ปรับขึ้นต่อ แต่ยังคงมุมมองว่าอัพไซด์ช่วงสั้นมีน้อยแล้ว

KGI ประเมิน SET Index วันศุกร์ขึ้นต่อ แต่ช่วงสั้นมองว่าทางขึ้นมีจำกัดแล้ว และจะผันผวนสูงต่อไป... ขณะที่เมื่อวานดัชนีฯ เทรดไซด์เวย์ก่อนปิดบวกไม่แรง (ใกล้เคียงกับที่เราคาด)... ปัจจัยหลักที่น่าจะหนุนตลาดไปต่อวันนี้ ได้แก่หุ้นสหรัฐฯ ที่แรลลี่โดดเด่นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ตอบรับข่าววุฒิสภา
สหรัฐฯ อนุมัติมาตรการกระตุ้นทางการคลัง 2 ล้านล้านดอลลาร์ฯ ซึ่งจะส่งต่อให้สภาผู้แทนฯ ลงมติในคืนวันนี้ตามเวลาประเทศไทย ขณะที่เมื่อคืนนี้ประเทศกลุ่มจี-20 ได้ประชุมทางโทรศัพท์และแถลงร่วมกันว่าจะออกมาตรการทางการคลังรวม 5 ล้านล้านดอลลาร์ฯ เพื่อกอบกู้เศรษฐกิจโลกจาก Covid-19... ซึ่งเรา
มองว่าปัจจัยต่างๆ ดังกล่าวจะช่วยหักล้างแรงกดดันจากตลาดน้ำมันหลังราคาน้ำมันดิบ WTi ลดลง 4.8% ตามมติของสภาคองเกรสสหรัฐฯ ที่ยกเลิกแผนซื้อ น้ำมันดิบเข้าคลังสำรอง เนื่องจากสหรัฐฯ ต้องเก็บงบประมาณไว้กระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่... นอกจากนี้ เราคาดว่าแรงซื้อจากฝั่งสถาบันภายในประเทศน่าจะมีต่อไปในช่วงปลายไตรมาส 1/2563 หรือ window dressing หลังจากราคาหุ้นตัวหลักๆ ส่วนใหญ่ร่วงลงอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา

ในเชิง valuations ของตลาดหุ้นไทยนั้น ฝ่ายวิจัยฯ พบว่าดัชนีฯ ปรับขึ้นมาเทรดที่ forward PE2563-KGI ที่ 13.6 เท่า (คำนวณจาก EPS ปีนี้ที่ 80.0 ซึ่งน่าจะต้องปรับลงอีกในอนาคต) ซึ่งใกล้เคียงค่าเฉลี่ยของ forward PE ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และพบว่า forward earnings yield gap ลดลงมาแถว 6.0% ซึ่งแม้ว่าอยู่ในระดับที่ลงทุนได้ในระยะยาวแต่ไม่ดึงดูดเท่ากับช่วงก่อนหน้านี้... อัพไซด์ของตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นจึงน่าจะมีจำกัดแล้ว

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน 

เก็งกำไร CPALL*, BJC*, SCC* / ถัวหุ้นพื้นฐานดีต่อ

- เก็งกำไร จากประเด็นข่าวมาตรการรัฐฯ เราประเมินหุ้นค้าปลีกอย่าง CPALL* และ BJC* ที่ยังสามารถเปิดให้บริการได้ในขณะนี้ + มาตรการช่วยค่าครองชีพของภาครัฐฯ จะเป็น Sentiment บวก แนะนำ "เก็งกำไร" i) CPALL* (แนวรับ 58 บาท / แนวต้าน 62 - 64 บาท / Stop loss 56 บาท) และ ii)
BJC* (แนวรับ 39 บาท / แนวต้าน 41 - 44 บาท / Stop loss 35.5 บาท)

- SCC* (เป้าพื้นฐาน 351 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 317 บาท และ 310 บาท / แนวต้าน 330 - 342 บาท (Stop loss 300 บาท) 2) ประเมิน Sentiment บวกมาที่ธุรกิจปิโตรเคมี ราคาน้ำมันปรับลงแรง (ต้นทุนลง) ขณะที่คาดหวังดีมานด์ปิโตรเคมีฟื้นระยะสั้น จากภาคการผลิตจีน และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั่วโลก (โดยรวมคาด Spread ดีขึ้น)

