผู้ถือหุ้น ปรับการจ่ายปันผลเป็นปันผลระหว่างกาล ในอัตราเดิมหุ้นละ 0.15 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

·         (+) COM7 (Bloomberg Consensus 29.67 บาท)  ยิ้มรับกระแสตอบรับเช่าอุปกรณ์และโน้ตบุ๊กสดใส หลังเกิดไวรัสโควิด-19 บิ๊ก "สุระ คณิตทวีกุล" ปรับแนวทางบริหารภายใน ดีเดย์แบ่งทีมทำงานที่บ้าน หวังป้องกันความเสี่ยงโควิด-19 ในอนาคต ด้านโบรกเกอร์ ฟันธงจุดต่ำสุดอยู่ที่ไตรมาส 2/2563 ก่อนฟื้นตัวแรงในไตรมาส 4/2563 พร้อมเชียร์สอย เคาะเป้าหมาย 22 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

·         (+) BCH (Bloomberg Consensus 18.57 บาท)   เปิดบริการตรวจเชื้อโควิด-19 (Drive Thru Test) เผยมีผู้รับบริการกว่าวันละ 100-150 คน เผย รพ.ในเครือมีความพร้อมทั้งแพทย์และเตียง สถานที่ เผยเดินหน้าเปิดเกษมราษฎร์ อรัญประเทศ พฤษภาคมนี้ โบรกมอง BCH เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มโรงพยาบาล จากกำไรเติบโตดี อานิสงส์การเพิ่มค่าประกันสังคม (ที่มา ทันหุ้น)

·         (+) ZIGA (Bloomberg Consensus - บาท)  บอร์ด ZIGA ไฟเขียวทุ่มงบ 30 ล้านบาท ซื้อหุ้นคืน บริหารทางการเงิน เพิ่มผลตอบแทนผู้ถือหุ้น สร้างรายได้-กำไรในอนาคต แย้มมีลุ้นคว้างานใหม่อีก 70 ล้านบาท คาดชัดเจนเร็วๆ นี้ พร้อมใส่เกียร์ปั๊มมาร์จิ้นโตต่อ คาดอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 9% จากปีก่อนทำได้ 7.91% ส่วนยอดขายเชื่อใกล้เคียงปีก่อน 795 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)