จับตาไวรัสระบาดรอบ 2 ในจีน ระบบคัดกรองต่างชาติอ่อนแอ

จับตาไวรัสระบาดรอบ 2 ในจีน ระบบคัดกรองต่างชาติอ่อนแอ

จีน ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดการระบาดของโรคโควิด-19 มีความเสี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดของโรคนี้ในรอบที่2  เนื่องจากระบบคัดกรองผู้เดินทางจากต่างประเทศของจีนยังไม่มีความแข็งแกร่งมากพอ ประกอบกับผู้ที่เป็นพาหะแอบแฝงหรือผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการป่วยใดๆ

จีน ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดการระบาดของโรคโควิด-19 มีความเสี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดของโรคนี้ในรอบที่2  เนื่องจากระบบคัดกรองผู้เดินทางจากต่างประเทศของจีนยังไม่มีความแข็งแกร่งมากพอ ประกอบกับผู้ที่เป็นพาหะแอบแฝงหรือผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการป่วยใดๆ

รัฐบาลจีนแถลงยืนยันว่า ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศเป็นครั้งแรก นับแต่การระบาดเริ่มต้นขึ้นเมื่อหลายเดือนก่อน ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญยิ่ง แต่ในขณะเดียวกัน จีนก็พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 34 ราย ในกลุ่มผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ

คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (เอ็นเอชซี) แจ้งว่าไม่พบกรณีการแพร่เชื้อภายในประเทศเป็นครั้งแรก นับแต่การระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มต้นขึ้นเมื่อปลายเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว และยังกล่าวด้วยว่าไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งถูกสั่งปิดเมืองไปตั้งแต่ช่วงปลายเดือนม.ค. แต่กลับมีผู้ติดเชื้อมาจากต่างแดนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ชาวอู่ฮั่นบางส่วนที่ถูกกักกันโรคอยู่แต่ในบ้านเป็นเวลากว่า 6 สัปดาห์ ได้รับอนุญาตให้เริ่มออกมาใช้ชีวิตข้างนอกได้บ้างแล้ว แต่ห้ามจับกลุ่มกันในที่สาธารณะ ห้างร้านและกิจการบางแห่งก็สามารถกลับมาเปิดดำเนินการตามปกติ  โดยเฉพาะในเขตที่ทางการประกาศว่าเป็นเขตปลอดการระบาด รวมทั้งตลาดเล็ก ๆ และร้านสะดวกซื้อต่างก็กลับมาเปิดการค้าขายอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม จีนยังคงมีมาตรการป้องกันการติดเชื้อรายใหม่จากต่างประเทศอยู่ โดยได้เปิดทำการโรงพยาบาลที่เคยใช้รักษาโรคซาร์ส ในกรุงปักกิ่งขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อเป็นสถานที่กักกันกลุ่มผู้ต้องสงสัยติดเชื้อเหล่านี้ 

ส่วนในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศจะต้องสวมใส่สายรัดข้อมืออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อติดตามการเคลื่อนไหวหลังเข้าประเทศ

อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์โกลบอล ไทม์ส ของทางการจีน รายงานว่า มีแนวโน้มสูงมากที่โรคโควิด-19 จะกลับมาระบาดระลอก 2 ในจีนแผ่นดินใหญ่ และเป็นเรื่องที่แทบจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยมีปัจจัยมาจากช่องโหว่ หรือจุดเสี่ยงในระบบคัดกรองสุขภาพ และมาตรการกักโรคผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศที่ยังไม่เพียงพอ โดยปัจจุบัน จีนมีผู้ป่วยโควิด-19 ที่มาจากต่างประเทศแล้วไม่ต่ำกว่า 400  ราย ส่วนใหญ่จะเดินทางเข้าประเทศผ่านเมืองใหญ่ อย่าง กรุงปักกิ่งและเสิ่นเจิ้น

158541637374

วานนี้ (27 มี.ค.) คณะกรรมการด้านสาธารณสุขแห่งมณฑลหูเป่ย์ของจีนออกแถลงการณ์ว่า ณ วันพฤหัสบดีที่ 26 มี.ค. ไม่พบผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่ในเมืองอู่ฮั่น หลังจากเทศบาลเมืองอู่ฮั่นได้ใช้ความพยายามเป็นเวลานานหลายเดือนในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

เมืองอู่ฮั่น ในมณฑลหูเป่ย์ของจีนกลับมาเปิดให้บริการรถโดยสารอีกครั้ง ตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา หลังจากดำเนินมาตรการล็อกดาวน์นาน 9 สัปดาห์ โดยผู้ดูแลด้านความปลอดภัยที่ประจำอยู่บนรถโดยสารแต่ละคัน จะคอยทำหน้าที่ตรวจสุขภาพผู้โดยสารทั้งหมดก่อนขึ้นรถ

ที่ผ่านมา เมืองอู่ฮั่น ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จนต้องมีการประกาศระงับการสัญจรเข้าออกเมืองตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา รวมถึงการขนส่งสาธารณะ, เที่ยวบินขาออกและรถไฟทั้งหมด เพื่อพยายามที่จะสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจีนยังไม่น่าไว้ใจ หลังพบผู้ติดเชื้อในประเทศรายแรกในรอบ 3 วัน และพบผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศรายใหม่อีก 54 คน หมายความว่าจีน พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งสิ้น 55 คน ทำให้ขณะนี้ยอดผู้ติดเชื้อในจีนมีจำนวน 81,340 ราย ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 3,292 ราย   

ล่าสุด รัฐบาลจีนประกาศลดเที่ยวบินไปประเทศอื่น โดยจำกัดให้เหลือเพียงสัปดาห์ละ 1 เที่ยวบิน ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค.นี้ ส่วนเที่ยวบินของสายการบินต่างชาติ ที่จะไปยังกรุงปักกิ่ง ให้เปลี่ยนเส้นทางไปเมืองอื่นๆ แทน และขณะนี้ตามเมืองใหญ่หลายเมือง อย่างกรุงปักกิ่ง และนครเซี่ยงไฮ้ มีคำสั่งให้ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศทุกคน ต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ยังเรียกร้องให้นานาประเทศผนึกกำลังกันหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่ที่ประชุมจี20 เห็นพ้องอัดฉีดเงินกว่า 4.8 ล้านล้านดอลลาร์ เข้าสู่ระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโลกที่ได้รับผลกระทบทั้งทางสังคม และทางการเงิน จากการระบาดครั้งนี้