AAV เล็งทบทวนแผนลงทุนปีนี้ หลังประกาศหยุดบินทุกเส้นทางชั่วคราว

AAV เล็งทบทวนแผนลงทุนปีนี้ หลังประกาศหยุดบินทุกเส้นทางชั่วคราว

AAV แจ้งไทยแอร์เอเชีย ประกาศหยุดบินชั่วคราวในทุกเส้นทางบิน ผู้บริหารระดับสูง พนักงานระดับอาวุโสของ สมัครใจรับเงินเดือนที่ลดลงอัตรา 75-10% หวังลดผลกระทบต่อพนักงานในภาพรวม ยันสภาพคล่องทางการเงินยังดีอยู่ พร้อมจัดหาเพิ่มได้ เล็งทบทวนแผนการลงทุนปีนี้

นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน)หรือAAV ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ว่า แนวทางการบริหารจัดการเพื่อลดผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) และเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการจำกัดด้านการเดินทาง รวมถึงเพื่อให้ความร่วมมือกับการประกาศการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558 หรือ พ.ร.ก ฉุกเฉิน เพื่อการป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 ดังนั้นไทยแอร์เอเชีย ประกาศหยุดบินชั่วคราวในทุกเส้นทางบินดังต่อไปนี้


เส้นทางบินระหว่างประเทศ มีจำนวนผู้โดยสารคิดเป็นร้อยละ 41ของจำนวนผู้โดยสารในปี 2562 ประกาศหยุดบินชั่วคราวในเส้นทางบินระหว่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค. - 25 เม.ย 2563 เส้นทางบินภายในประเทศ มีจำนวนผู้โดยสารคิดเป็นร้อยละ 59ของจำนวนผู้โดยสารในปี2562 ประกาศหยุดบินชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1-30 เม.ย.2563

สำหรับการลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย การบริหารจัดการด้านต้นทุน ผู้บริหารระดับสูง และพนักงานระดับอาวุโสของ บริษัท ไทยแอร์เอเชีย ได้สมัครใจรับเงินเดือนที่ลดลงตามระดับตำแหน่งอยู่ระหว่างร้อยละ 75 ถึงร้อยละ 10ซึ่งจะช่วยให้องค์กรสามารถก้าวผ่านช่วงเวลาที่ความต้องการในการเดินทางลดลงอย่างมากได้ อีกทั้งเพื่อลดผลกระทบต่อพนักงานในภาพรวม


ทั้งนี้โดยทั่วไปค่าใช้จ่ายแปรผัน (Variable Expense) คิดเป็นร้อยละ 70ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทั้งนี้การหยุดบินชั่วคราวสามารถลดค่าใช้จ่าย อาทิ ค่าชั่วโมงบิน ค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิง ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาส่วนแปรผัน ค่าใช้จ่ายในสถานี ค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค รวมถึงค่าใช้จ่ายการบริหารทั่วไปจากนโยบายให้ทำงานจากที่บ้าน (Work From Home)

นอกจากนี้บริษัท ไทยแอร์เอเชีย ได้ระงับการเดินทางที่ไม่จำเป็นของพนักงานและระงับการสรรหาพนักงานใหม่ไว้ชั่วคราวพร้อมทั้งยังคงแสวงหามาตรการลดต้นทุนเพิ่มเติม

ด้านสภาพคล่องและฐานะการเงินนั้น บริษัทให้ความสำคัญในการเตรียมความพร้อมด้านสภาพคล่องให้สามารถดำเนินการอยู่ได้อย่างต่อเนื่องเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ท้าทาย โดย ณ สิ้นปี 2562 บริษัทฯ มีเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นจำนวน 3,982 ล้านบาท ตามที่ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2563 ว่าด้วยการเข้าทำธุรกรรมขายอากาศยานและเช่ากลับ จำนวน 9 ลำและขายอากาศยานจำนวน 1 ลำโดย บริษัท ไทยแอร์เอเชีย ได้ทำธุรกรรมแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 12 มี.ค.2563ซึ่งมีเงินสดสุทธิที่ได้รับภายหลังการชำระคืนเงินกู้และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ประมาณ 3,600 ล้านบาท


นอกจากนี้ ไทยแอร์เอเชีย ยังมีวงเงินสินเชื่อสำหรับเงินทุนหมุนเวียนที่สามารถใช้ได้เพิ่มเติมและมีความสามารถในการจัดหาสภาพคล่องเพิ่มเติมจากเครื่องบินที่ไม่มีภาระผูกพัน และหรือวิธีการอื่นๆ


อย่างไรก็ตาม ไทยแอร์เอเชีย อยู่ระหว่างการทบทวนแผนการลงทุน โดยบริษัทอาจจะระงับหรือชะลอการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง และบริษัทกำลังพิจารณาจำนวนฝูงบินให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันและอาจระงับการจัดหาเครื่องบินเพิ่มในปีนี้ ขณะที่ไทยแอร์เอเชีย ได้ดำเนินงานตามแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ (BCP) เพื่อให้แน่ใจว่าดำเนินงานได้โดยปราศจากความเสี่ยงและเพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้บริษัทฯ และบริษัทย่อย ยังคงติดตามสถานการณ์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมในการกลับมาให้บริการอีกครั้งโดยเร็วที่สุด เมื่อสถานการณ์ หรือกฎระเบียบต่างๆ คลี่คลายลง