"สแกนตลาดไข่ไก่" ผวากักตุนทำกำไร กรมการค้าภายในจับมือผู้เลี้ยงไก่ไข่ ร่วมตรวจสอบ

"สแกนตลาดไข่ไก่" ผวากักตุนทำกำไร กรมการค้าภายในจับมือผู้เลี้ยงไก่ไข่ ร่วมตรวจสอบ

ราคาขายปลีกไข่ไก่ปรับสูงขึ้น ตั้งแต่กลางเดือน มี.ค. ล่าสุดปรับขึ้น 30 สตางค์ต่อฟอง ด้านกรมการค้าภายใน ระบุราคาไข่ขึ้น เพราะความต้องการของประชาชน จากความกังวลโควิด-19 ผู้เลี้ยงไก่ภาคใต้แนะรัฐคุมซื้อข้ามเขตหวังทำกำไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์การระบาดของโควิด -19 และการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมาก ออกไปซื้อสินค้ากักตุนกัน จนสินค้าอุปโภคบริโภคมีราคาแพงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไข่ไก่ ที่ประชาชนคนไทยต้องมีติดบ้านไว้ทุกครัวเรือนมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นมากถึง 30-40 สตางค์ต่อฟอง 

จากการตรวจสอบราคาขายปลีกพบว่า ไข่ไก่มีเริ่มการปรับราคาสูงขึ้นในช่วงกลางเดือนมี.ค. โดยวันที่  16 มี.ค.ราคาไข่ไก่เบอร์ 2  ราคาฟองละ 2.00-3.10  บาท  ไข่ไก่เบอร์ 3 ราคาฟองละ 2.90-3.10  บาท สัปดาห์ต่อมาได้ขยับราคาขึ้นอีกเฉลี่ย 10-20 ส.ต.ต่อฟอง โดยวันที่  20 มี.ค.ราคาไข่ไก่ เบอร์ 2 ขยับมาอยู่ที่ 3.20 -3.30 บาท ต่อฟอง และเบอร์ 3 ขยับมาอยู่ที่  3.00-3.10 บาทต่อฟอง

และล่าสุดสัปดาห์นี้ขยับขึ้นอีก 30 สต.ต่อฟอง โดยราคาล่าสุด ณ วันที่ 25 มี.ค. ไข่ไก่เบอร์ 2 ราคา  3.50-3.60 บาทต่อฟอง ไข่เบอร์ 3 ราคา3.30-3.40 บาทต่อฟอง  โดยราคาไข่ไก่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับเดือนมี.ค.2562 ที่ผ่านมาโดย มี.ค. 62 ไข่ไก่เบอร์ 3 ฟองละ 2.76 บาท 

สำหรับผลผลิตไข่ไก่ในประเทศไทยผลิตไข่ไก่ได้ปีละกว่า 15,000 ล้านฟอง หรือประมาณวันละ 41  ล้านฟอง ไข่ไก่เกือบทั้งหมด ร้อยละ 95 ใช้บริโภคภายในประเทศ วันละประมาณ 39 ล้านฟอง หรือมีไข่ไก่คงเหลือในระบบประมาณวันละ 1 – 2 ล้านฟอง ในภาวะปกติไทยส่งออกไข่ไก่ไปประเทศฮ่องกงเป็นหลัก  90 % ของการส่งออกทั้งหมด สิงคโปร์  5  % ที่เหลือส่งออกไปพม่าและลาว   

   158520329473              

นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า  ไข่ไก่มีการปรับราคาขึ้นตามความต้องการของประชาชนที่เพิ่มมากขึ้นเพราะความกังวลโควิด-19  ซึ่งจากการติดตามของกรมการค้าภายในพบว่า ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มเคลื่อนไหวอยู่ที่ฟองละ 2.60 - 2.70 บาท และในช่วงต้นเดือนมี.ค.  ราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มปรับลดลงอยู่ที่ฟองละ 2.50 บาท ก่อนปรับตัวสูงขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คือ18 มี.ค.63  อยู่ที่ฟองละ 2.60 บาท ยอดการขายไข่ไก่ของห้างค้าปลีกขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่า จากการที่ประชาชนหาซื้อไข่ไก่ไปสำรองเพิ่มขึ้นทุกครัวเรือน