- สะสมหุ้นที่คาดผลการดำเนินงานดีกว่าตลาดฯ กลยุทธ์ Dollar cost average ราคาหุ้นย่อค่อยสะสม เน้นหุ้นถูก + หนี้ต่ำ + ได้รับผลกระทบน้อย (คาดกำไร 1Q63 Outperform ไม่ลงหรือบวกสวนภาพรวมตลาดฯ)

        i) INTUCH* (เป้าพื้นฐาน 61 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 48 บาท และ 46 บาท / แนวต้าน 52 - 54 บาท ... หากต่ำกว่า 42 บาท ชะลอการลงทุนก่อน 2) ความเสี่ยงหนี้สินต่ำ DE < 1 เท่า และ Dividend yield 5.6% 3) คาดผลการดำเนินงาน 1Q63 ดีกว่าตลาดฯ ทรงๆ YoY

        ii) EGCO* (เป้าพื้นฐาน 370 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 215 บาท และ 210 บาท / แนวต้าน 230 บาท และ 240 บาท ... หากต่ำกว่า 180 บาท ชะลอการลงทุนก่อน 2) ความเสี่ยงหนี้สินต่ำ D/E < 1 เท่า และ Dividend yield +3.4% 3) คาดผลการดำเนินงาน 1Q63 ดีกว่าตลาดฯ ทรงๆ YoY

       iii) BCPG* (เป้าพื้นฐาน 22 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 11.7 บาท และ 11.4 บาท / แนวต้าน 12.3 บาท และ 13.0 บาท ... หากตํ่ากว่า 10.0 บาท ชะลอการลงทุนก่อน 2) Dividend yield 5.4% แม้ D/E 1.4 เท่า แต่ยังต่ำกว่า 2 เท่า และต่ำกว่าหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนตัวอื่นๆ 3) คาดผลการดำเนิน 1Q63 ดีกว่าตลาดฯ โตทั้ง YoY และ QoQ

หุ้นมีข่าว

(+) ก.ล.ต.เว้น"บจ."ตั้งด้อยค่า คลังพร้อมอุ้ม THAI* (ข่าวหุ้น) สภาวิชาชีพบัญชี เคาะเลื่อนตั้ง ด้อยค่าทรัพย์สิน “บจ.” ตามมาตรฐานบัญชีใหม่ ลดผลกระทบโควิด-19 THAI*, AAV*, BA และ AOT* เข้าข่ายรวมทั้ง กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม CENTEL*, ERW* และกลุ่มที่เกี่ยวข้อง ก.ล.ต.ไฟเขียวบจ.เลื่อนส่งงบQ1 ไป Q2 ได้ ด้าน “อุตตม” จับมือ “ศักดิ์สยาม” อุ้มการบินไทย มั่นใจสภาพคล่องระยะสั้น ไม่มีปัญหา

(+) กลุ่มการบริโภคค้าปลีก / - กลุ่มธนาคารและสินเชื่อ Non-bank) เปิดลงทะเบียนลดดบ.รูดปรื๊ด 'ธุรกิจบัตรเครดิต' ช่วยลูกหนี้รายกรณีเริ่ม 1 เม.ย.- 30 มิ.ย. 63 (กรุงเทพธุรกิจ) SCB* พิจารณาทุกกลุ่ม ย้ำแต่ละคนไม่เท่ากัน"ชมรมธุรกิจบัตรเครดิต" ออก 2 มาตรการช่วยลูกหนี้เพิ่มเติม ปรับลดอัตราผ่อนขั้นต่ำ
เหลือ 5% จาก 10% ทั้ง ระบบมีผลอัตโนมัติ 1 เม.ย.นี้ พร้อมลดดอกเบี้ยพิเศษ ช่วยกลุ่มรับผลกระทบโควิด-19 เป็นรายกรณี ต้องลงทะเบียนกับสถาบันการเงินภายใน30 มิ.ย.นี้ ด้าน "ไทยพาณิชย์" รับพิจารณาลดดอกเบี้ยสินเชื่อรายย่อยทุกกลุ่ม แต่ดูเป็นรายกรณี

(+) GUNKUL* จัดงบ 5 พันล้าน ดีลซื้อโรงไฟฟ้าเข้าพอร์ต (ทันหุ้น) GUNKUL* อัดฉีดงบกว่า 5 พันล้านบาท ลุยซื้อกิจการโรงไฟฟ้าที่ COD เข้าพอร์ตเพิ่ม อวดงานแบ็กล็อก EPC ในมือกว่า 8-9 พันล้านบาท รับรู้ปีนี้มีอยู่กว่า 40% พร้อมลุยชิงเค้กงานใหม่อีกกว่า 4 หมื่นล้านบาท คาดหวังได้รับงานไม่ต่ำกว่4 พันล้านบาท

(0) BDMS* ขี่กระแสโควิด หลบเลี่ยงเทนเดอร์ BH* BBL* รู้แกวชิงใช้สิทธิแปลงหุ้นกู้ฯล่วงหน้า 7 ปี (ข่าวหุ้น) “หมอเสริฐ” โหนกระแสโควิด-19 ระบาด! ให้ BDMS* ประกาศเลื่อนประชุมผู้ถือหุ้นไม่มีกำหนด หวังหลบเลี่ยงเทนเดอร์ฯซื้อหุ้น BH* 74.83% หลัง BBL* รู้แกว! ชิงใช้สิทธิแปลงหุ้นกู้แปลงสภาพของ BH* ล่วงหน้า 7 ปี ดัน “กลุ่มโสภณพนิช” ถือหุ้น BH* รวมกันเกือบ 30% ขึ้น แท่นผู้ถือหุ้นอันดับหนึ่ง