ไทยพบผู้ป่วยโควิดเพิ่ม 143 ราย รวม 1,388 ราย-เสียชีวิตเพิ่มเป็น 7 ราย

ไทยพบผู้ป่วยโควิดเพิ่ม 143 ราย รวม 1,388 ราย-เสียชีวิตเพิ่มเป็น 7 ราย

ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 143 ราย สะสมรวม 1,388 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 คนรวมเป็น 7 คน

วันนี้ (29 มี.ค.) ที่ ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงข่าว สถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ประจำวันนี้ โดยระบุว่าวันนี้ ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 143 ราย สะสมรวม 1,388 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย รวมเสียชีวิตแล้ว 7 ราย

ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ชี้ว่า ในจำนวนผู้ป่วยทั้งหมดมี 81.6% แสดงอาการ และส่วนน้อยหรือไม่ถึง 20% ที่ไม่แสดงอาการ

ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตเป็นกลุ่มผู้ติดเชื้อในกลุ่มสนามมวย มีอายุ 68 ปี เคสใน จ.นนทบุรี ส่วนภาพรวมผู้ป่วยแต่ละจุด ได้แก่ กทม. 641 ราย ภาคใต้ 82 ราย ปริมณฑล 135 ราย และ จ.อื่นๆ 530 ราย

158547175953

ขณะที่กลุ่มพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ ได้แก่ กทม.และปริมณฑล, ชลบุรี, ภูเก็ต, 4 จังหวัดชายแดนใต้ และสระแก้ว

นพ.ทวีศิลป์ เสริมว่า รัฐบาลขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือรักษาระยะห่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนใครที่ยังปฏิบัติไม่ถูกต้อง ไม่ให้ความร่วมมือ ขอฝากให้ปรับปรุง มิฉะนั้น เจ้าหน้าที่คงต้องลงโทษขั้นเด็ดขาด

ในวันเดียวกันที่กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พร้อมด้วยนายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค และนายแพทย์บัญชา ค้าของ รองอธิบดีกรมอนามัย แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่า วันนี้มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ 11 ราย และมีผู้ป่วยเพิ่ม 143 ราย แบ่งเป็น 3 กลุ่มดังนี้

กลุ่มที่ 1 ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วย หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จำนวน 70 ราย ได้แก่ กลุ่มสนามมวย 5 ราย, กลุ่มสถานบันเทิง 15 ราย, กลุ่มผู้สัมผัสกับผู้ป่วยที่มีรายงานมาแล้ว 49 ราย และผู้ร่วมพิธีทางศาสนาที่ประเทศมาเลเซีย 1 ราย

กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 43 ราย ได้แก่ กลุ่มที่เดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยงทั้งคนไทยและคนต่างชาติ 22 ราย, กลุ่มผู้ทำงาน/อาศัย และเดินทางไปในสถานที่แออัดต้องใกล้ชิดคนจำนวนมากหรือเกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ 8 ราย กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ 8 ราย และกลุ่มอื่นๆ ตามเกณฑ์เฝ้าระวัง เช่น ปอดอักเสบไม่ทราบสาเหตุ 5 ราย

กลุ่มที่ 3 ผู้ที่ได้รับผลยืนยันทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อแต่อยู่ระหว่างรอประวัติและสอบสวนโรค 30 ราย

วันนี้มีผู้ป่วยเสียชีวิต 1 ราย เป็นชายไทยอายุ 68 ปี มีโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง และเบาหวาน มีอาการเหนื่อยหอบ เข้ารักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ตรวจพบปอดอักเสบ และภาวะวิกฤติระบบทางเดินหายใจ จึงส่งต่อไปที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า อาการไม่ดีขึ้น และเสียชีวิตวันที่ 26 มีนาคม 2563 ส่วนผู้ป่วยอาการหนัก 17 ราย มีอาการปอดอักเสบ ใส่เครื่องช่วยหายใจและเฝ้าระวังอาการใกล้ชิด ในจำนวนนี้ 1 ราย ใช้เครื่อง ECMO อาการอยู่ในภาวะวิกฤต สรุปวันนี้ มีผู้ป่วยกลับบ้านแล้ว 111 ราย รักษาในโรงพยาบาล 1,270 ราย เสียชีวิต 7 ราย รวมมีผู้ป่วยสะสม 1,388 ราย

วันนี้เป็นที่น่ายินดีของผู้ที่เดินทางมาจากประเทศอิตาลี จำนวน 83 คนที่ได้กักตัวเฝ้าระวังสังเกตอาการที่อาคารรับรองฐานทัพเรือสัตหีบ ซึ่งในวันนี้ครบ 14 วัน ทุกคนได้รับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ไม่พบเชื้อ กลับบ้านได้ทั้งหมด ทุกคนอาการปกติ

ในส่วนผู้ป่วยที่อาการวิกฤตจำนวน 17 ราย ร้อยละ 50 เป็นผู้สูงอายุที่อายุมากกว่า 70 ปี และมีโรคเรื้อรังประจำตัว จึงเป็นกลุ่มเสี่ยงที่สำคัญ ขณะนี้ประเทศไทยมีผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป จำนวน 4.7 ล้านคน (ข้อมูลจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ) จึงขอให้กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งได้แก่ ผู้สูงอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป กลุ่มคนที่มีโรคประจำตัว และกลุ่มเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปีลงมา ปฏิบัติตามมาตรการที่รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด ขอให้อยู่ในเคหสถานหรือสถานที่พัก อยู่ในบ้าน เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากสภาพแวดล้อมภายนอก และเมื่อมีอาการป่วย มีไข้ ไอ มีอาการระบบทางเดินหายใจ ให้รีบพบแพทย์โดยเร็ว เพื่อการรักษาที่ทันท่วงที ลดอัตราการเสียชีวิต

158546170914

158546171912