คลังเผยยอดลงทะเบียนรับเยียวยาพุ่ง14ล้านคน
คลังเผยยอดลงทะเบียนรับเงินเยียวยาแตะ 14 ล้านเมื่อ11โมงเช้า ระบุ ระบบจะเปิดต่อจนกว่าจะแน่ใจคนเดือดร้อนลงครบ ย้ำผู้มีสิทธิ์ต้องคุณสมบัติครบ หากเดือดร้อนจริงแต่ถูกตัดสิทธิ์สามารถอุทธรณ์ได้
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยยอดลงทะเบียนผ่านwww.เราไม่ทิ้งกัน.comเพื่อขอรับเงินเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19)จากรัฐบาลว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.00น.มีประชาชนทยอยเข้ามาลงทะเบียนต่อเนื่อง โดยมียอดลงทะเบียนเกือบ 14 ล้านคน
"เราไม่รีบปิดการลงทะเบียน เราจะรอจนกว่าให้แน่ใจว่า ผู้เดือดร้อนมาลงครบแล้ว อน่างไรก็ดี ขณะนี้ ปัญหาการลงทะเบียนดังกล่าวไม่มี โดยตั้งแต่เช้าวันนี้ผู้ที่ลงทะเบียนสามารถลงได้ทันที ไม่มีคิวรอ เข้าใจว่า ผู้ที่ต้องการลงทะเบียนนั้นดำเนินการไปกันเกือบหมดแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยพบว่าช่วงที่ลงทะเบียนหนาแน่นคือช่วงเวลา 4 ทุ่มถึงเที่ยงคืนของวันที่ 28 มีนาคม ส่วนที่มีการรอคิว 20 ล้านคน ช่วง 5 นาทีแรกนั้น เข้าใจเป็นการนำมือถือ คอมพิวเตอร์ ในบ้านที่มีอยู่มาเปิดเพื่อรอลงทะเบียน เท่าที่เห็นแชร์ในออนไลน์เปิดรอกันเป็น 10 เครื่อง ทำให้ระบบมีปัญหาในช่วงแรกที่เปิดให้ลงทะเบียน"
หลังจากนี้ คาดว่า ตัวเลขจะเกิน 10 ล้านไปไม่มาก หรือจะเกินกว่าตัวเลขที่คลังเคยประเมินไว้ว่าจะมีการลงทะเบียน 7-8 ล้านคน ส่วนที่เกินมา คือ กลุ่มผู้ประกันตนมาตรา 39 และมาตรา40 ที่มีอยู่ 5 ล้านคน ซึ่งสำนักงานประกันสังคมขอให้กระทรวงการคลังดูแลเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ขอย้ำว่า ผู้ที่มีสิทธิ์จะต้องมีคุณสมบัติครบเท่านั้น นั่นหมายความว่า ผู้ที่ลงทะเบียนได้ก็ไม่จำเป็นต้องว่าจะได้รับเงินทุกคนต้อง เพราะผ่านเกณฑ์การตรวจสอบที่กระทรวงการคลังวางไว้ โดยกระทรวงการคลังจะนำข้อมูลลงทะเบียนตรวจเช็คกับฐานข้อมูลอื่นๆ มากกว่า 10 หน่วยงาน ดังนั้น ถ้าอยากมาลง เพื่อลองดูว่าจะได้รับเงินหรือไม่ กระทรวงการคลังก็ไม่ปิดกั้น แต่หากไม่ผ่านการตรวจสอบต้องยอมรับด้วย เพราะคนตัวที่ลงทะเบียนจะรู้ดีที่สุด แต่ถ้ามองว่า การตรวจสอบไม่ถูกต้องเป็นผู้เดือดร้อนจริงๆ แล้วไม่ผ่านเกณฑ์ สามารถอุทธรณ์ผลการพิจารณาของกระทรวงการคลังได้
สำหรับเกณฑ์ที่กระทวงการคลังวางไว้ คือ สัญชาติไทย อายุ 18 ปี ขึ้นไป ไม่มีสถานะนักเรียนหรือนักศึกษา ณ วันลงทะเบียน ไม่เป็นข้าราชการ ไม่เป็นอาชีพเกษตรกรรม ต้องเป็นผู้มีงานทำ ที่สำคัญต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 และ ต้องไม่เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ซึ่งไม่ได้รับการดูแลหรือเยียวยาจากระบบประกันสังคม
ทั้งนี้ ลูกจ้างร้านที่ถูกปิด ต้องมีหลักฐานว่า ถูกปิดกิจการ และต้องมีหลักฐานที่ระบุว่า เป็นลูกจ้าง เช่น ลูกจ้างร้านหมูปิ้ง จะต้องมีรูปถ่ายที่เคยถ่ายในร้าน หรือมีหลักฐานอื่นๆ ที่ระบุว่าเป็นลูกจ้างร้านดังกล่าว คนขับรถแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซด์ ต้องมีใบขับขี่สถานะมายืนยัน ส่วนแม่ค้าแผงลอยข้างถนน ต้องมีหลักฐานค้าขายจริง ส่วนหนึ่งมาจากฐานการลงทะเบียนหาบเร่ แผงลอย ที่เคยลงทะเบียนไว้กับธนาคารออมสิน ถ้ามีฐานข้อมูลจะได้รับเงินเร็ว แต่ถ้าไม่มีทางกระทรวงการคลังอาจขอเอกสารเพิ่ม อาจจะได้รับเงินล่าช้ากว่า 7 วันทำการ
นายลวรณ กล่าวว่า เมื่อลงทะเบียนแล้วจะมีการส่งข้อมูลแจ้งไปยังเบอร์มือถือว่าผ่านหรือไม่ภายใน 7 วัน โดยจะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มผ่านเกณณ์ จะได้รับ SMS ยืนยัน ให้รอรับเงินที่จะโอนให้ผ่านพร้อมเพย์ หรือบัญชีธนาคารที่ลงทะเบียนไว้ 2. หากไม่ผ่านจะแจ้งให้ทราบพร้อมเหตุผล สามารอุทธรณ์ได้ 3.ขอข้อมูลเพิ่มเติม เช่น หากกลุ่มที่ไม่ชัดเจนเรื่องสถานที่ทำงาน