การเมือง...เรื่องไข่ไข่......ส่องราคาไข่ไก่รัฐบาลไทยในอดีต

การเมือง...เรื่องไข่ไข่......ส่องราคาไข่ไก่รัฐบาลไทยในอดีต

ครั้งหนึ่งเคยมีการนำ ราคาไข่ไก่ เป็นดัชนีวัดฐานะทางการเมืองของรัฐบาลชุดต่างๆ ถึงความสามารถในการดูแลประชาชน

ประเทศไทยผลิตไข่ไก่วันละประมาณ 41,000,000 ฟองและบริโภคในประเทศประมาณ 39,000,000 ฟอง ทำให้มีส่วนเหลือเพื่อการส่งออก ที่มีมูลเฉลี่ยปีละเกือบพันล้านบาท โดยการส่งออก 2 เดือนแรกปีนี้ ส่งออกไปแล้ว 88 ล้านบาท ขณะที่ช่วงเดียวกันปีก่อน ส่งออกไปมูลค่า 182 ล้านบาท

 ดังนั้น ปัญหาไข่ไก่ขาดแคลนและมีราคาสูงตอนนี้ ไม่น่าจะมาจากปัญหาการส่งออก แต่ก็อย่าเพิ่งรีบสรุปว่าไข่ไก่ที่หายไปจากตลาดจนทำให้ราคาสูงนั้นมาจากเรื่องใดเรื่องหนึ่งเท่านั้น 

158540807510

อีกด้านหนึ่งของ"ไข่ไก่" โปรตีนขั้นพื้นฐานราคาถูก ของประชาชนทุกชนชั้น ทุกระดับรายได้  ที่เมื่อมีราคาแพงขึ้นมา นั่นหมายถึง ทุกข์ขั้นพื้นฐานที่เข้าถึงครัวเรือนประชาชนทุกคน

ครั้งหนึ่งเคยมีการนำ ราคาไข่ไก่ เป็นดัชนีวัดขีดความสามารถทางการเมืองของรัฐบาลชุดต่างๆ ในการดูแลประชาชน ซึ่งแม้ราคาไข่ไก่จะบอกไม่ได้ทั้งหมดว่าเศรษฐกิจในช่วงรัฐบาลนั้นดี หรือ แย่แค่ไหน เพราะมีปััจจัยเงินเฟ้อเป็นองค์ประกอบด้วย แต่ราคาไข่ไก่ของแต่รัฐบาลที่ผ่านมาก็พออาจกำลังบอกใบ้ว่า สถานะทางการเมืองของรัฐบาลนั้นๆหนักแน่นแค่ไหน 

เริ่มที่ รัฐบาลอภิสิทธื์ เวชชาชีวะ ช่วงปี 2551-2553  แต่ขอใช้ราคาเฉลี่ยที่ปี 2553 ที่ราคาเฉลี่ยไข่ไก่สดคละหน้าฟาร์ม ฟองละ 2.65 บาท ถือว่าเป็นราคาที่สูงจนเกิดนโบาย“ไข่ไก่ชั่งกิโล”  เพื่อลดต้นทุนจากกระบวนการขายจากฟาร์มถึงผู้บริโภค ที่ต้องใช้เครื่องคัดแยกขนาดไข่ไก่ และการจัดวางไข่ไก่ลงแผงเพื่อป้องกันการแตกเสียหายระหว่างขนส่ง แต่นโบายนี้ไม่ได้ไปต่อเพราะถือว่าความพยายามเปลี่ยนวิถีการค้าอย่างนี้ไม่เป็นผล 

ขณะที่ช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ช่วงปี 2554-2557  ราคาเฉลี่ยปี 2555 ไข่ไก่อยู่ที่ฟองละ 2.56 บาท ขณะนั้นราคาไข่ไก่ในฟากฝั่งผู้บริโภคไม่ใช่ปัญหาแต่ปัญหาจะไปอยู่ที่ฟากผู้เลี้ยงซึ่งก็มีคณะกรรมการไข่ไก่และผลิตภัณฑ์ หรือ เอกด์บอร์ด ดูแลอยู่ ส่วนการส่งออกช่วงนั้น มีมูลค่า 460 ล้านบาท 

สถานการณ์ทางการเมืองขณะนั้นก็ร้อนแรงจนเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบหน้ามือเป็นหลังมือประเทศไทยเดินทางจนมาถึงรัฐบาลรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ช่วงปี 2557-2562ขณะนั้นราคาไข่ไก่อยู่ที่ ฟองละ 2.69 บาท ถือว่าสูงใช้ได้แต่สถิติมีไว้เพื่อทำลาย กระทั่งรัฐบาลประยุทธ์2  ช่วง 3 เดือน(ม.ค.-มี.ค.)เฉลี่ยฟองละ2.74 บาท หากพิจารณาเฉพาะมี.ค. 2563ที่ฟองละ 2.73 บาท สูงกว่าเดือนเดียวกันปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 2.62 บาท 

