ธปท.จี้แบงก์แก้‘คอลเซ็นเตอร์’ล่าช้าแนะเพิ่มช่องทาง"อิเล็กทรอนิกส์"

ธปท.จี้แบงก์แก้‘คอลเซ็นเตอร์’ล่าช้าแนะเพิ่มช่องทาง"อิเล็กทรอนิกส์"

ธปท.แจงสั่งแบงก์ลดดอกเบี้ยทั้งกระดานเพื่อช่วยลูกหนี้ไม่ได้ แต่ละแห่งมีฐานลูกค้า-ต้นทุนต่างกัน แต่คาดหวังการช่วยเหลือที่ “มากกว่า” มาตรการขั้นต่ำของธปท. สั่งทุกแห่งเพิ่มช่องทางติดต่อลูกค้า เหตุคอลเซ็นเตอร์อย่างเดียวล่าช้า

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)นั้น เป็นเรื่องที่แต่ละธนาคารพาณิชย์ต้องพิจารณา คงบังคับให้ลดดอกเบี้ยไม่ได้ เนื่องจากฐานลูกค้า และต้นทุนทางการเงินของธนาคารแต่ละแห่งแตกต่างกัน จึงไม่สามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั้งกระดานได้ อย่างไรก็ตาม ธปท.อยากเห็นธนาคารพาณิชตย์ ออกมาตรการในการช่วยเหลือลูกค้ามากกว่ามาตรการขั้นพื้นฐานที่ธปท.กำหนด

" ปัญหาตอนนี้ คือการติดต่อของลูกค้ากับสถาบันการเงินอาจจะล่าช้า เนื่องจากส่วนใหญ่ติดต่อผ่าน Call Center เพียงอย่างเดียว ดังนั้นจึงให้สถาบันการเงินเพิ่มช่องทางการติดต่อ รับเรื่องการช่วยเหลือต่างๆผ่านช่องทางออนไลน์ด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกลูกค้าให้รวดเร็วมากขึ้น"


นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้ลูกค้านั้น ธนาคารไม่สามารถลดเหมือนกันทั้งกระดานได้ แต่จะมีการพิจารณาช่วยเหลือเป็นรายกรณีแทน ส่วนการพักหนี้นั้น ธนาคารพยายามเลื่อนให้ลูกค้าทั้งหมด อย่างไรก็ตามประเด็นตอนนี้ คือ ลูกค้าติดต่อเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทำให้การติดต่อสื่อสารค่อนข้างยาก โดยธนาคารได้นำช่องทางอิเล็กทรอนิกส์มาช่วยเพิ่มเติม พร้อมขับเคลื่อนโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท และโครงการบสย.สร้างไทยอีก 6 หมื่นล้านบาท

นายผยง ศรีวณิชกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารได้เข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ โดยพักชำระเงินต้นนาน3เดือน ส่วนลูกค้าที่มีรายได้ลดลง พักชำระเงินต้นสูงสุด12เดือน พร้อมสามารถขอสินเชื่อเพิ่มเติมจากสินเชื่อHome for Cash โดยใช้หลักประกันเดิมได้ ขณะที่ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจนอกจากพักชำระเงินต้นสูงสุด12เดือน จะขยายระยะเวลาตั๋วสัญญาใช้เงิน (P/N)และสินเชื่อTrade Financeออกไปอีก6เดือน พร้อมทำสินเชื่อกรุงไทยกู้ภัยโควิด-19ดอกเบี้ยเริ่มต้นที่2%ต่อปี คงที่2ปีแรก วงเงินกู้สูงสุด20ล้านบาท ฟรีค่าธรรมเนียม บสย. ค้ำประกัน4ปี ทำธุรกรรมโอน รับ จ่าย ไม่คิดค่าธรรมเนียมนาน1ปี

" ขณะนี้ธนาคารติดตามลูกค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การดูแลและช่วยเหลืออย่างทันท่วงที รวมทั้งเตรียมออกมาตรการเพิ่มเติมตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้ลูกค้าสามารถฝ่าวิกฤติในครั้งนี้ไปได้ ที่ผ่านมาช่วยเหลือลูกค้าไปแล้วกว่า 1,500 ราย วงเงินกว่า 30,000 ล้านบาท และมีลูกค้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการช่วยเหลือเพิ่มเติมอีกกว่า 70,000 ราย วงเงินประมาณ 250,000 ล้านบาท รวมวงเงินทั้งสิ้นกว่า 280,000 ล้านบาท"


นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. จัดทำ“โครงการธอส. ช่วยคนไทย ร่วมสร้างชาติ”เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ลูกค้าของธอส. ครอบคลุมทุกวัตถุประสงค์การกู้ 3 มาตรการคือ 1. พักชำระเงินต้นระยะ 3 เดือน วงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาทลงทะเบียนภายใน 30 มิ.ย.นี้ 2563

2. พักชำระเงินต้น 1 ปี เมื่อครบกำหนดระยะเวลาที่พักชำระเงินต้นแล้ว สามารถขยายระยะเวลาการผ่อนเพิ่มได้สูงสุดอีก 10 ปี ลงทะเบียนได้ภายใน30 เม.ย.นี้ และ 3 พักชำระเงินต้น 6 เดือนพร้อมลดดอกเบี้ยเหลือ 3.90% ต่อปี กรอบวงเงินสินเชื่อ 50,000 ล้านบาท ซึ่งลูกค้าที่มีความประสงค์จะใช้มาตรการนี้ต้องนำส่งหลักฐานให้ธนาคารผ่านMobile Application : GHB ALLที่สะท้อนให้เห็นว่าโควิด-19ส่งผลกระทบให้รายได้ลดลง ลงทะเบียนภายใน 30เม.ย.นี้ คาดว่าจะบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ลูกค้าปัจจุบันของธนาคาร ทั้ง 1.57 ล้านราย คิดเป็นกรอบวงเงินสินเชื่อรวม 1.22 ล้านล้านบาท

นางสาวชมภูนุช ปฐมพร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)(LH Bank)เปิดเผยว่า ธนาคารได้ออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือลูกค้า โดยผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระ เช่น ปลอดเงินต้นสูงสุด12เดือน และขยายระยะเวลาเงินกู้เพื่อให้ภาระการผ่อนชำระลดลง หลังหมดช่วงปลอดเงินต้น ลดดอกเบี้ยให้ลูกค้าในช่วงที่มีปัญหา สูงสุดไม่เกิน12เดือน โดยพิจารณาเป็นรายๆ ไป พร้อมเพิ่มมาตรการช่วยเหลือขั้นต่ำสำหรับลูกค้าที่ยังไม่เป็นNPLเช่น การพักชำระเงินต้น 3 เดือน และลดอัตราดอกเบี้ยตามสถานการณ์