 “หากพบว่ามีการกักตุนไข่ไก่หรือฉวยโอกาสปรับราคาขายปลีกขึ้นไม่สอดคล้องกับราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มที่เกษตรกรขายได้จะดำเนินการตามกฎหมายราคาต่อไป”

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ กล่าว สถานการณ์นี้น่าจะเป็นระยะสั้น ยืนยันไข่ไก่ไม่ขาดแคลน การที่ราคาขายปลีกปรับตัวสูงขึ้นเพราะประชานแห่ซื้อจำนวนมาก ทำให้เกิดผู้ขายรายใหม่ที่ต้องการหากำไร

นายสุเทพ สุวรรณรัตน์ นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ภาคใต้ กล่าวว่า ปัจจุบันราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มเกษตรกรเฉลี่ยอยู่ที่ 2.80 บาทต่อฟอง ขณะที่ภาคใต้ราคาจะอยู่ระหว่าง 2.90-3.00 บาทต่อฟอง ซึ่งเป็นราคาที่ผู้ผลิตได้ตกลงไว้กับกระทรวงพาณิชย์ไม่ให้เกินกว่า 3 บาทต่อฟอง และไม่ว่าจะเกิดวิกฤตใดๆเกษตรกรผู้ผลิตก็ต้องทำการผลิตให้มีปริมาณไข่ไก่ที่เพียงพอกับการบริโภคของคนไทยอย่างแน่นอน เกษตรกรทุกคนขอยืนยันอีกครั้งว่าไข่ไก่ไม่ขาดแคลนแน่นอน

ผลผลิตไข่ยังคงออกสู่ท้องตลาดวันละ40-41ล้านฟองมาโดยตลอดทุกวัน แต่วันนี้นอกจากไข่ไก่ที่เคยอยู่ในสต็อกของร้านและชั้นวางสินค้าหน้าร้าน จะถูกซื้อไปไว้ในบ้านเรือนประชาชนจากความกังวลดังกล่าวแล้ว พบว่ามีผู้ค้าไข่และพ่อค้าคนกลางที่อยากมีกำไรในช่วงนี้ ไปกว้านซื้อไข่ไปจำหน่ายต่อเพื่อทำกำไร ยิ่งทำให้เกิดภาวะดีมานด์เทียมเพิ่มขึ้น ทำให้ประชาชนเข้าใจว่าสินค้าขาดตลาด จึงขอให้ภาครัฐเร่งตรวจสอบในกรณีนี้ และขอกรมปศุสัตว์ช่วยดูแลเรื่องการขายไข่ไก่ข้ามเขตด้วย เนื่องจากมีพฤติกรรมของคนบางกลุ่มที่กว้านซื้อไข่ไก่แต่ละเขตเพื่อข้ามไปจำหน่ายในเขตอื่นๆแล้ว

"ขอให้ประชาชนซื้อไข่ไก่ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ต้องตื่นตระหนก เพราะไข่ไก่จะไม่ขาดแคลน แม่ไก่ยังคงให้ผลผลิตเช่นเดิม หากทุกคนซื้อไข่เพียงพอบริโภคในครัวเรือนไม่กักตุนไว้ ปริมาณและการบริโภคเข้าสู่สมดุล ราคาไข่ก็กลับเข้าสู่ภาวะปกติ กลไกตลาดก็จะกลับสู่สมดุลอีกครั้ง และขอความร่วมมือห้างร้านบริหารการจำหน่ายให้ลูกค้าอย่างทั่วถึง หากมีผู้ค้าไข่ต้องการไข่จำนวนมากกว่าที่กำหนดก็ต้องแสดงใบอนุญาตทำการค้าสัตว์หรือซากสัตว์ หรือใบ ร.10 เพื่อเป็นหลักฐาน ก็จะช่วยลดการกว้านซื้อของกลุ่มพ่อค้าได้" นายสุเทพ กล่าว

ทั้งนี้การซื้อไข่ไก่กักตุนและนำไปจำหน่ายต่อเพื่อทำกำไรถือเป็นความผิด หากประชาชนพบเห็นสามารถแจ้งสายด่วนกรมการค้าภายใน1569เพื่อเอาผิดต่อไป