หากเปรียบเทียบราคาไข่ไก่ย้อนหลังในรัฐบาลต่างบอกได้เลยว่า “ไข่ประยุทธ์2นำโด่งที่สุด” อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในวันนี้ ไม่เหมือนกับช่วงเวลาไหนๆที่ผ่านมา เพราะไข่ไก่ไม่เพียงมีราคาแพงแต่การหาซื้อยังหาซื้อยากอีกด้วย  เกิดคำถามว่าไข่ไก่ หายไปไหน 

สุเทพ สุวรรณรัตน์ นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ภาคใต้ กล่าวว่า ปัจจุบันราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มเฉลี่ย 2.80 บาทต่อฟอง ขณะที่ภาคใต้ราคาอยู่ที่ 2.90-3.00 บาทต่อฟอง ซึ่งเป็นราคาที่ผู้ผลิตตกลงกับกระทรวงพาณิชย์ไม่ให้เกินกว่า 3 บาทต่อฟอง โดยเกษตรกรยืนยันว่าไข่ไก่ไม่ขาดแคลน และมีผลผลิตออกวันละ 40-41 ล้านฟอง

“พบมีผู้ค้าไข่และพ่อค้าคนกลางที่อยากมีกำไรในช่วงนี้กว้านซื้อไข่ไปจำหน่ายต่อเพื่อทำกำไร ซึ่งทำให้เกิดดีมานด์เทียมและทำให้ประชาชนเข้าใจว่าขาดตลาด จึงขอให้ภาครัฐเร่งตรวจสอบกรณีนี้ และขอกรมปศุสัตว์ช่วยดูแลการขายไข่ไก่ข้ามเขตด้วย เนื่องจากมีพฤติกรรมของคนบางกลุ่มที่กว้านซื้อไข่ไก่แต่ละเขตเพื่อข้ามไปจำหน่ายในเขตอื่น”

ส่วนข้อมูลจากจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่าประชาชนซื้อไข่ไก่จนความต้องการเพิ่ม 2-3 เท่า ในช่วงนี้ คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.)จึงเห็นชอบให้กระทรวงพาณิชย์ประกาศห้ามส่งออกไข่ตั้งแต่26 มี.ค. รวม 7 วัน และหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นจะขยายเวลาเพิ่ม 

“ราคาหน้าฟาร์มอยู่ที่ 2.80-2.90 บาทต่อฟอง การที่จะขายไปถึงปลายทางไม่ควรเกิน 3.30-3.50 บาทต่อฟอง แต่หากจำหน่ายราคาสูงมากกว่าที่ควรจะดำเนินการข้อหาค้ากำไรเกินควร ซึ่งโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”   

ขณะที่เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยถึงแผนเพิ่มปริมาณไข่ไก่เข้าสู่ตลาดว่า  ปัจจุบันมีแม่ไก่ไข่ยืนกรง 49 ล้านตัว ให้ผลผลิตไข่สด 41 ล้านฟองต่อวัน โดยบริโภคในประเทศ 39 ล้านฟองต่อวัน โดยกรมปศุสัตว์แจ้งให้ฟาร์มไก่ไข่ทั่วประเทศยืดอายุการเลี้ยงแม่ไก่ยืนกรงออกไปตามที่แต่ละฟาร์มเห็นว่าเหมาะสม จากเดิมกำหนดปลดแม่ไก่ยืนกรงที่อายุ 80 สัปดาห์ เพื่อเพิ่มปริมาณไข่ไก่เข้าสู่ตลาด

รัฐบาลกำลังระดมทุกภาคส่วนเพื่อแก้ไขปัญหาทั้งราคาและปริมาณไข่ไก่ในตลาด นอกจากออกมาตรการแล้วก็ยังออกไล่จับพ่อค้าทีี่ขายเกินราคาควบคู่ไปด้วย แต่ดูเหมือนสถานการณ์ยังไม่มีแนวดีขึ้น ก็เป็นหน้าที่ของประชาชนเพราะโควิด-19 ไม่ใช่โรคที่เข้าจู่โจมเฉพาะสุขภาพร่างกายมนุษย์แต่โควิดยังจู่โจมเศรษฐกิจอันเป็นเสถียรภาพขั้นพื้นฐานของการเมืองในทุกยุคทุกสมัย ว่าด้วยเรื่องการเมือง....เรืองไข่ไข่นั่นเอง