'ทรัมป์' ประเมินความเสี่ยง COVID-19 หวังเปิดประเทศตามแผนเม.ย.

'ทรัมป์' ประเมินความเสี่ยง COVID-19 หวังเปิดประเทศตามแผนเม.ย.

“ทรัมป์” ประเมินความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วประเทศ หวังเปิดประเทศได้ตามแผนช่วงเดือนเม.ย.นี้ แม้มีกระแสเสียงคัดค้านจากทีมแพทย์ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ในสหรัฐยังรุนแรง

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ แจ้งต่อผู้ว่าการรัฐต่างๆ ทั่วสหรัฐว่า ทางรัฐบาลจะประเมินความเสี่ยงด้านการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ตามเขตต่างๆ และจัดอันดับความเสี่ยงตามผลลัพธ์ที่ได้ เพื่อกำหนดแนวปฏิบัติใหม่ให้ผู้มีอำนาจในพื้นที่ต่างๆ นำไปใช้ประกอบการตัดสินใจว่าจะเพิ่ม ลด หรือคงมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่ใช้อยู่ในปัจจุบันต่อไป

ทั้งนี้ เขตปกครองต่างๆ ในสหรัฐอาจมีการใช้มาตรการควบคุมในระดับที่แตกต่างกันตามผลการประเมินที่ออกมา

ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้น หลังประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวว่า เขาต้องการให้เศรษฐกิจสหรัฐกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้งภายในเทศกาลอีสเตอร์นี้ แม้ว่าจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ยังคงพุ่งขึ้นในสหรัฐ โดยเทศกาลอีสเตอร์ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 12 เม.ย. ซึ่งหมายความว่าประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐภายในเวลาไม่ถึง 3 สัปดาห์

“เราจะเปิดประเทศ เพราะเราต้องทำเช่นนั้น และผมต้องการเปิดประเทศภายในช่วงอีสเตอร์” ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าว

ท่าทีของผู้นำสหรัฐที่ต้องการรีบเปิดสังคมอเมริกันให้กลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ตามปกติ ขัดกับความเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขหลายคนที่เตือนว่า การยกเลิกมาตรการจำกัดควบคุมทางสังคมเพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจ กับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสนั้นไม่สามารถไปด้วยกันได้

นายแพทย์โรเบิร์ต เมอร์ฟี ผู้อำนวยการบริหารของสถาบันสุขภาพระดับโลก ของมหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์น มีความเห็นว่า รู้สึกตกตะลึงกับแนวคิดแบบนี้ และหวังว่าจะไม่มีการผ่อนคลายเรื่องการเว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อเห็นแก่เรื่องเศรษฐกิจเร็วเกินไป

หากทำเช่นนั้นจริง จะเป็นวิธีที่น่าเศร้าเพื่อทดสอบทฤษฎีวิวัฒนาการของชาร์ล ดาร์วิน ที่เรียกกันว่า Survival of the Fittest ซึ่งกล่าวว่า วิวัฒนาการต่าง ๆ ของสิ่งมีชีวิตบนโลกนี้มาจากกระบวนการเลือกสรรของธรรมชาติ และสิ่งมีชีวิตที่เหมาะสมที่สุดกับสภาพแวดล้อมจะสามารถอยู่รอดและมีพัฒนาการต่อไปได้

โดยขณะนี้สหรัฐ เป็นประเทศที่มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 มากที่สุด โดยมีจำนวนผู้ป่วยที่ตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่อย่างน้อย 104,256 ราย (ข้อมูล ณ 28 มี.ค.63 เวลา 15.00 น.) แซงหน้าจีน ที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้จำนวน 81,782 ราย และอิตาลี ที่มีผู้ติดเชื้อ 80,589 รายส่วนยอดผู้เสียชีวิตเพราะโรคโควิด-19 ในสหรัฐ มีจำนวนกว่า 1,100 ราย