ลงทะเบียนรับเงินเยียวยา 'เราไม่ทิ้งกัน' วันแรกเกือบ 14 ล้านคน

ลงทะเบียนรับเงินเยียวยา 'เราไม่ทิ้งกัน' วันแรกเกือบ 14 ล้านคน

โฆษก​ ศบค.​ ยืนยันประชาชนแห่ลงทะเบียนรับเงินเยียวยาวันแรกสูงถึง 13.9 ล้านคน​ ย้ำ​หากเข้าเกณฑ์​ รับเงินเร็วที่สุด​ 7​ วัน​ ขอตรวจสอบเว็บไซต์ก่อนลงทะเบียนป้องกันข้อมูลส่วนตัวรั่วไหลหากพบหักหัวคิวมีโทษตามกฎหมาย

วันนี้ (29 มี.ค.) นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน​ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข​ และโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19​ หรือ ศบค. ระบุ​ถึงมาตราการลงทะเบียนออนไลน์​ รับเงินเยียวยา​ 5​ พันบาท​ระยะเวลา​ 3​ เดือน​ ​ให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19​ จากกระทรวงการคลัง​ ซึ่งยอมรับว่าทันทีที่เปิดลงทะเบียนมีผู้ประสงค์​ต้องการเข้าเว็บไซต์พร้อมกันถึง​ 20​ ล้านคน​ ทำให้ระบบไม่สามารถ​รองรับได้แต่สามารถแก้ไขกู้ระบบได้ภายใน​ 2​ ชั่วโมง​ และขณะนี้ตัวเลขล่าสุดเวลา​ 11.00​ น.​ สามารถลงทะเบียนได้แล้วกว่า​ 13.9 ล้าน​ คน​ ถือว่ามากและครั้งแรกของไทยที่มีการใช้บิ๊กดาต้าขนาดใหญ่ที่เกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนทร่เกี่ยวข้อง​ พร้อมขอประชาชน​ตรวจสอบเว็บไซต์ลงทะเบียนให้รอบครอบ​ เนื่องจากมีเว็บไซต์ปลอมมากถึง​ 44​ แห่ง​ ซึ่งมีเจตนาสร้างความสับสน​ และก่อให้เกิดการรั่วไหล​ของข้อมูลส่วนตัวซึ่งหากเป็นเว็บไซต์จริง​ จะมีการยืนยันข้อมูลผ่านรหัส OTP และยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีกำหนดการปิดลงทะเบียน​ด้วย​

นายแพทย์ทวีศิลป์ ระบุว่า พลเอกประยุทธ์​ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนทุ่มเทสรรพกำลัง​ พร้อมขอระยะเวลาในการตรวจสอบระบบลงทะเบียนเชิงข้อมูล​ และถือว่าเป็นภารกิจหลักที่ต้องทยอยตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง​ และประชาชนที่ผ่านเกณฑ์​ทั้งหมด​จะสามารถรับเงินเยียวยาได้อย่างเร็วที่สุด​ 7​ วัน​

ด้านนายลวรณ แสงสนิท โฆษกกระทรวงการคลังระบุว่า​ การที่ประชาชนได้รับรหัส​ OTP เป็นการยืนยันว่า​ข้อมูลครบถ้วนแต่ยังต้องมีกระบวนการคัดกรองอีกขั้นหนึ่ง​ ว่าเข้าเกณฑ์​ 3​ ข้อ​ ​ผลจากการคัดกรอง​จะออกมาอย่างไรยืนยันรัฐบาลจะเยียวยา​ให้ครบถ้วน​ไม่ว่าตัวเลขสุดท้ายจะอยู่ที่เท่าไหร่​ก็ตามพร้อมย้ำว่า​ สามารถใช้บัญชี​ธนาคารใดก็ได้​ แต่ชื่อต้องตรงกับบัตรประชาชน​และยังใช้ช่องทางออนไลน์เพียงแห่งเดียวเท่านั้นเพื่อลดการรวมตัวในพื้นที่สาธารณะ​ ส่วนในกลุ่มของ​นักศึกษา​ นั้นจะไม่เข้าเกณฑ์​ที่ตั้งไว้​ ส่วนหากพบผู้กระทำผิดรับลงทะเบียนหักหัวคิว​ จะมีการดำเนินการตามกฎหมาย​เช่นกัน​

นายแพทย์ทวีศิลป์ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นายกรัฐมนตรียังให้ความสำคัญกับมาตรการ การเว้นระยะห่างทางสังคม​ พร้อมสั่งการกระทรวงมหาดไทยรายงานความคืบหน้าทั่วประเทศ​ รายวัน​ต่อตนเอง​ โดยขณะนี้​ 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้มีประกาศเพิ่มเติม​ ห้ามเดินทางเข้าออกในพื้นที่ บางหมู่บ้านและชุมชนที่มีการแพร่ระบาดสูง​ ยกเว้นการเข้าไปรักษาพยาบาลและการขนส่งสินค้าอุปโภค-บริโภคหากฝ่าฝืน​ มีโทษ​จำคุก2ปีปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท​ หรือทั้งจำทั้งปรับ​

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนถือคติ​ รวมกันติดหมู่​ แยกกันเรารอด​