ครูสอนพิเศษชาวอังกฤษ เครียดไม่มีงานทำ กระโดดแมนชั่นดับย่านอินทามระ

ครูสอนพิเศษชาวอังกฤษ เครียดไม่มีงานทำ กระโดดแมนชั่นดับย่านอินทามระ

สลด! หนุ่มอังกฤษวัย 26 เป็นครูสอนพิเศษ เครียดไม่มีงานทำ กระโดดแมนชั่นย่านอินทามระดับคาที่



วันนี้ (26 มีนาคม 2563) พ.ต.ท.สุธิรพงศ์ ชัยศิริ สว.(สอบสวน) สน.สุทธิสาร ได้รับแจ้งเหตุมีชายชาวต่างชาติตกที่สูงเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณแมนชั่นแห่งหนึ่ง ย่านอินทามระ แขวงและเขตดินแดง กทม. หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมแพทย์เวรนิติเวช รพ.รามาธิบดี เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารที่พักอาศัยสูง 14 ชั้น บริเวณพื้นด้านหลังอาคารตรงกระถางต้นไม้ทำเป็นส่วนหย่อมติดกับที่ทิ้งขยะ พบศพนายยอร์ท สมิท เฮิร์ท ชาวอังกฤษ อายุ 26 ปี สภาพศพนอนตะแคงขวา สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีดำ จมกองเลือด มีบาดแผลศีรษะแตก หลังหัก แขนขาหักผิดรูป เบื้องต้นคาดว่าผู้ตายกระโดดลงมาจากหน้าต่างกระจกของบันไดหนีไฟชั้น 13 เพราะหน้าต่างกระจกเปิดอ้าค้างอยู่

นางขวัญอ่อน แม่ค้าขายอาหารตามสั่งใต้ถุนแมนชั่นที่เกิดเหตุ ให้การว่า ขณะที่กำลังนำขยะมาทิ้ง เห็นผู้ตายตรงจุดเกิดเหตุ จึงได้รีบโทรศัพท์แจ้งคนใกล้ชิด เนื่องจากเคยเห็นอยู่ด้วยกัน ทั้งนี้ ตนได้คุยกับ รปภ. ทราบว่า รปภ.ได้ยินเสียงของหนักตกจากที่สูงในช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 25 มี.ค.แต่ไม่ได้เดินมาดู


ทางด้าน.ส.พรพิมล อายุ 28 ปี ให้การว่า ผู้ตายเป็นครูสอนพิเศษภาษาอังกฤษ ย่านวุฒากาศ และพักอาศัยอยู่ในย่านนั้นด้วย ตนมีอาชีพขายหมวกออนไลน์ รู้จักกับผู้ตายประมาณ 6 เดือน เนื่องจากช่วงนี้ไวรัสโควิด-19 ระบาดหนัก ทำให้ผู้ตายสอนพิเศษน้อยลง และไม่มีรายได้ จึงชวนมาทำหมวกติดพลาสติกบังหน้าป้องกันไวรัสโควิด-19 โดยให้ผู้ตายทำหน้าที่ตัดพลาสติก และเมื่อสัปดาห์ก่อนผู้ตายได้มาหาเพื่อนหญิงชาวเวียดนาม ในซอยรัชดาภิเษก 19 ตนเห็นอยู่ใกล้จึงชวนมาเที่ยวที่ห้อง ก่อนกลับออกไป และเมื่อสองวันที่แล้ว ช่วงเที่ยงตนได้นัดเจอกับผู้ตายที่ร้านย่านป้อมปราบ เพื่อซื้อแผ่นพลาสติกทำหมวก โดยได้พามานอนที่ห้อง 2 คืนแล้ว และผู้ตายออกจากห้องไปช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 25 และไม่คาดคิดว่าจะมากระโดดตึกฆ่าตัวตาย เพราะไม่เคยเล่าปัญหาอะไรให้ฟัง และตนก็ไม่ได้ทะเลาะกับผู้ตายด้วย

ทางด้าน พ.ต.ท.สุธิรพงศ์ กล่าวว่า จากการสอบสวนนายวีระ รปภ.เป็นผู้เก็บโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อวีโว. ของผู้ตายได้ก่อน แต่ยังไม่เห็นศพ อาจเป็นไปได้ว่า ผู้ตายได้โยนโทรศัพท์ทิ้งลงมาก่อน และกระโดดลงมาภายหลัง ทำให้ รปภ.ไม่ได้เดินมาดูหลังได้ยินของหนักตกลงมา ทั้งนี้ การตรวจสอบห้องพักของน.ส.พรพิมล ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ตรวจภาพกล้องวงจรปิดช่วงประมาณ 20.00 น.วันที่ 25 มี.ค. ก่อนเกิดเหตุผู้ตายเดินอยู่ชั้น 13 มาที่บันไดหนีไฟ

เบื้องต้นคาดว่า ผู้เสียชีวิตเครียดปัญหาเรื่องส่วนตัว หลังจากนี้จะประสานสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ติดต่อญาติมารับศพประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป