ชป. ควบคุมความค่าเค็มต่อเนื่อง ไม่ให้กระทบน้ำดิบผลิตประปา

ชป. ควบคุมความค่าเค็มต่อเนื่อง ไม่ให้กระทบน้ำดิบผลิตประปา

กรมชลประทาน ไล่ความเค็มรุกเจ้าพระยา และแม่น้ำสายหลักต่างๆอย่างต่อเนื่อง ไม่กระทบต่อการผลิตประปา

นายดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ในฐานะโฆษกกรมชลประทาน เปิดเผยถึง สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) ปัจจุบัน(27 มี.ค. 63)มีปริมาณน้ำรวมกัน 9,367 ล้าน ลบ.ม. หรือ 38% ของความจุอ่างฯรวมกัน มีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน 2,671 ล้าน ลบ.ม. หรือ 15% ของปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน

กรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำเพื่อผลักดันค่าความเค็มที่รุกเข้าไปในแม่น้ำเจ้าพระยา ส่งผลให้ค่าความเค็มโดยรวมทรงตัวอยู่ในเกณฑ์ควบคุม โดยในวันนี้(27 มี.ค. 63) มีการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อย-บำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ รวมกันประมาณ 19.52 ล้าน ลบ.ม. พร้อมกับผันน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลองผ่านประตูระบายน้ำสองพี่น้องและประตูระบายน้ำบางปลา ลงสู่แม่น้ำท่าจีน ส่วนหนึ่งใช้ผลักดันค่าความเค็มในแม่น้ำท่าจีน อีกส่วนหนึ่งลำเลียงต่อมายังแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านคลองพระยาบรรลือ คลองพระพิมล คลองประปา และคลองมหาสวัสดิ์ รวมกับปริมาณน้ำที่ระบายผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 70 ลบ.ม./วินาที และจากเขื่อนพระรามหกอีก 4 ลบ.ม./วินาที เพื่อใช้ในการผลักดันค่าความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยาไม่ให้รุกขึ้นไปถึงบริเวณสถานีสูบน้ำดิบสำแลของการประปานครหลวง(กปน.) ที่อ.เมือง จ.ปทุมธานี

นอกจากนี้ กรมชลประทานยังได้จับมือกับ กปน. ภายใต้ปฏิบัติการ Water Hammer Operation เป็นการเพิ่มปริมาณน้ำจืด เพื่อนำไปใช้ผลักดันและเจือจางค่าความเค็มบริเวณสถานีสูบน้ำดิบสำแล ส่งผลให้ค่าความเค็มบริเวณดังกล่าวอยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยค่าความเค็มบริเวณจุดเฝ้าระวังในพื้นที่ต่างๆ (27 มี.ค. 63) วัดได้ดังนี้ แม่น้ำเจ้าพระยา       ที่สถานีประปาสำแล 0.17 กรัมต่อลิตร , แม่น้ำท่าจีน ที่สถานีปากคลองจินดา 0.22 กรัมต่อลิตร , แม่น้ำแม่กลอง ที่สถานีปากคลองดำเนินสะดวก 0.10 กรัมต่อลิตร และแม่น้ำปราจีน-บางปะกง ที่สถานีปราจีนบุรี 0.12 กรัมต่อลิตร ซึ่งแม่น้ำปราจีน-บางปะกงจำเป็นต้องควบคุมค่าความเค็มตลอดทั้งปี เพื่อให้สามารถผลิตน้ำประปาสนับสนุนโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรได้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาโรคไวรัสโควิด-19 ที่ระบาดอยู่ในขณะนี้ แต่กรมชลประทาน  ยังคงเดินหน้าบริหารจัดการน้ำ เพื่อผลักดันและควบคุมค่าความเค็มที่รุกล้ำเขามาในแม่น้ำต่างๆอย่างต่อเนื่อง  รวมทั้งยังได้สนับสนุนเครื่องจักร เครื่องมือในการผันน้ำหรือลำเลียงน้ำ อาทิ การติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำในคลองพระยาบันลือ 88 เครื่อง คลองพระพิมล 18 เครื่อง เพื่อเร่งการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาไปผลักดันและเจือจางค่าความเค็ม ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการผลิตประปาตลอดในช่วงฤดูแล้งนี้ จึงขอให้ทุกฝ่ายร่วมใจกันประหยัดน้ำด้วย